ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

จุดเริ่มต้นการเกณฑ์ทหาร!! ๒๙ สิงหาคม "ตราพระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร ร.ศ. ๑๒๔" จาก ไพร่ สู่ คนสามัญ #วันนี้ในอดีต !!

                 วันนี้ในอดีต ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๘ (ค.ศ. ๑๙๐๕) ออกพระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร ร.ศ. ๑๒๔ เป็นการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงไพร่ให้เป็นพลเมือง ไพร่ คือ ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ มีอายุตั้งแต่ ๑๕-๑๖ ปี ขึ้นไปจนถึงอายุ ๗๐ ปี ทำหน้าที่รับใช้เจ้านายเพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่จะได้รับความคุ้มครองจากเจ้านาย หรือ มีหน้าที่ให้แรงงาน ส่วย หรือเงินแก่บ้านเมืองเป็นการตอบแทนที่ได้รับความคุ้มครอง

จุดเริ่มต้นการเกณฑ์ทหาร!! ๒๙ สิงหาคม "ตราพระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร ร.ศ. ๑๒๔" จาก ไพร่ สู่ คนสามัญ #วันนี้ในอดีต !!

ไพร่แบ่งออกเป็น ๓ ประเภท คือ ไพร่หลวง ไพร่สม และไพร่ส่วย

๑. ไพร่หลวง

         ในสมัยรัชกาลที่ ๕ คือพวกที่ทำงานให้หลวงโดยมีกำหนดว่าปีหนึ่งต้องเข้ารับราชการ ๓ เดือน หรือมิฉะนั้นจะต้องจ่ายเงินให้คนอื่นมาทำแทนเดือนละหนึ่งตำลึงครึ่ง (๖ บาท) หรือปีละสี่ตำลึงครึ่ง (๑๘ บาท)

๒. ไพร่สม

        เป็นไพร่ที่พระมหากษัตริย์พระราชทานให้มูลนายและขุนนางที่มีตำแหน่งทางราชการเพื่อผลประโยชน์ตอบแทน มูลนายจะมีไพร่มากน้อยขึ้นอยู่กับ ยศ ตำแหน่ง ศักดินา ไพร่สมต้องทำงานให้ราชสำนักปีละ ๑ เดือน ส่วนเวลาที่เหลือรับใช้มูลนายหรือส่งเงินแทน เมื่อถึงยามสงครามทุกคนต้องเป็นทหารป้องกันอาณาจักร เมื่อมูลนายถึงแก่กรรมไพร่สมจะถูกโอนมาเป็นไพร่หลวง นอกจากบุตรจะขอควบคุมไพร่สมต่อจากบิดา เป็นไพร่ส่วนบุคคล แต่ต้องทำงานให้หลวงปีละเดือนหรือมีค่าเท่ากับหนึ่งตำลึงครึ่ง

๓. ไพร่ส่วย

         ไพร่ที่ส่งสิ่งของเพื่อช่วยราชการ ไพร่ที่ไม่ต้องทำงานให้รัฐ แต่ส่งส่วยให้เป็นการตอบแทนการส่งส่วยมีทั้งส่งเป็นรายปีและส่วยเกณฑ์กรณีพิเศษ เช่น เรียกเกณฑ์ให้ตัดไม้มาใช้ในการสร้างพระเมรุ ขุดหาแร่ทองแดงมาหล่อพระพุทธรูป ฯลฯ บางครั้งอาจเรียกเกณฑ์แรงงานไพร่ส่วยได้เป็นกรณีพิเศษ โดยทางการจัดหาเสบียงอาหารให้ด้วย ไพรส่วยนี้ที่จริงแล้วคือไพร่หลวงที่ไม่สะดวกในการเข้ารับราชการหรือทางการไม่ต้องการแรงงานเพราะไม่สามารถหางานให้คนทั่วราชอาณาจักรทำได้ อีก ทั้งต้องการส่วยสิ่งของเพื่อไปค้าสำเภาด้วย จึงกำหนดให้ส่งส่วยแทน

 

จุดเริ่มต้นการเกณฑ์ทหาร!! ๒๙ สิงหาคม "ตราพระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร ร.ศ. ๑๒๔" จาก ไพร่ สู่ คนสามัญ #วันนี้ในอดีต !!

           การใช้แรงงานไพร่มีระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ เรียกว่า “การเข้าเดือน” ในแต่ละสมัยมีระยะเวลาไม่เท่ากัน เช่น ในสมัยอยุธยา ไพร่ต้องมาเข้าเวร ๖ เดือนโดยอาจใช้แรงงาน ๖ เดือนและกลับไปทำมาหากิน ๖ เดือน หรืออาจต้องเข้าออกเดือนเว้นเดือนตามลักษณะของงานของแต่ละกรม ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าฯ ให้ลดลงเหลือเพียงปีละ ๔ เดือน คือ เข้าเดือนออก ๒ เดือน ในสมัยรัชกาลที่ ๒ ทรงลดเหลือเพียงปีละ ๓ เดือนจนถึงสมัยรัชกาลที่ ๕

 

จุดเริ่มต้นการเกณฑ์ทหาร!! ๒๙ สิงหาคม "ตราพระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร ร.ศ. ๑๒๔" จาก ไพร่ สู่ คนสามัญ #วันนี้ในอดีต !!

           ต่อมาเริ่มจากปี พ.ศ. ๒๔๒๕ ได้มีการตราพระราชบัญญัติทหารออกมาหลายฉบับ มีลักษณะเป็นทหาร "สมัคร" อันเป็นกรรมวิธีเริ่มแรกในการแปลงไพร่มาเป็นพลเมือง ในปี พ.ศ. ๒๔๔๐ เมื่อพระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช (จอมพลพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช) ทรงสำเร็จการศึกษาวิชาทหารบกจากประเทศเดนมาร์ก ได้ทรงริเริ่มการปรับปรุงการทหารให้ก้าวหน้าทันสมัยมากขึ้นต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๔๘ มีประกาศใช้ "พระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร ร.ศ. ๑๒๔" เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบทหารจากการ "สมัคร" มาเป็น "เกณฑ์" โดยกำหนดให้ไพร่ที่มีอายุ ๑๘-๒๐ ปี ต้องเข้ารับการคัดเลือกเป็นทหารทุกคนในแต่ละปีคนที่ได้รับการคัดเลือกต้องเข้ารับราชการเป็นทหารในกองประจำการ มีกำหนด ๒ ปี จึงปลดเป็นกองหนุนแล้วไม่ต้องเสียค่าราชการใด ๆ อีกต่อไปจนตลอดชีวิตส่วนคนที่ไม่ได้รับการคัดเลือก จะเสียเงินให้ราชการแทนหรือรอไว้สำหรับการคัดเลือกในปีต่อไปก็ได้

 

จุดเริ่มต้นการเกณฑ์ทหาร!! ๒๙ สิงหาคม "ตราพระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร ร.ศ. ๑๒๔" จาก ไพร่ สู่ คนสามัญ #วันนี้ในอดีต !!

           ฉะนั้น จึงถือได้ว่าปีดังกล่าวเป็นปีที่มีความสำคัญมากเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงไพร่ให้เป็นคนสามัญ พระราชบัญญัตินี้ไม่ได้ประกาศใช้พร้อมกันทั่วประเทศ แต่จะค่อย ๆ ขยายไปเรื่อย ๆ จนถึง พ.ศ. ๒๔๕๙ จึงประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติการเกณฑ์ทหารทั่วราชอาณาจักร ซึ่งเป็นรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ และในปี พ.ศ. ๒๔๖๘ จึงมีการเลื่อนอายุทหารเกณฑ์จาก ๑๘ ปีเป็น ๒๐ ปี

           ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น หลังจากเป็นทหารรับใช้ชาติครบกำหนด ๒ ปีแล้ว ไพร่ก็เป็นอิสระสามารถประกอบอาชีพได้ตามใจชอบ ไม่ต้องมีพันธะในการเข้าเวรรับใช้มูลนายดังแต่ก่อน ทำให้ราษฎรสามารถเพิ่มผลผลิตได้ตามความต้องการของตลาดในระบบใหม่ที่มีการค้ากับต่างประเทศ ประกอบกับระบบการศึกษาแบบใหม่ทำให้สามัญชนมีโอกาสเลื่อนฐานะทางสังคม

 

 

ที่มาจาก : https://www.facebook.com/notes/uddthailand

              https://th.wikipedia.org/wiki/ไพร่