รู้จริง...รู้แจ้ง...ทุกเรื่องราวแห่งปาฏิหาริย์ www.tnews.co.th

๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ คือวันครบรอบ ๑๓ ปีแห่งการละสังขารของ "พระครูสุทธิธรรมรังษี" หรือ "หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท"

แม้หลวงปู่เจี๊ยะจะจากพวกเราไปนานแล้ว แต่หลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับตัวท่านยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเราชาวพุทธอยู่เสมอ

วันนี้เราจะมาทบทวนชีวิตและปฏิปทาในบางแง่บางมุมของหลวงปู่เจี๊ยะกันอีกครั้งเพื่อร่วมกันรำลึกถึงครูบาอาจารย์ ซึ่งเรื่องราวของท่านได้กลายเป็นคติสอนใจอนุชนคนรุ่นหลังตราบจนกระทั่งปัจจุบันนี้

 

เลียนแบบกันไม่ได้!! รวมที่สุดแห่งปฏิปทา "ช็อกโยม" ของ "หลวงปู่เจี๊ยะ" ... บอกได้คำเดียวว่า "พระอริยะสายลุย" แบบนี้ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว!!

[หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท]

หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท เป็นศิษย์รุ่นหลัง ๆ ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต  ฉายา "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง" ที่หลวงปู่มั่นตั้งให้นั้นมาจากการที่ท่านเป็นพระที่มีกิริยาอาการไม่เหมือนใคร คือ อยู่นิ่งไม่ค่อยได้ ชอบทำงานนั่นนี่ โดยเฉพาะงานก่อสร้างและงานใช้แรง  หากมีเวลาว่างเมื่อใดเป็นต้องขยับเนื้อขยับตัวอยู่ตลอดเวลา  อีกทั้งยังชอบพูดจาโผงผาง ส่งเสียงเอะอะโวยวาย  ดูอาการภายนอกแล้วพูดได้คำเดียวว่าไม่สู้จะเรียบร้อย

-  มีเรื่องเล่าว่า  ครั้งหนึ่งหลวงปู่เจี๊ยะได้รับนิมนต์ให้ไปสวดมนต์ในงานแต่งงาน  เมื่อไปถึงบ้านของเจ้าภาพ แทนที่จะเดินขึ้นบันไดตามปกติ ท่านกลับโหนตัวขึ้นทางลูกกรง  พอขึ้นไปนั่งบนบ้านแล้ว ท่านก็ถามเจ้าภาพว่า "จะสวดหรือไม่สวดล่ะ! เอ้า...ประเคนกินกันเลย!"

-  เวลาออกบิณฑบาต ถ้าเดินผ่านบ้านของญาติโยมที่คุ้นเคยกัน หลวงปู่เจี๊ยะจะถือวิสาสะเดินเข้าไปในบ้านเลย แล้วก็พูดกับเจ้าของบ้านว่า "เฮ้ย...ชงกาแฟมาถ้วยซิ!"  ระหว่างที่จิบกาแฟก็นั่งไขว่ห้างกระดิกเท้า สูบบุหรี่  หรือวันไหนอยากฉันอะไรก็พูดว่า "เฮ้ย...ตำน้ำพริกกุ้งแห้งเกลือให้กูหน่อย!"

-  วันหนึ่งหลวงปู่เจี๊ยะเจ็บขา ต้องนั่งรถไปบิณฑบาต  เมื่อถึงบ้านลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด ท่านก็สั่งทันที "เอ้า...เอาข้าวมาให้กูกิน!"  ว่าแล้วก็ตั้งบาตร แล้วนั่งอ่านหนังสือพิมพ์เฉย  พอลูกศิษย์ทัก ท่านก็บอกว่า "ขากูเจ็บนี่หว่า"  ลูกศิษย์จึงบอกว่า "งั้นท่านอาจารย์ก็ไม่ต้องมาบิณฑบาตเลย... นอนอยู่เฉย ๆ เลย... ผมจะจัดไปถวายให้ที่วัดเอง"  ได้ยินแบบนั้นท่านก็สวนทันทีว่า "ไม่ได้! เดี๋ยวคนเขาจะด่า...หาว่าขี้เกียจบิณฑบาต"  ลูกศิษย์ก็เลยพูดย้อนว่า "นั่นละ... เขาจะด่าหนักละ... ไปทำอย่างนั้น"  ท่านฟังแล้วก็นิ่ง ไม่ได้เคืองลูกศิษย์แต่อย่างใด

-  เวลาหลวงปู่เจี๊ยะจะไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องมีพิธีรีตองมาก เรียกว่าไปง่ายมาง่าย  พาหนะที่ท่านใช้เดินทางไปกรุงเทพฯ เป็นประจำนั้น หาใช่รถยนต์ไม่ แต่เป็นรถสิบล้อ!  เวลาจะเดินทาง พร้อมเมื่อไหร่ท่านก็ออกไปโบกรถทันที  รถคันไหนที่ท่านหมายตาไว้เป็นต้องจอดทุกคัน เพราะท่านไม่ได้โบกริมถนน แต่ยืนโบกกลางถนนเลย  บางครั้งท่านรีบมาก คว้าจีวรคว้าย่ามได้ก็ออกจากวัดเลย แล้วค่อยห่มจีวรตอนยืนโบกรถอยู่กลางถนน  บางทีก็ไม่ได้โบกมืออย่างเดียว แต่ยกเท้าขึ้นโบกด้วย  ลูกศิษย์บางคนเล่าว่า คราวหนึ่งมารอรับท่านที่กรุงเทพฯ เห็นท่านนั่งอยู่บนหลังคารถสิบล้อ! พร้อมกับตะโกนว่า "หนาวโว้ย...หนาว!"  ลูกศิษย์ถามว่าขึ้นไปบนนั้นทำไม ท่านบอกว่า ข้างล่างนั้นคนเต็ม แถมมีผู้หญิงมาด้วย ท่านก็เลยขึ้นมานั่งบนหลังคา

-  เห็นแบบนั้น แต่จริง ๆ แล้วหลวงปู่เจี๊ยะเป็นพระที่ไม่ถือเนื้อถือตัว  พระอาจารย์วัน อุตตโม ซึ่งเป็นวิปัสสนาจารย์ชื่อดังของภาคอีสาน เล่าว่าท่านเคยได้รับนิมนต์ให้ไปฉันในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ฝั้น อาจาโร  ระหว่างที่กำลังฉันอยู่บนปะรำพิธีก็สังเกตเห็นหลวงปู่เจี๊ยะนั่งฉันปะปนอยู่กับพระหนุ่มเณรน้อยด้านล่าง  หลวงปู่เจี๊ยะนั้นเป็นพระที่พระอาจารย์วันเคารพมาก พอฉันเสร็จท่านจึงมาขอขมาต่อหลวงปู่เจี๊ยะว่า "ครูอาจารย์... เกล้าฯ ขอขมาที่นั่งสูงกว่า"  พระเณรทั้งหลายได้ยินแบบนั้นก็ตกใจกันใหญ่ เพราะคิดว่าหลวงปู่เจี๊ยะเป็นแค่หลวงตาธรรมดา ๆ-  อีกครั้งหนึ่ง พระอาจารย์วันไปงานฉลองพระที่จังหวัดขอนแก่น  ท่านได้รับนิมนต์ให้นั่งบนแท่นใหญ่ในพิธี  พอเห็นหลวงปู่เจี๊ยะนั่งอยู่ข้างล่าง ท่านก็รีบลงมาขอขมาหลวงปู่เจี๊ยะทันที  แต่หลวงปู่เจี๊ยะก็บอกว่า "วัน... ไป ๆ ไม่เป็นไร"

 

เลียนแบบกันไม่ได้!! รวมที่สุดแห่งปฏิปทา "ช็อกโยม" ของ "หลวงปู่เจี๊ยะ" ... บอกได้คำเดียวว่า "พระอริยะสายลุย" แบบนี้ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว!!

เลียนแบบกันไม่ได้!! รวมที่สุดแห่งปฏิปทา "ช็อกโยม" ของ "หลวงปู่เจี๊ยะ" ... บอกได้คำเดียวว่า "พระอริยะสายลุย" แบบนี้ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว!!

คนส่วนใหญ่มองเห็นหลวงปู่เจี๊ยะว่าเป็นแค่หลวงตาธรรมดา ๆ และอาจจะนึกดูหมิ่นหรือค่อนแคะอยู่ในใจด้วยก็ได้ที่เห็นอากัปกิริยาของท่านไม่เรียบร้อย  แต่เขาเหล่านั้นหารู้ไม่ว่า หลวงปู่เจี๊ยะเป็นที่นับถือของพระอาจารย์รูปสำคัญ ๆ ในสายหลวงปู่มั่น  ท่านเหล่านั้นมักจะมาเยี่ยมและกราบคารวะหลวงปู่เจี๊ยะอย่างสม่ำเสมอ อาทิ หลวงปู่หลุย จันทสาโร หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่สาม อกิญจโน หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงพ่อพุธ ฐานิโย พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร

แม้ว่าหลวงปู่เจี๊ยะจะเป็นคนโผงผาง เอะอะตึงตังอยู่เสมอ แต่ท่านนอบน้อมในพระธรรมยิ่งนัก  บางครั้งขณะที่ท่านกำลังคุยกับพระเณร ส่งเสียงดังหรือมีเสียงเฮเป็นระยะ ๆ แต่ทันทีที่มีพระเณรไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่พูดเรื่องธรรมะขึ้นมา ท่านจะนิ่งแล้วฟังอย่างแสดงความเคารพในพระธรรม จนลูกศิษย์หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า "กิริยาทางโลกกับกิริยาทางธรรมของท่านช่างต่างกันยิ่งนัก"

หลวงปู่จันทา ถาวโร เคยถามหลวงปู่เจี๊ยะว่า "กิริยาอาการของท่านเป็นอย่างนี้ ท่านไม่กลัวคนตำหนิบ้างหรือ?"  หลวงปู่เจี๊ยะตอบว่า

"กิริยาภายนอกนั้นจะเป็นอย่างไรก็ตามเถอะ... ถ้าหากเรามุ่งมั่นปั้นใจจนเที่ยงดี... ก็ยังดีกว่าคนที่กิริยางาม แต่ใจไม่เที่ยง!!

เพราะนิสัยวาสนาของคนเรามันไม่เหมือนกัน  เขามีคำพูดอยู่มิใช่หรือว่า 'แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งวาสนาแข่งกันไม่ได้'  เราจึงไม่ไปแข่งวาสนากับใคร  เราเป็นอย่างนี้จึงพอใจอย่างนี้ เพราะนิสัยวาสนาเป็นมาอย่างนี้!!"

ในยุคที่ผู้คนติดยึดอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอกและตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่เห็นด้วยตานั้น เรื่องราวของหลวงปู่เจี๊ยะได้เตือนใจให้เราตระหนักว่า สิ่งสำคัญกว่ารูปลักษณ์ภายนอกก็คือคุณธรรมภายใน  หากเราไม่หลงเข้าใจว่าเปลือกเป็นแก่นแล้วก็ย่อมจะเรียนรู้สิ่งดี ๆ จากชีวิตและปฏิปทาของหลวงปู่เจี๊ยะได้อีกมากมาย

 

เลียนแบบกันไม่ได้!! รวมที่สุดแห่งปฏิปทา "ช็อกโยม" ของ "หลวงปู่เจี๊ยะ" ... บอกได้คำเดียวว่า "พระอริยะสายลุย" แบบนี้ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว!!

เลียนแบบกันไม่ได้!! รวมที่สุดแห่งปฏิปทา "ช็อกโยม" ของ "หลวงปู่เจี๊ยะ" ... บอกได้คำเดียวว่า "พระอริยะสายลุย" แบบนี้ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว!!

เลียนแบบกันไม่ได้!! รวมที่สุดแห่งปฏิปทา "ช็อกโยม" ของ "หลวงปู่เจี๊ยะ" ... บอกได้คำเดียวว่า "พระอริยะสายลุย" แบบนี้ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว!!

เลียนแบบกันไม่ได้!! รวมที่สุดแห่งปฏิปทา "ช็อกโยม" ของ "หลวงปู่เจี๊ยะ" ... บอกได้คำเดียวว่า "พระอริยะสายลุย" แบบนี้ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว!!

------------------------------------------------------------------------------

 

อ้างอิง : https://th-th.facebook.com/notes/phra-paisal-visalo