ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th/

กล่าวกันว่า ในคืนหนึ่ง มีขโมย ๒ คน คิดกันเขาไปขโมยของในหอสวดมนต์ซึ่งเป็นที่จำวัดของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ขโมยทั้งสองนัดแนะกันว่า คนหนึ่งจะเข้าไปค้นข้างในและอีกคนหนึ่งรอรับที่หัวบันได 

คืนที่เข้าไปค้นข้างในไม่เห็นอะไร เพราะคืนนั้นเป็นคืนข้างแรม มืดมาก เจ้าพระคุณสมเด็จฯ นั่งซุ่มดูขโมยทั้ง สองอยู่ใกล้กับบันไดนั้น คนที่อยู่หัวบันไดไม่เห็นท่าน และเข้าใจว่าเป็นเพื่อนของตน 

จึงสะกิดท่านให้ส่งของออกมา เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้ส่ง บาตร , กระโถน, ป้านน้ำร้อน, จีวร, และพัดให้แก่ขโมยผู้นั้นไปจนหมด

ครั้งเมื่อ สมเด็จโต ช่วยขโมย ๒ คน ยกของ ในคืนเดือนมืด !!! ผลสุดท้าย หัวขโมย ทั้ง ๒ คน ต้องนำของมาคืน !!! พร้อมทั้งกลับตัวเป็นคนดี

สักครู่หนึ่งขโมยคนที่เข้าไปค้นข้างบนก็ลงมาข้างล่าง และเมื่อเห็นสิ่งของเหล่านี้กองอยู่ จึงเข้าใจว่าเพื่อนของตนขึ้นไปขนลงมา จึงได้ช่วยกันขนของเหล่านี้รีบออกจากวัดระฆังฯไป 

พอพ้นเขตวัดจึงได้เกิดซักถามกันขึ้น คนที่ได้ขึ้นไปค้นข้างบนหอสวดมนต์บอกว่า "ไม่พบของอะไรเลย" อีกคนหนึ่งก็ว่า "ของเหล่านี้ไม่ได้ส่งลงมาดอกหรือ?" คนนั้นก็ปฏิเสธว่า "เปล่า" 

จึงเป็นอันรู้ว่า ชะรอยเจ้าพระคุณสมเด็จฯ นั่นเองที่ช่วยส่งของลงมาให้ บาปของเขาที่ทันตาเห็นก็คือ เขาทั้งสองนอนไม่หลับตลอดคืน ปรึกษากันไม่ตกว่า จะทำอย่างไรกับสิ่งของเหล่านี้ดี 

ครั้งเมื่อ สมเด็จโต ช่วยขโมย ๒ คน ยกของ ในคืนเดือนมืด !!! ผลสุดท้าย หัวขโมย ทั้ง ๒ คน ต้องนำของมาคืน !!! พร้อมทั้งกลับตัวเป็นคนดี

ครั้นรุ่งขึ้นแต่เช้ามืดขโมยทั้งสองจึงได้ตกลงใจ รีบนำเอาสิ่งของที่ขโมยไปกลับมาถวายคืนให้ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ สมเด็จฯจึงได้ขอบิณฑบาตต่อขโมยทั้งสองว่า "ต่อไปจงอย่าได้ริอ่านถือเอาสิ่งของของผู้อื่นโดยเจามิได้ยกให้อีกเลย" ขโมยทั้งสองก็รับคำสัญญากับท่านทุกประการ

ครั้งเมื่อ สมเด็จโต ช่วยขโมย ๒ คน ยกของ ในคืนเดือนมืด !!! ผลสุดท้าย หัวขโมย ทั้ง ๒ คน ต้องนำของมาคืน !!! พร้อมทั้งกลับตัวเป็นคนดี

อ้างอิงข้อมูลจาก - www.pantip.com