ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th/

ครั้งนั้นหลวงพ่อคูณเริ่มจาริกธุดงค์ออกจากวัดถนนหักใหญ่  อำเภอด่านขุนทด  จังหวัดนครราชสีมา  มุ่งหน้าสู่จังหวัดหนองคาย  เส้นทางธุดงค์ของหลวงพ่อคูณยึดเอาแนวชายดงชายเขาอันเปล่าเปลี่ยวเป็นเส้นทางโคจร  จะหยุดยั้งปักกลดบำเพ็ญสมณธรรม  ก็ถือเอาทำเลชัยภูมิซึ่งห่างไกลชุมชนหมู่บ้านพอสมควร

หลวงพ่อได้เดินเท้าไปเรื่อยๆ  กระทั่งถึงจังหวัดหนองคาย  จากนั้นก็อาศัยเรือข้ามแม่น้ำโขงไปขึ้นยังฝั่งลาว และได้ปักกลดบำเพ็ญธรรมตามทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าพรรษาจึงได้จำพรรษาอยู่ที่วัดหนึ่งในนครเวียงจันทน์ 

หลังออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อคูณ  ปริสุทโธ  ได้อำลาเจ้าอาวาสผู้มีเมตตาอารีออกเดินธุดงค์ต่อไปอีก  และยังไม่คิดกลับเมืองไทย  เนื่องจากพอใจในสภาพโดยทั่วไปของแผ่นดินลาวซึ่งอุดมไปด้วยป่าเขาอันรื่นรมย์  เหมาะสมต่อการบำเพ็ญสมณธรรมขจัดกิเลสให้เบาบางไปจนถึงสูญสิ้นในที่สุด

แรงศรัทธา..สร้างปาฏิหาริย์ !!! หลวงพ่อคูณ บิณฑบาตกับผี ที่เมืองร้าง ณ ถ้ำผาเลน !!! อมตะตำนานเล่าขาน

หลวงพ่อคูณจาริกธุดงค์ไปเรื่อยๆ  หากพบหมู่บ้านก็พอได้อาศัยโคจรบิณฑบาต  หากไม่พบพานชุมชนคนอาศัยก็เท่ากับอดอาหารงดฉันไปโดยปริยาย  แต่มิได้ทำให้เดือดร้อนวุ่นวายอะไรนัก  เพราะจิตใจนั้นอิ่มเอิบเบิกบานอยู่ด้วยธรรมตลอดเวลา

จากเวียงจันทน์  หลวงพ่อคูณจาริกไปจนถึงเมืองหลวงพระบางและได้จำพรรษาที่หลวงพระบางอีกหนึ่งพรรษา  ครั้นออกพรรษาแล้วก็ออกธุดงค์จากทางเหนือล่องลงมาทางใต้ของประเทศ  กระทั่งเข้าเขตเมืองผาเลน

ห่างจากเมืองผาเลนไปไม่ไกลนัก  มีทิวเขาโอบล้อมทอดตัวสลับซับซ้อนอยู่ด้านหนึ่ง  เมื่อหลวงพ่อคูณจาริกผ่านเชิงเขาขนาดย่อมก็พบถ้ำแห่งหนึ่งดูร่มรื่นสงัดเงียบเป็นที่น่าพอใจ  ไม่ไกลจากถ้ำมีธารน้ำไหลใสสะอาด  พออาศัยใช้เป็นน้ำสรง  น้ำดื่มได้สะดวก  และที่ตีนเขามีหมู่บ้านหลายหลังคาเรือน  ชาวบ้านเหล่านั้นก็แสดงความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อชาวบ้านเห็นหลวงพ่อคูณมาปักกลดบำเพ็ญธรรมอยู่ที่ถ้ำผาเลน  ก็พากันปีนป่ายไต่เขาขึ้นมานมัสการท่านถึงในถ้ำ  แล้วนิมนต์ให้ท่านอยู่ที่ถ้ำนี้นานๆ  เพื่อที่พวกตนจะได้มีโอกาสทำบุญใส่บาตรสร้างกุศลกันบ้าง  เพราะไม่มีพระสงฆ์องค์เจ้าผ่านมานานแล้ว  หลวงพ่อคูณก็รับนิมนต์  ทำให้ชาวบ้านพากันปีติยินดีกันทั่วหน้า และกล่าวย้ำแก่ท่านว่าอย่าได้วิตกกังวลเรื่องภัตตาหาร  พวกเขาจะเตรียมอาหารไว้ใส่บาตรทุกๆ  เช้ามิให้ขาด

แรงศรัทธา..สร้างปาฏิหาริย์ !!! หลวงพ่อคูณ บิณฑบาตกับผี ที่เมืองร้าง ณ ถ้ำผาเลน !!! อมตะตำนานเล่าขาน

คืนนั้นหลวงพ่อคูณเข้าไปอาศัยถ้ำใหญ่แห่งนั้นเป็นที่บำเพ็ญเพียรด้วยความรู้สึกปลอดโปร่งเป็นที่น่าพอใจ  เพราะอากาศภายในถ้ำไม่อับชื้น  มีกระแสลมไหลผ่านวนเวียนตลอดเวลา

ตราบกระทั่งถึงเวลาได้อรุณขอบฟ้าเริ่มเรืองแสงจางๆ  หลวงพ่อคูณจึงเตรียมตัวออกบิณฑบาต  แต่อากาศขณะนั้นยังขมุกขมัวมืดมัวไปทั่ว  ประกอบกับภูมิอากาศบนภูเขามีหมอกลงจัดทำให้มองออกไปไกลๆ  ไม่ได้เลย

หลวงพ่อคูณสะพายบาตรเรียบร้อยก็ออกจากบริเวณหน้าถ้ำเดินลงมาตามทางเล็กๆ  ซึ่งคดเคี้ยวและลาดชัน  มาจนถึงทางแยกลงทางที่ทอดลงไปยังหมู่บ้านตีนเขา  จึงตัดสินใจไปทางซ้าย   เส้นทางสายนี้อ้อมภูเขาลาดลงไปไม่ชันนัก  แต่ทางเดินออกจะรกเรื้อด้วยหญ้าและวัชพืชคลุมหน้าดินค่อนข้างหน้า

เดินตามทางไปสักครู่ใหญ่ความสว่างได้เพิ่มขึ้นและหมอกก็จางลง  หลวงพ่อคูณเพิ่งสังเกตเห็นว่าทางที่ท่านเดินผ่านไปนั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ  กระทั่งไปบรรจบที่ราบกว้าง  มีเงาตะคุ่มของกองอิฐเก่าๆ ซึ่งทะลายลงมาระเกะระกะ และมีซากกำแพงปรักหักพังเป็นส่วนๆ  อยู่ในบริเวณนั้น

หลวงพ่อคูณรู้สึกแปลกใจเหมือนกันที่เห็นภูมิประเทศออกจะพิกลอยู่  ท่านจำได้ว่าตอนที่เดินผ่านหมู่บ้านก่อนจะขึ้นภูเขามาถึงถ้ำไม่เคยเห็นกองอิฐกองหินหรือซากกำแพงแม้แต่น้อย  แต่เหตุใดเช้าวันนี้จึงได้มีสภาพผันแปรเปลี่ยนไปผิดตามากเหลือเกิน หรือว่าท่านอาจจะมาผิดทาง เลยเดินเข้าหมู่บ้านด้านซึ่งไม่เคยผ่านมาก่อน

แล้วความคิดซึ่งไม่แน่ใจว่ามาผิดทางก็พลันหมดไป  เมื่อแลไปข้างหน้าชาวบ้านทั้งหญิงชายหลายคนยืนถือขันข้าวและถาดใส่อาหารรอคอยใส่บาตรอย่างเงียบๆ  อยู่ข้างทางเดิน  หลวงพ่อคูณจึงเดินเข้าไปด้วยกริยาอันสำรวม สายตาทอดต่ำเพียงมองเห็นเลยไปแค่ 3 – 4 ก้าว

หลวงพ่อคูณเปิดฝาบาตร  รับข้าวและกับข้าวซึ่งห่อด้วยใบตองเป็นห่อเล็กๆ  ไปจนสุดแถว  แล้วท่านก็เดินกลับโดยอาการอันสงบเช่นเดิน  ขณะที่เดินย้อนกลับขึ้นเขาหลวงพ่อคูณยังมีข้อสะกิดใจสงสัยอยู่อีกประกากรหนึ่งก็คือ ทำไมชาวบ้านที่นำอาหารมาใส่บาตรจึงเงียบเชียบกันเหลือเกิน

ตลอดเวลาที่ท่านเดินผ่าน  ไม่มีใครสนทนาพูดคุยกันเลย  ทุกคนไม่ว่าจะใส่บาตรแล้วหรือกำลังรอใส่บาตรต่างก็ยืนนิ่งทื่อๆ  ยืนอยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น  ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนย้ายหรือเดินไปเดินมาตามประสาคนทั่วไป  ไม่มีการทักทายหรือพูดคุยซึ่งกันและกัน  ซึ่งออกจะผิดวิสัยธรรมชาติของสังคมคนหมู่มากทำให้บรรยากาศดูสงัดวังเวงบอกไม่ถูก

หลวงพ่อคูณครุ่นคิดเพียงเท่านี้ก็เลิกใส่ใจ  ด้วยเห็นว่าไร้ประโยชน์ไร้สาระที่จะนำมาเป็นกังวล  ท่านเดินมาตามเส้นทางเดิมซึ่งทอดอ้อมเขาขึ้นมาจนถึงถ้ำ

หลังจากฉันเรียบร้อยแล้วหลวงพ่อคูณได้นำบาตรไปชำระล้างที่ลำธาร  เศษข้าวเศษอาหารซึ่งเหลือจากฉันได้นำมากองไว้บนก้อนหินเพื่อให้ทานแก่สัตว์ตัวเล็กๆ  อีกต่อหนึ่ง  แล้วหลวงพ่อก็นำบาตรกลับมาผึ่งแดดที่หน้าถ้ำ  จากนั้นท่านจึงเข้าที่ปฏิบัติทางจิตนั่งสมาธิสลับกับการเดินจงกรม  กระทั่งครบกำหนดเวลาในตอนเย็นหลวงพ่อคูณก็ไปสรงน้ำที่ลำธาร

แรงศรัทธา..สร้างปาฏิหาริย์ !!! หลวงพ่อคูณ บิณฑบาตกับผี ที่เมืองร้าง ณ ถ้ำผาเลน !!! อมตะตำนานเล่าขาน

คราวนี้ท่านรู้สึกแปลกใจที่เห็นเศษข้าวเศษอาหารซึ่งท่านวางกองไว้บนก้อนหินมิได้พร่องไปเลย  แสดงว่าไม่มีสัตว์เล็กๆ  เข้ามากินแม้แต่ตัวเดียว  ซึ่งเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องแปลกเอาการ เพราะตลอดระยะเวลาที่ท่านเดินธุดงค์  หากมีเศษข้าวเศษอาหารเหลือจากฉันแล้วท่านวางกองทิ้งไว้  สัตว์เล็กๆ  จะเข้ามากินจนหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือทุกครั้ง  แต่สำหรับครั้งนี้  แม้แต่มดตัวเล็กๆ  ก็ยังไม่มาตอมเสียด้วยซ้ำ

เช้าวันต่อมา ก่อนออกไปบิณฑบาต  หลวงพ่อคูณแวะไปดูกองเศษข้าวและเศษอาหารเพราะกลัวจะบูดเน่า  ปรากฎว่าหายไปหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือเศษเล็กเศษน้อยตกค้างเอาไว้เลย  เมื่อเข้าไปพิจารณาดูใกล้ๆ  ยิ่งน่าแปลกหนักเข้าไปอีก  เพราะถ้าหากมีสัตว์มากินเศษอาหารจะต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้  แต่เท่าที่หลวงพ่อคูณเห็นขณะนั้น  บนก้อนหินเกลี้ยงเกลาประหนึ่งไม่เคยวางเศษอาหารใดๆ  เอาไว้เลย ดุจเศษอาหารทั้งหมดหายวับไปเฉยๆ

หลวงพ่อคูณปฏิบัติสมณธรรมอยู่ที่ถ้ำผาเลนได้ 3 – 4 วัน  ชาวบ้านตีนเขาหลายคนก็ขึ้นมาหาหลวงพ่อถึงที่ถ้ำด้วยความเป็นห่วง  เพราะตั้งแต่ท่านมาอยู่ถ้ำผาเลนไม่เคยลงไปบิณฑบาตที่หมู่บ้านเลยทั้งๆ  ที่รับนิมนต์พวกเขาไว้แล้ว หลวงพ่อคูณบอกว่าได้ลงเขาไปบิณฑบาตทุกเช้าไม่ได้เว้นแม้แต่วันเดียว  ทำไมชาวบ้านจึงกล่าวหาว่าท่านไม่ไปบิณฑบาตล่ะ

ชาวบ้านก็พากันงุนงงสงสัย  เพราะทั่วทั้งหมูบ้านไม่มีใครเห็นหลวงพ่อ  อีกทั้งข้าวปลาอาหารซึ่งทำเตรียมไว้เพื่อใส่บาตรก็ค้างเก้อมาทุกวัน  จะว่าหลวงพ่อคูณหลงทางไปบิณฑบาตหมู่บ้านอื่นก็เป็นไปไม่ได้  เพราะตลอดระแวดนี้ไม่มีหมู่บ้านอื่นใดอีกมีแต่ป่าเขาและดงไม้ไปตลอด

ชาวบ้านสอบถามหลวงพ่อคูณว่าท่านลงจากเขาไปทางทิศไหน  หลวงพ่ออธิบายว่าออกจากถ้ำแล้วก็ไปตามทางเดินลงเขา  พอถึงทางแยกก็เลี้ยวซ้ายเป็นทางอ้อมภูเขาไป ชาวบ้านพอรู้ว่าหลวงพ่อคูณไปทางไหน   พวกเขาก็พูดแทบจะพร้อมๆ  กันว่า 

“หลวงพ่อไปบิณฑบาตกับผีเสียแล้ว”  

จากนั้นจึงได้อธิบายต่อไปว่าเส้นทางที่จะลงจากเขาไปสู่หมู่บ้านนั้นต้องแยกเข้าทางเดินขวามือ หากเลี้ยวซ้ายซึ่งเป็นทางเดินเก่าๆ อ้อมภูเขาไปนั้นคือทางไปเมืองร้างมาแต่โบราณกาล ไม่มีผู้คนอยู่อาศัยแม้แต่คนเดียว ชาวบ้านตีนเขายังไม่กล้าล่วงล้ำเข้าไปในเขตเมืองร้างแห่งนั้น เพราะเคยมีคนไปเจอภูตผีปิศาจน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงที่เมืองร้างมาแล้ว

หลวงพ่อคูณรับฟังเรื่องซึ่งท่านไม่เคยคาดคิดมาก่อนเมื่อพวกชาวบ้านเล่าความจนหมดสิ้นท่านก็ได้แต่หัวเราะหึๆ บอกแก่ทุกคนว่า

“เป็นบุญของผีเมืองร้างที่ได้ใส่บาตรพระ ซ้ำยังช่วยต่อชีวิตพระไปได้อีกหลายมื้อ จะว่าไปแล้วข้าวปลาอาหารของผีนี่มันก็แซ่บ หลายอยู่”

แรงศรัทธา..สร้างปาฏิหาริย์ !!! หลวงพ่อคูณ บิณฑบาตกับผี ที่เมืองร้าง ณ ถ้ำผาเลน !!! อมตะตำนานเล่าขาน

เช้าวันรุ่งขึ้น หลวงพ่อคูณก็ออกบิณฑบาตตามกิจของท่าน เมื่อลงจากเขามาถึงทางแยกซ้ายขวา ท่านตัดสินใจเดินไปทางซ้าย ซึ่งเป็นเส้นทางไปบรรจบกับเมืองร้าง เมื่อเข้าสู่เขตเมืองร้างแล้ว คราวนี้ท่านมองไม่เห็นมีใครมารอคอยใส่บาตรเช่นทุกเช้าที่ผ่านมา ที่เห็นอยู่เบื้องหน้าท่ามกลางสายหมอกหม่นมัว คือซากปรักพังของเมืองโบราณซึ่งล่มสลายไปหมดสิ้น ความรุ่งเรืองของศิลปวัตถุทั้งหลายเหลือเพียงแต่เศษอิฐหินที่รอคอยการผุพังกลายเป็นธุลีดินไปในที่สุด

หลวงพ่อคูณสงบจิตจนแนบสนิทอยู่กับกุศลซึ่งท่านได้สั่งสมมา แล้วแผ่เมตตาออกไปยังวิญญาณทั้งหลายที่ยังวนเวียนอยู่ในอาณาบริเวณเมืองร้างแห่งนี้ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้พบกับทางไปสู่สุคติที่ดีกว่า จากนั้นท่าน ก็เดินกลับย้อนไปตามทางเดิม เมื่อถึงทางแยกท่านก็เลี้ยวไปตามทางลงเขาทอดไปสู่หมู่บ้านตีนเขา ซึ่งชาวบ้านจริงๆกำลังเตรียมอาหารรอคอยใส่บาตรอยู่

แรงศรัทธา..สร้างปาฏิหาริย์ !!! หลวงพ่อคูณ บิณฑบาตกับผี ที่เมืองร้าง ณ ถ้ำผาเลน !!! อมตะตำนานเล่าขาน

อ้างอิงข้อมูลจาก - pantip.com/topic/32520455 , www.web-pra.com