ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

"ในหลวงร.๑๐ ทรงมีพระราโชบายดูแลพระศาสนา เช่นเดียวกับบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์" สมเด็จพระสังฆราช เปิดโครงการเทศธรรมของสามเณร โดยสำนักทรัพย์สินฯ

วันพุธ ที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๙.๐๐ น. เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปยังวัดพระยายัง เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ทรงเปิดอาคารวรลักษณาวดี และทรงเปิดโครงการสัมมนาหลักสูตรวิชาการเทศนาธรรมของสามเณรธรรมาสน์ทอง พุทธศักราช ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นโครงการที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นเจ้าภาพดำเนินการก่อสร้างและจัดทำขึ้น

 

โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า

"ในหลวงร.๑๐ ทรงมีพระราโชบายดูแลพระศาสนา เช่นเดียวกับบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์" สมเด็จพระสังฆราช เปิดโครงการเทศธรรมของสามเณร โดยสำนักทรัพย์สินฯ

"การช่วยกันสนับสนุนภารกิจเหล่านี้นับเป็นการสนองพระราโชบายของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ที่ได้พระราชทานไว้เป็นแนวทางว่า ให้ 'พัฒนาความรู้และคุณภาพของพระสงฆ์ให้เป็นหลักทางใจของประชาชน ให้พระมีความสำนึกและเป็นประโยชน์ในสังคมไทย'

 

ถ้าพิจารณาถึงพระราโชบายนี้ให้ถ่องแท้ก็จะตระหนักว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงมีแนวพระราชดำริสอดคล้องตามพระบรมราโชบายของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ทุกๆ พระองค์ และถ้าศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย ก็จะพบว่าสถาบันสงฆ์ คือหลักทางใจของประชาชน เป็นผู้อบรมสั่งสอนให้มีสติ ให้รู้จักระงับยับยั้งสิ่งชั่ว และให้มีปัญญานำพาสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

"ในหลวงร.๑๐ ทรงมีพระราโชบายดูแลพระศาสนา เช่นเดียวกับบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์" สมเด็จพระสังฆราช เปิดโครงการเทศธรรมของสามเณร โดยสำนักทรัพย์สินฯ

อาคารวรลักษณาวดีแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนภารกิจอันจะนำมาซึ่งความเจริญของชาติ ความงอกงามของพระศาสนา และสนองพระราโชบายของพระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับโครงการสามเณรธรรมาสน์ทอง ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างศาสนทายาทผู้มีความสามารถในการประกาศศาสนธรรม จัดว่าเป็นการสืบอายุพระพุทธศาสนาไว้ได้อย่างแท้จริง

 

โอกาสนี้ อาตมภาพขอฝากข้อคิดแก่ท่านทั้งหลายไว้ว่า ถ้าศาสนวัตถุใดที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อการดำรงศาสนธรรม วัตถุนั้นก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าศาสนบุคคลใดไม่ดำรงตนอยู่ในศาสนธรรม ไม่เข้าใจศาสนธรรม และไม่สามารถเผยแผ่ศาสนธรรมได้อย่างมีคุณภาพ บุคคลนั้นก็ไร้ประโยชน์ และถ้าศาสนธรรมใด ขาดศาสนบุคคลสืบทอดและเผยแผ่ ศาสนธรรมนั้นก็ย่อมสิ้นสูญไปจากโลกนี้

 

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราชาวพุทธ จะเป็นผู้สนับสนุนการดำรงไว้ซึ่งพระศาสนา ด้วยปัญญาถ่องแท้ในการเผยแผ่ศาสนธรรม การพัฒนาศาสนทายาท และการสร้างศาสนวัตถุที่เหมาะสม เพื่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา และเพื่อความสุขของสังคมไทยสืบไป

 

ขอทุกท่านจงตั้งจิตอธิษฐานถวายพระราชกุศลทั้งมวลนี้แด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ มีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นต้น ที่ได้ทรงรักษาประเทศชาติและพระศาสนาให้เจริญยั่งยืนมาถึงยุคปัจจุบัน ตลอดจนถวายพระกุศลแด่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรลักษณาวดี ผู้ทรงพระอุปการคุณต่อวัดพระยายัง อีกทั้งถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน"

 

 

ที่มา : สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช