ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

สมเด็จพระสังฆราชบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย "พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์" สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๑๑ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์

เช้าวันศุกร์ ที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๐ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลง ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงเป็นประธานในการที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระราชูปถัมภ์ งานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย เจ้าพระคุณ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เจ้าอาวาสวัดราชบพิธ ยุคที่ ๒ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ เป็นปีที่ ๘๐

อีกทั้งอุทิศถวาย พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสยุคที่ ๑, สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสนมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสยุคที่ ๔ พระราชอุปัธยาจารย์ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน, สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (จินฺตากรเถร) เจ้าอาวาสยุคที่ ๕ และพระศาสนโศภน (ภาณกเถร) เจ้าอาวาสยุคที่ ๓ ด้วย

การนี้ โปรดให้เชิญพระพุทธรูปประจำวันประสูติและประจำวันเกิด คู่กับพระสถูปพระอัฐิ และอัฐิ อดีตเจ้าอาวาสทุกยุคออกประดิษฐาน

พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ ๑ พระสงฆ์จตุรวรรคสวดคาถาธรรมบรรยาย พระราชาคณะ ๑๐ รูปสวดพระพุทธมนต์ รับพระราชทานฉัน พร้อมกับพระสงฆ์อีก ๒๕๐ รูปรับพระราชทานฉัน จากนั้น ภาคบ่าย พระสงฆ์สมณศักดิ์ ๕๐ รูปสวดมาติกา สดับปกรณ์พระอัฐิ-บังสุกุลอัฐิ

 

เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ประทานพระวโรกาสให้ พระพรหมมุนี เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เบิกนายพรชัย ศรีชัยยงพานิช ประธานกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนวัดราชบพิธเฝ้าถวายทุนการศึกษาเพื่อประทานแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ปฏิบัติงานในฐานะศิษย์วัด ทั้งนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดให้เจ้าของทุนเป็นผู้มอบทุนด้วยตนเอง

อนึ่ง ระหว่างทางเสด็จกลับ มีประชาชนโดยเฉพาะนักเรียนที่เดินทางมาทัศนศึกษา ณ วัดราชบพิธมารอเฝ้ารับเสด็จเป็นจำนวนมาก เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช มีพระปฏิสันถารด้วยโดยทั่วถึง

เจ้าพระคุณ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ประสูติเมื่อวันศุกร์ ที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๐๒ เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ์ (ต้นราชสกุลชมพูนุท) กับหม่อมปุ่น มีพระนามเดิมว่าหม่อมเจ้าภุชงค์

ทรงศึกษาอักขรสมัยเบื้องต้นกับเจ้าจอมมารดาสัมฤทธิ์ ในรัชกาลที่ ๓ ผู้เป็นพระอัยยิกา แล้วเสด็จไปทรงศึกษาที่โรงเรียนแรฟเฟิลส์ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเสด็จกลับมาแล้ว ทรงบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์

ครั้น พ.ศ.๒๔๒๒ ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทฺธสิริ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ประทับ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงพระนามฉายาว่า สิริวฑฺฒโน

ทรงศึกษาภาษาไทย ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต และพระปริยัติธรรมจนแตกฉาน ทรงพระปรีชาญาณพิเศษในทางรจนาหนังสือทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง ทรงพระนิพนธ์ตำราและหนังสือสำคัญทางพระพุทธศาสนาไว้มากมาย เช่น คัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา หรือพจนานุกรมภาษาบาลีแปลเป็นไทย มหานิบาตชาดก นิทานต้นบัญญัติ สามเณรสิกขา เป็นต้น พระนิพนธ์เหล่านี้ยังใช้เป็นคู่มือในการศึกษาภาษาบาลี และการศึกษาพระพุทธศาสนาของพระภิกษุสามเณรมาจนถึงปัจจุบัน

ทรงเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย และทรงริเริ่มให้จัดหลักสูตรธรรมศึกษา เป็นหลักสูตรการเรียนพระพุทธศาสนาสำหรับฆราวาส ควบคู่ไปกับหลักสูตรนักธรรมของบรรพชิต

พระกรณียกิจพิเศษได้แก่ การเป็นพระราชกรรมวาจาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงผนวช

เมื่อเจ้าประคุณ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสยุคที่ ๑ สิ้นพระชนม์ ใน พ.ศ.๒๔๔๔ จึงได้ทรงเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา เป็นเจ้าอาวาสยุคที่ ๒

เจ้าพระคุณ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงบริบูรณ์ด้วยพระศีลาจารวัตรเนกขัมมปฏิปทาไม่มีบกพร่อง มีพระอัธยาศัยเยือกเย็นสุภาพ ไม่มีผู้ใดเคยเห็นพระอาการกริ้วโกรธหรือยินว่ามีรับสั่งผรุสวาทรุนแรงแม้แต่ครั้งเดียว ทรงพระสุขุมคัมภีรภาพในการบริหารกิจการพระศาสนา ด้วยความมั่นคงในหลักการตามพระธรรมวินัยเป็นสำคัญ

นอกจากนั้นยังทรงอุปการะกิจสาธารณูปการไว้เป็นอันมาก เช่น ทรงอุปถัมภ์โรงเรียนวัดราชบพิธสืบต่อจากเจ้าอาวาสยุคที่ ๑, ทรงอุปถัมภ์การสร้างวัดมะขามใต้ (วัดชินวราราม) สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย จังหวัดปทุมธานี, ทรงสร้างโรงเรียนวัดชินวราราม (เจริญผลวิทยาเวศม์) จังหวัดปทุมธานี เป็นต้น

ด้วยเหตุนี้ จึงทรงงอกงามไพบูลย์ในพระศาสนาและในพระอิสริยยศทางราชตระกูลตลอดมานับแต่รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นที่ทรงพระราชศรัทธายิ่งของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ตลอดจนคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า สกลมหาสังฆปริณายก พระองค์ที่ ๑๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๔

เจ้าพระคุณ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า สิ้นพระชนม์เมื่อวันพุธ ที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๔๘๐ สิริพระชนมายุ ๗๗ พรรษา

สมเด็จพระสังฆราชบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย "พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์" สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๑๑ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์

สมเด็จพระสังฆราชบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย "พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์" สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๑๑ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระสังฆราชบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย "พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์" สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๑๑ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์

สมเด็จพระสังฆราชบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย "พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์" สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๑๑ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระสังฆราชบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย "พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์" สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๑๑ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระสังฆราชบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย "พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์" สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๑๑ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระสังฆราชบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย "พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์" สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๑๑ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์

 

ข้อมูลจาก สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช