- 22 ส.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” หรือ “ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ” ของเรา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์อีกพระองค์หนึ่งที่ทรงสนพระทัยในพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ทรงเป็นแบบอย่างในการศึกษาและปฏิบัติธรรมด้วยพระองค์เองกับพระอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานอยู่อย่างสม่ำเสมอ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่๙ ก็ทรงแสดงออกถึงความสนพระทัยในการศึกษาพุทธศาสนาเช่นเดียวกับพระราชสวามี เห็นได้จากการที่ในหลวงรัชกาลที่๙ มักเสด็จไปสนทนาธรรมกับเหล่าพระอริยะ ซึ่งในการเสด็จนั้นแทบไม่เคยมีครั้งใด ที่สมเด็จพระราชินีฯ จะมิได้เสด็จร่วมกับพระองค์เลย ทรงมีความสนพระทัยและพระราชศรัทธาเช่นเดียวกับพระราชสวามี
และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นข้อยืนยันว่า สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่๙ ทรงมีพระราชศรัทธาอันแรงกล้าในธรรมะ นั่นคือ “หอคัมภีร์ธรรมกิติยากร”
“หอคัมภีร์ธรรมกิติยากร” เกิดจากพระราชศรัทธาอันแรงกล้าในธรรมะของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้วยมาจากพระราชทุนทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ให้แก่ พระอาจารย์อารยวังโส โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ อัญเชิญมาถวายเป็น กัปปิยภัณฑ์ อันสามารถเรียกใช้ได้จากอุปัฏฐากในโอกาสที่ พระอาจารย์อายวังโสได้รับอาราธนานิมนต์ไปประกอบศาสนกิจ ณ วังเทเวศร์ ประมาณปีพุทธศักราช ๒๕๕๒ และพระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้ถวายกัปปิยภัณฑ์อันเป็นมูลค่า ๕๐,๐๐๐ บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) ร่วมด้วย โดยมีพระประสงค์เพื่อพระอาจารย์เรียกใช้ในการประกอบศาสนกิจในชมพูทวีป (อินเดีย) เนื่องในวันวิสาขบูชาประจำปีนั้น
จากการเรียกใช้กัปปิยภัณฑ์อันแทนปัจจัยที่ประสงค์เป็นมูลค่าต่างๆ เพื่อจะได้น้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วนั้น ยังมีมูลค่าปัจจัยคงเหลืออยู่ประมาณเกือบ ๔๐๐,๐๐๐ บาท (สี่แสนบาทถ้วน)พระอาจารย์อารยวังโสจึงได้นำเป็นต้นทุนก่อบุญกุศล สร้างหอคัมภีร์ธรรมด้วยไม้สักขึ้นหนึ่งหลัง โดยมีศรัทธาญาติโยมร่วมถวายปัจจัยก่อสร้างเพิ่มเติม ๒-๓ ราย จนสามารถสร้างหอคัมภีร์ธรรม เพื่อพระสงฆ์วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) จังหวัดลำพูน จะได้ใช้ประโยชน์ในการศึกษาปฏิบัติ... เพื่อเป็นพระราชกุศลอันยิ่งแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จนก่อสร้างหอคัมภีร์ธรรมได้เสร็จสมบูรณ์ และได้ถวายพระพรทูลเชิญ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานประกอบพิธีเปิดหอคัมภีร์ธรรมกิติยากรดังกล่าว โดยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ถวายการรับเสด็จในครั้งนั้น (ดังรูปภาพประกอบ)
ทั้งนี้ ได้ทรงประทานอนุญาตให้ใช้ “พระราชสกุลกิติยากร” เป็นชื่อหอคัมภีร์ธรรม (ดังหลักฐานเอกสารหนังสืออนุญาตประกอบจึงปรากฏชื่อ “หอคัมภีร์ธรรมกิติยากร” ณ วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน จนถึงบัดนี้)
สุดท้ายนี้ ขอให้พระราชกุศลใดใดที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงกระทำไว้ ขอให้ผลแห่งพระราชกุศลเหล่านั้น จงอภิบาลรักษาพระองค์ท่าน ซึ่งทรงมีพระชนมายุ ครบ ๘๕ พรรษา ได้มีพระสุขภาพพลานามัยทั้งกาย-ใจสมบูรณ์ ขอจงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทยสืบไป ขอประเทศชาติ พระพุทธศาสนา สถานบันพระมหากษัตริย์ จงมั่นคง และยั่งยืนสืบไป พึงก้าวหน้าสถาพรอย่างเต็มกำลังสืบต่อไป ..ในสมัยของ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิรลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร.. รัชกาลที่๑๐ ในปัจจุบัน” ขอจงทรงพระเจริญ