ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

แค่ได้รู้ก็เป็นมงคล!! เปิดที่มา..พระนาม "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ" ความหมายสุดลึกซึ้งจาก "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ" น้อยคนที่จะรู้ !!

              คนไทยบนแผ่นดินไทย ทราบกันดีอยู่แล้วว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอังคาร เดือน ๑๐ แรม ๓ ค่ำ ปีฉลู ตรงกับวันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๓๙๖ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี เสวยราชสมบัติเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๑๑ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๔๑๑ พระองค์ทรงทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยอย่างมากมาย พระองค์ทรงได้รับสมัญญานามว่า "พระปิยมหาราช" แปลว่า "มหาราชผู้ทรงเป็นที่รัก" และว่า "พระพุทธเจ้าหลวง" แต่เคยรู้ไหมว่าพระนามของพระองค์มีความหมายและที่มาอย่างไร

 

แค่ได้รู้ก็เป็นมงคล!! เปิดที่มา..พระนาม "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ" ความหมายสุดลึกซึ้งจาก "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ" น้อยคนที่จะรู้ !!

             พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับพระราชทานนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพมหามงกุฎ บุรุษยรัตนราชรวิวงศ์วรุตมพงศบริพัตร สิริวัฒนราชกุมาร ซึ่งคำว่า "จุฬาลงกรณ์" นั้นแปลว่า เครื่องประดับผม อันหมายถึง "พระเกี้ยว" ที่มีรูปเป็นส่วนยอดของพระมหามงกุฎหรือยอดชฎา

 

แค่ได้รู้ก็เป็นมงคล!! เปิดที่มา..พระนาม "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ" ความหมายสุดลึกซึ้งจาก "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ" น้อยคนที่จะรู้ !!

            สำหรับ "จุลมงกุฎ" หรือ "พระเกี้ยว" เป็นศิราภรณ์ประดับพระเกศาหรือพระเศียรของพระราชโอรสและพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ ที่มีรูปเป็นส่วนยอดของพระมหามงกุฎหรือยอดชฎา นอกจากนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ยังคงได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ "ตราพระเกี้ยว" เป็นเครื่องหมายประจำมหาวิทยาลัยอีกด้วย

 

แค่ได้รู้ก็เป็นมงคล!! เปิดที่มา..พระนาม "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ" ความหมายสุดลึกซึ้งจาก "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ" น้อยคนที่จะรู้ !!

            คำว่า "จุฬาลงกรณ์" นั้นมีความหมายว่า เครื่องประดับศีรษะ หรือ จุลมงกุฎ ซึ่งมีความหมายเชื่อมโยงกับพระนามของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ขณะทรงพระเยาว์ นั่นคือ "เจ้าฟ้ามงกุฎ"

 

แค่ได้รู้ก็เป็นมงคล!! เปิดที่มา..พระนาม "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ" ความหมายสุดลึกซึ้งจาก "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ" น้อยคนที่จะรู้ !!

            ต่อมาในการจัดพระราชพิธีบรมราชภิเษกเมื่อพระองค์มีพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษาในปี ๒๔๑๖ ได้รับการเฉลิมพระปรมาภิไธยว่า "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว"

            คำว่า "จุล หมายถึง เล็ก น้อย" ดังนั้น จุลจอมเกล้า จึงหมายถึง "จอมเกล้าน้อย" ซึ่งในลักษณะเดียวกับที่ฝรั่งใช้คำว่า "junior" เช่น "Tom junior" ซึ่งหมายถึง Tom ผู้ลูก "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ" จึงหมายถึง "พระราชโอรสของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ"

 

แค่ได้รู้ก็เป็นมงคล!! เปิดที่มา..พระนาม "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ" ความหมายสุดลึกซึ้งจาก "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ" น้อยคนที่จะรู้ !!

            นอกจากนี้พระโอรสของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงศ์ภูวนาถ ก็มีพระนามว่า พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ ซึ่งเป็นอีกตัวอย่างที่ใช้คำว่า "จุล"

            ส่วนคำว่า "จอม" หมายถึง "ยอดที่สูงสุด" และ "เกล้า. หมายถึง "หัว" ซึ่งใช้เฉพาะในโวหารแสดงความเคารพอย่างสูง ดังนั้น "จอมเกล้า" จึงหมายถึง "ผู้ที่เป็นหัวอันสูงสุด"

 

แค่ได้รู้ก็เป็นมงคล!! เปิดที่มา..พระนาม "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ" ความหมายสุดลึกซึ้งจาก "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ" น้อยคนที่จะรู้ !!

           จากนั้นพระองค์ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๑๑ โดยได้รับการเฉลิมพระปรมาภิไธยว่า

"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุฬาลงกรณ์เกล้าเจ้าอยู่หัว"

แค่ได้รู้ก็เป็นมงคล!! เปิดที่มา..พระนาม "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ" ความหมายสุดลึกซึ้งจาก "พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ" น้อยคนที่จะรู้ !!

              ต่อมาเมื่อพระองค์มีพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๑๖ จึงผนวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วเสด็จไปประทับ ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหารเป็นเวลา ๑๕ วัน หลังจากทรงลาสิกขาแล้ว ได้มีการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ ๒ ขึ้น เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๑๖โดยได้รับการเฉลิมพระปรมาภิไธยในครั้งนี้ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามตามจารึกในพระสุบรรณบัฎว่า

"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามงกุฏ บุรุษยรัตนราชรวิวงศ์ วรุตมพงศบริพัตร วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ อุภโตสุชาติสังสุทธเคราะหณี จักรีบรมนาถ มหามงกุฎราชวรางกูร สุจริตมูลสุสาธิต อรรคอุกฤษฏไพบูลย์ บุรพาดูลย์กฤษฎาภินิหาร สุภาธิการรังสฤษดิ์ ธัญลักษณวิจิตร โสภาคยสรรพางค์ มหาชโนตมางคประณต บาทบงกชยุคล ประสิทธิสรรพศุภผลอุดมบรมสุขุมมาลย์ ทิพยเทพาวตารไพศาลเกียรติคุณอดุลยพิเศษ สรรพเทเวศรานุรักษ์ วิสิษฐศักดิ์สมญาพินิตประชานาถ เปรมกระมลขัติยราชประยูร มูลมุขมาตยาภิรมย์ อุดมเดชาธิการ บริบูรณ์คุณสารสยามาทินครวรุตเมกราชดิลก มหาปริวารนายกอนันต์มหันตวรฤทธิเดช สรรพวิเศษสิรินธร อเนกชนนิกรสโมสรสมมติ ประสิทธิ์วรยศมโหดมบรมราชสมบัติ นพปฎลเศวตฉัตราดิฉัตร สิริรัตโนปลักษณมหาบรมราชาภิเษกาภิลิต สรรพทศทิศวิชิตชัย สกลมไหศวริยมหาสวามินทร์ มเหศวรมหินทรมหารามาธิราชวโรดม บรมนาถชาติอาชาวศรัย พุทธาทิไตรรัตนสรณารักษ์ อดุลยศักดิ์อรรคนเรศราธิบดี เมตตากรุณาสีตลหฤทัย อโนปมัยบุญการ สกลไพศาลมหารัษฎาธิบดินทร ปรมินทรธรรมิกหาราชาธิราช บรมนาถบพิตร พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว"

 

 

 

ที่มาจาก : เพจ Faculty of Political Science C.U. 

              https://th.wikipedia.org/wiki/พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว