- 22 ส.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th
พระครูมงคลประภาต (แสง จนฺทวณฺโณ) สิริอายุ ๙๘ ปี
วัดประเวศน์ภูผา(บ้านตรัง) ต.ตรัง อ.มายอ จ.ปัตตานี
พระบริสุทธิ์สงฆ์ที่ดำรงตนอยู่อย่างสมถะ ประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดตามพระธรรมวินัย ตลอดถึงทุ่มเทพัฒนา อบรมสั่งสอนพุทธศาสนิกชนให้ดำรงตนตามแนวทางแห่งศาสนายังคงมีอยู่มากมายหลาย องค์ภายใต้ชายธงแห่งพระพุทธศาสนา และที่วัดแห่งหนึ่งในจำนวน๒วัดของอำเภอมายอ จ.ปัตตานี มีพระเถราจารย์สุปฏิปันโณรูปหนึ่งซึ่งดำรงตน เป็นที่พึ่งของพุทธศาสนิกชนมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
พ่อแก่เจ้าแสง จนฺทวณฺโณเจ้าอาวาสวัดประเวศน์ภูผา(บ้าน ตรัง) สิริอายุ ๙๘ปี ๗๘ พรรษาพระบริสุทธิ์สงฆ์ผู้อาวุโสที่สุดแห่งสามจังหวัดชายแดนใต้ปัตตานี ยะลาและนราธิวาสพ่อท่านแสง ท่านมีนามเดิมว่า แสง นามสกุลแก้วทอง เกิดวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๒ บิดาชื่อนายบุญทอง มารดาชื่อนางแมะ แก้วทอง อุปสมบทเมื่ออายุ๒๑ปี ที่วัดประเวศน์ภูผา เมื่อวันที่๒๖ มิถุนายน ๒๔๘๓ โดยมีท่านพระครูสุวรรณไพบูลย์ (จันทร์ทอง)เจ้าอาวาสวัดตะเคียนทอง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เป็นพระอุปัชฌาย์
หลังจากบวชแล้วได้อยู่จำพรรษาที่วัดบ้านตรัง หมั่นศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด จนสามารถสอบได้นักธรรมเอกในเวลาไม่นานนัก ตลอดถึงยังได้ศึกษาเวทย์มนต์ คาถาอาคมจากพ่อท่านทองแก้ว พระสงฆ์ผู้ทรงศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดบ้านตรัง และไม่ลืมที่จะหาเวลาเดินทางไปกราบสักการะเยี่ยมเยียนองค์อุปัชฌาย์พ่อท่าน จันทร์ทอง อยู่เสมอ
พ่อท่านจันทร์ทอง อริยะเถราจารย์อาคมขลังแห่งวัดตะเคียนทอง ปัตตานี เป็นพระผู้ทรงแก่เรียน อุดมไปด้วยมหาบารมี เวทย์วิทยาคมของท่านเป็นที่เลื่องลือไปไกลทั้งพุทธศาสนิกชนหรือศาสนิกต่าง ศาสนาให้ความยอมรับ พ่อท่านแสง ท่านหมั่นไปกราบพ่อท่านจันทร์ทองและศึกษาวิชาอาคมมาจากองค์อุปัชฌาย์ของท่าน มาอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง
พ่อท่านแสงท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของพ่อท่านหวาน วัดลานควาย พระอริยเถราจารย์แห่งเมืองใต้ ผู้สร้างพระปิดตาอันโด่งดังประสบการณ์มากมาย ตลอดถึงท่านเป็นพระสหายกับพ่อท่านแดง วัดบูรพาราม ยอดพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณอีกรูปหนึ่งของเมืองปัตตานี ท่านแลกเปลี่ยนภูมิรู้ ภูมิธรรมกันเสมอมาเมื่อครั้งยังเป็นภิกษุหนุ่ม
ท่านมีความคิดที่มุ่งมั่นและตั้งใจที่จะบูรณะวัดบ้านตรังและสร้างเสนาสนะ ถาวรวัตถุต่างๆ ท่านจึง นำพาชาวบ้านและเพื่อนภิกษุไปเลื่อยไม้ เพื่อนำมาสร้างหอพระไตรปิฎก ศาลาโรงธรรมและโรงครัว ท่านเป็นพระนักพัฒนา นำพาชาวบ้านสร้างศาลากลางทุ่งนาเพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนชองชาวบ้าน ในการทำนาตลอดถึงเป็นผู้นำชาวบ้านในการทำถนนหนทางไปสวน ไปนา เพราะในอดีตนั้นการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก ยวดยานพาหนะไม่ต้อง ต้องใช้การเดินเท้าเท่านั้น
ท่านมุ่งมั่นตั้งใจนำพาชาวบ้านพัฒนาวัด พัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่องมี ผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมายจวบจนพ.ศ.๒๔๘๗ ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดประเวศน์ภูผา(บ้านตรัง) ตลอดชั่วชีวิตท่านได้สร้างคุณประโยชน์ต่อชาวบ้านตรังมากมายซื้อที่ดินมอบให้ สร้างโรงเรียนบ้านตรังเพื่อเป็นสถานที่ศึกษาของเหล่าลูกหลานในละแวกนั้น นับเป็นประโยชน์อย่างสูงที่ลูกหลานบ้านตรังได้รับ พ่อท่านแสง ท่านเป็นพระบริสุทธิ์สงฆ์ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านตรังตลอดถึง พื้นที่ใกล้เคียงด้วยวัตรปฏิบัติที่เรียบง่าย ดำรงตนอยู่อย่างสมถะเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เจริญรอยตามครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัดตามแบบฉบับพระโบราณ
พ่อแก่เจ้าแสง
นอกจากท่านจะเป็นพระนักพัฒนาแล้ว ท่านยังสืบทอดสายวิชา อาคมขลังมาจากครูบาอาจารย์ต่างๆมากมายหลายองค์ท่านสืบทอดวิชา”นะปถมัง”และ”นะปัดตลอด”มาจากสุดยอดพระเถราจารย์แห่งเมืองปัตตานีนามพ่อท่านจันทร์ทอง วัดตะเคียนทอง เทพเจ้าแห่งยะหริ่ง ท่านศึกษาเล่าเรียนวิชามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง องค์อุปัชฌาย์ ของท่านมาอย่างเจนจบครบถ้วน
ท่านจึงมีความสามารถเขียนอักขระเลขยันต์ ลบถบ ทำผงนะปถมังและนะปัดตลอดได้อย่างเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ประดุจดังองค์อาจารย์ ของท่าน ตามตำราทางไสยศาสตร์อิทธิคุณอานุภาพของผงปถมังหนักไปทางด้านอิทธิฤทธิ์อยู่ยงคงกระพัน ชาตรีจังงังกำราบศัตรูหมู่ปัญจามิตรสะกดทั้งมนุษย์และสัตว์ให้ตกอยู่ในอำนาจและเป็นกำบังล่องหนหายตัวถึงทางเมตตามหานิยมก็ใช้ได้เหมือนกันใช้ผสมทำเครื่องรางเมื่อพกพาติดตัวทำให้อยู่ยงคงกระพันหรือนำผงทาตัวเป็นล่องหนกำบังหายตัวได้ครูบาอาจารย์โบราณได้กล่าว
อุปเท่ห์สืบต่อกันมาว่าอันผงปถมังที่ทำถึงเพียงองการมหาราชน้อยใหญ่นั้นถ้าเอาผงนั้นไปโรยใส่เข้าที่ไหนเช่นโรยใส่ใต้ถุนบ้านเรือนมิช้านานบ้านเรือนนั้นจะยุบหายกลายเป็นป่าไปถึงบ่อน้ำที่มีน้ำเต็มเมื่อเอาผงปถมังโรยเข้ามิช้าน้ำก็จะถึงกับแห้งเหือดหายไปถ้านำไปทาที่เสาเรือนใครอาจทำให้คนบนเรือนถึงกับเป็นบ้าได้เมื่อทำผงสำเร็จถึงสูญนิพพานแล้วตำราให้นำเครื่องยามาผสมปั้นแท่งมีกฤษณา กะลำพัก ขอนดอก จันทน์ทั้งสอง ชะมดและพิมเสน ฯลฯ
ครูบาอาจารย์ยุคโบราณนิยมนำผงปถมังมาผสมทำพระ-เครื่องรางพระเครื่องที่มีชื่อเสียงหลายสำนักก็สร้างขึ้นโดยมีส่วนผสมของผงชนิดนี้ตลอดถึง ยังมีครูบาอาจารย์นำผงไปผสมหมึกสำหรับที่กระหม่อมตามความเชื่อว่าจะทำให้ อยู่ยงคงกระพันชาตรี คุณวิเศษมากมาย อีกท่านยังได้ศึกษาวิชาอาคมจากองค์อุปัชฌาย์ท่านมาอีกมากมาย ทั้งวิชาเล่นแร่ แปรธาตุ ตั้งธาตุ หนุนธาตุ ตลอดถึงวิชาดานของ เชี่ยวชาญวิชามนต์ธรณีสารใหญ่ ทำน้ำพระพุทธมนต์พลิกแผ่นดิน วิชากัน แก้คุณไสย ถอนของ ถูกกระทำย่ำยี ท่านศึกษามาอย่างมากมายและได้นำมาช่วยสงเคราะห์ลูกศิษย์ ลูกหา ญาติโยมที่เดือดร้อนมาขอบารมีท่านให้ช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งร้ายๆเหล่านั้น
นอกจากที่ท่านศึกษามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง แล้วท่านยังได้ศึกษาวิชาอาถรรพณ์โบราณมาจากพ่อท่านไชย อดีตเจ้าอาวาสของวัดบ้านตรังอีกมากมาย ทั้งจากตำรับตำราโบราณของคู่วัดบ้านตรังที่สืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่องและยาว นาน โดยเฉพาะวิชาสั่งสูญ(ธนูสั่ง) วิชาสั่งสูญเป็นยอดวิชาชั้นสูงที่หาผู้สืบทอดและปฏิบัติได้จริงน้อยมาก สมาธิจิตที่กล้าแข็งผนวกพลังจิตสุดอัศจรรย์ กับการภาวนากำกับอักขระเลขยันต์คาถาอาคมขลังลงสู่ลูกธนู ก่อนที่จะยิงออกไปให้ถูกต้องตามที่ต้องการ
วิชากายะพัน มหาอุดหยุดปืนเป็นอีกสรรพวิชาโบราณที่ท่านมีความเชี่ยวชาญและทำได้ขลังนัก ผู้นำไปบูชาต่างมีประสบการณ์มากมาย อุปเทห์วิธีใช้หากพาดทางซ้ายอุดมไปด้วยเมตตามหานิยม พาดทางขวาเป็นมหาอุดหยุดปืน แคล้วคลาดคงกระพันชาตรี ตลอดถึงวิชาอาถรรพณ์ผูกหุ่นพยนต์ ควายธนูท่านก็เชี่ยวชาญเข้มขลังยิ่งนัก อีกทั้งวิชาอาถรรพณ์ส่งผี แก้ชิน แก้บน เหยียบเสน(ปาน) เจ็บป่วย ไข้ ไม่สบายหาสาเหตุไม่เจอ เป็นต้องมาหาท่านให้ช่วยรักษา
เพราะการที่จะเดินทางไปยังโรงพยาบาลนับเป็นเรื่องใหญ่ของชาวบ้านย่านนั้น และต่อมาท่านได้เรียนวิชาอุดปืน จาก พ่อหลวงพุม และเรียนวิชาเมตตามหานิยมใหญ่ วิชาเสกทรง จากพ่อหลวงสีนวล วัดบ้านตรัง วิชาเบิกป่า เปิดไพร ปิดป่าจากพ่อหลวงทอง วัดบ้านตรัง จะเห็นได้ว่า วัดบ้านตรังไม่เคยขาดซึ่งพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษ มหาอาคมขลัง เปรียบประดุจดังตักศิลาแห่งหนึ่งของเมืองปัตตานี และพ่อท่านยังมีดี
สืบสายวิชาทางด้านมโนราห์
โดยได้ศึกษาจาก โนรานุ่ม โนรานิ่ม โนราแคล้ว ซึ่งมีชื่อเสียงมากในขณะนั้นในหัวเมืองปัตตานี ได้ศึกษาเรียนวิชาสืบทอดมหามนต์แห่งมโนราห์ มาอย่างเจนจัด วิชาเสกหวาย วิชามงกุฎพระพุทธเจ้าวิชาหุงสีผึ้งเมตตามหานิยม วิชาทำเชือกครองหงส์ วิชาคันธนูพรานบุญ เรียกได้ว่าครบถ้วนท่านจึงเป็นพระเถราจารย์ที่ลูกหลานมโนราห์ต่างให้ความเคารพนับถือแลศรัทธาเป็นที่สุด
สายวิชามโนราห์นั้นว่ากันว่าเป็นยอดแห่งเมตตามหานิยมอย่างเอกอุ เครื่ององค์ ทรงเครื่อง แต่งกายทุกครั้งต้องเสกคาถาภาวนามนต์ตรา แป้งที่ใช้ผัดหน้า ทาตัวต้องเสกด้วยคาถา ว่ามนต์ลงอักขระเลขยันต์ วิชาสายมโนราห์เป็นอีกสายวิชาที่แน่น แรง ลึก เด็ดขาดเป็นที่ประจักษ์ชัดมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน
พ่อท่านแสง เป็นพระบริสุทธิ์สงฆ์ วาจาสิทธิ์นักพัฒนา ผู้ทรงแก่เรียนแม้ว่าท่านจะสืบสายวิชามาอย่างมากมายแต่ท่านไม่เคยอวดอ้าง คุณวิเศษ ซึ่งหากท่านคิดอย่างเด่นดังทางด้านนี้รับรองว่าทุกวันนี้ชื่อเสียงบารมีท่าน คงดังสะท้านไปทั่วแผ่นดิน ท่านยังคงดำรงตนอยู่อย่างสมถะเรียบง่าย เป็นที่พึ่ง เป็นหลักธรรมหลักชัยของพุทธศาสนิกชนท่ามกลางความไม่สงบของเหตุการณ์ไฟใต้ที่ คุกรุ่นในปัจจุบัน
วัตถุมงคลต่างๆท่านสร้างขึ้นมาเพื่อสืบทอดวิชาตามที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาและ เมตตามอบให้กับศิษยานุศิษย์นำไปบูชาเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต และย้ำเสมอให้อยู่ศีลธรรมอันดีงาม ทุกวันนี้แม้วัยจะล่วงเลยมาถึง ๙๔ พรรษาแต่ท่านยังคงแข็งแรง ปฏิบัติศาสนากิจอย่างเคร่งครัดทุกวันนี้แม้จะเกิด เหตุการณ์ร้ายขึ้นแทบทุกวันในพื้นที่แต่ชาวบ้านที่นั่นต่างดำรงชีวิตกัน อย่างปกติ
แม้จะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิมแต่ทุกคนที่อาศัยอยู่ในหมู่ บ้านต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ว่าเหตุการณ์จะทวีความรุนแรงเพียงใด พวกเขาทุกคนก็จะยืนหยัดต่อสู้จะไม่ยอมทิ้งถิ่นฐานแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอน ไม่หนีหรืออพยพโยกย้ายไปไหนแน่นอน เพราะพื้นที่ทุกตารางนิ้วบรรพบุรุษปู่ย่า ตายายของเขาเกิดที่นี่ โตที่นี่และก็ตายที่นี่
ควายธนู ของพ่อแก่เจ้าแสงจึงถือเป็นสุดยอดเครื่องรางชนิดหนึ่งตั้งแต่โบราณมาถึงยุคปัจจุบัน ในอดีตควายธนูเป็นเครื่องรางที่จำเป็นของพรานป่าซึ่งมีวิถีชีวิต
เกี่ยวพันกับผืนป่าในสมัยที่ยังอุดมสมบูรณ์ โดยมีคติความเชื่อว่า มีพุทธคุณด้านการป้องกันคุ้มครองผู้บูชาให้พ้นภยันตรายจากภูตผีปีศาจต่อสู้กับอสูรกาตลอดจนคุณไสยต่าง ๆ
เมื่อมีผู้คิดร้ายปล่อยของหรือทำมนต์ดำมาหากเรามีติดบ้านหรือติดตัวไว้ ควายธนูอาถรรพ์ จะทำการต่อสู้ขัดขวาง
มิให้ใครทำอันตรายแก่เราและครอบครัวได้เลย
แม้แต่ผู้ปองร้ายหรือโจรขโมยจะขึ้นบ้านก็ยังช่วยขับไล่ได้ด้วย
นิยมไว้ใช้เป็นทหารผี หรือเฝ้าบ้าน นอกจากนี้ยังป้องกันไฟไหม้ ฟ้าผ่า แก้ทางคนพาล อีกทั้งนำพามาซึ่งโชคลาภ เมตตา และค้าขาย อุดมโภคทรัพย์ช่วยหนุนความเป็นอยู่ให้ชีวิตรุ่งเรืองได้ดีมาก
ควายธนูของพ่อแก่เจ้าแสงสร้างขึ้นด้วยจากดินสองฝั่งคลองผสมว่านผงพุทธคุณต่างๆและผงอาถรรพ์เป็นหลัก เช่นผงนะปถมัง นะปัดตลอดผงพญาทรพี ผงธาตุสี่ รวมทั้งมวลสารเก่าสำคัญ ๆ นำมาผสมเข้าด้วยกันแล้วลงอักขระตามตำราโบราณ ลบผงถมยันต์ลงอักขระยันต์ตรีนิสิงเห ยันต์พระเจ้า๑๖ พระองค์ บังคับกำกับด้วย มนตรา โองการและคาถา มิได้ขาดตลอดทุกเช้าค่ำจนพิธีหุ้งควายคือการนำควายมาเผากับแกลบจนสว่างมีข้าวปากหม้อปลามีหัวมีหางเซ่นไหว้สำเร็จเสร็จเป็นตัว แล้วนำมาปลุกเสก ในวันเสาร์ วันอังคาร ตกเย็นท่านลงหัวใจพญาควาย อีกครั้ง ท่านว่าเป็นเคล็ดวิชาโบราณเพื่อให้เป็นที่แน่ใจว่าควายธนูของท่านจะได้ อยู่คงเป็น อมตะ ไม่มีวันเสื่อมแลการเซ่นไหว้ เสมือนมีจิต(วิญญาณ)สิงสู่อยู่ หากไม่เซ่นไหว้ จะทำให้หุ่นไม่มีเรียวแรงด้อยอิทธิฤทธิ์ควายธนูพ่อแก่เจ้าแสงซึ่งใช้ในทางป้องกันปัดเป่า เมตตา มหาเสน่ห์ โภคทรัพย์อุดมสมบูรณ์ จึงไม่ใช่หุ่นผีหรือควายผีที่มุ่งหมายเพื่อทำร้ายใครจึงไม่อันตรายหากเราหลงลืมการเซ่นไหว้ แต่หากท่านต้องการให้ควายมีอิทธิฤทธิ์มาก ๆ แล้วควรหมั่นเซ่นบูชาเป็นนิจด้วยหญ้าคาที่ต้องบริกรรมคาถาเสกด้วยมือเดียว กับน้ำสะอาด ควายธนูเฝ้าบ้านและพกพา
ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้
เพื่อเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์