ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th/

อาจจะพูดได้ว่าธรรมะนั้น เป็นปรัชญาของศาสนาที่เราทำความเข้าใจยากในสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอน แต่หากเข้าใจในตัวบทแล้วจนลึกซึ้งล่ะก็ เราจะได้หลายสิ่งมากมายจากธรรมะ และการฟังเทศ อย่างน้อยๆเราจะได้รับแนวทางการใช้ชีวิตที่ถูกต้องอย่างแน่นอน และที่สำคัญ ในหลวง ร.9 ท่านชื่นชอบเรื่องนี้มากวันนี้จึงได้นำเรื่องราวของพระองค์ท่านเกี่ยวกับ ธรรมะมาให้อ่านกันครับ เป็นแง่คิดดีๆเลยทีเดียว

เหตุเมื่อ ในหลวง ร.๙ ทรงชี้หน้าข้าราชบริพารคนสนิทแล้วเรียกว่า ก้อนหิน !?! ทุกสิ่งที่พระองค์ตรัส แฝงแนวคิด ด้วยพระอัจฉริยภาพอันล้ำลึก !!!

ในหลวงทรงศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เวลาเสด็จฯเยือนถิ่นต่างๆ ก็มักจะไปนมัสการและสนทนาธรรมกับบรรดาพระเกจิอาจารย์ในทุกภูมิภาค ซึ่งเรื่องที่ทรงพูดคุยก็มีตั้งแต่เรื่องหลักธรรมตลอดจนเรื่องประชาชนและชาติบ้านเมือง ด้วยความที่มีพระราชกรณียกิจมากจนไม่มีเวลาเสด็จไปด้วยพระองค์เองบ่อยๆ หลายครั้งจึงมีรับสั่งให้ข้าราชบริพารช่วยไปอัดเทปธรรมของพระอาจารย์รูปที่ทรงศรัทธามากเป็นพิเศษกลับมา เพื่อเปิดฟังเวลาที่ทรงว่าง หรือแม้แต่ยามที่ทรงพระประชวร ก็ยังทรงหยิบเทปธรรมที่ได้จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช มาเปิดฟังทุกวันก่อนบรรทม

หนึ่งในผู้ที่อัดเทปธรรม คือ พล.อ.อ.หะริน หงสกุล ซึ่งเป็นหัวหน้าลูกศิษย์ของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แห่งวัดหินหมากเป้ง จังหวัดหนองคาย เล่าว่าหลังจากอัดเทปถวายไปได้ไม่กี่ครั้ง ในหลวงก็รับสั่งว่า “เทปที่ให้มานั้น ทีหลังจดวันที่ที่เทศน์มาด้วย เพราะบางเรื่องหลวงปู่เทศน์ซ้ำๆ กันหลายหน” เพราะทรงอยากจะทราบว่ากัณฑ์ใดหลวงปู่เทศน์ซ้ำบ่อย แสดงว่าลูกศิษย์ยังบกพร่องเรื่องนั้นอยู่มาก จึงต้องเทศน์สอนซ้ำ ที่ทรงทราบก็เพราะในหลวงตั้งใจฟังธรรมและคิดวิเคราะห์ไปด้วยนั่นเอง

เหตุเมื่อ ในหลวง ร.๙ ทรงชี้หน้าข้าราชบริพารคนสนิทแล้วเรียกว่า ก้อนหิน !?! ทุกสิ่งที่พระองค์ตรัส แฝงแนวคิด ด้วยพระอัจฉริยภาพอันล้ำลึก !!!

และอีกวันหนึ่ง ในหลวงทอดพระเนตรเห็น พล.อ.อ.หะริน ก็ทรงชี้หน้าแล้วรับสั่งว่า “ก้อนดิน” ทุกคนที่เห็นและได้ยินต่างพากันตกใจว่าพล.อ.อ.หะริน ไปทำอะไรจนในหลวงต้องทรงทำเช่นนั้น แต่ตัวพล.อ.อ.หะริน เอง ทราบดีว่า เทปม้วนล่าสุดที่ถวายไปนั้นเป็นเรื่อง “สมมุติบัญญัติ” คือทุกสิ่งล้วนเป็นเรื่องสมมติทั้งสิ้น ที่แท้ก็คือธาตุ ดิน-น้ำ-ไฟ-ลม มารวมกันปั้นได้เป็น “ก้อนดิน” ก้อนเดียว จึงไม่น่าจะไปหลงใหลกับตำแหน่งที่สมมุติกันขึ้นมา ดังนั้นการที่ทรงชี้หน้าว่าก้อนดิน แสดงว่าในหลวงฟังเทปม้วนนั้นเรียบร้อยแล้วและทรงเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

อีกครั้งเมื่อ พล.อ.อ.หะริน กราบทูลถามในหลวงว่าเทปของหลวงปู่นี้ช่างแปลก ไม่ว่าจะหยิบม้วนไหนขึ้นมาฟังทั้งๆ ที่ไม่ได้ดูชื่อเรื่อง แต่ปรากฏว่าเนื้อหานั้นตรงกับใจเราเหลือเกินทุกคราวไป ในหลวงจึงรับสั่งว่า “อย่าโกรธนะ ถ้าจะบอกว่า เพราะเรายังไม่ดีพอ” แล้วทรงอธิบายต่อไปว่า ตามธรรมดาหลวงปู่จะเทศน์ขัดเกลาคนที่ยังไม่ดีพอทุกคนไปให้เป็นคนดี ถึงจะดีอยู่แล้วก็อยากให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เราจึงรู้สึกว่าเทศน์กัณฑ์นั้นกินใจ เพราะสะกิดใจให้เรารู้ถึงจุดอ่อนของตัวเอง และตั้งใจแก้ตัวทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกแม้จะดีอยู่แล้วก็ตาม สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ในหลวงทรงเข้าใจถึงหลักธรรมเป็นอย่างดี และทรงนำสิ่งเหล่านี้มาใช้เป็นแนวทางในการทำงานของพระองค์เองอีกด้วย

เหตุเมื่อ ในหลวง ร.๙ ทรงชี้หน้าข้าราชบริพารคนสนิทแล้วเรียกว่า ก้อนหิน !?! ทุกสิ่งที่พระองค์ตรัส แฝงแนวคิด ด้วยพระอัจฉริยภาพอันล้ำลึก !!!

นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยในบรรดาเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับในหลวงกับการศึกษาธรรมะ ต่อไปนี้เราคงจะไม่มีข้ออ้างว่าห่างวัด ไม่มีเวลาศึกษาธรรมะแล้ว เพราะถ้าดูจากในหลวงผู้ซึ่งแทบจะไม่มีเวลาว่างจากพระราชกรณียกิจเลยเป็นตัวอย่าง แค่เริ่มจากการหาโอกาสฟังธรรมวันละเล็กละน้อย ก็คงช่วยพัฒนาจิตใจและสอนอะไรแก่เรามากมาย

เหตุเมื่อ ในหลวง ร.๙ ทรงชี้หน้าข้าราชบริพารคนสนิทแล้วเรียกว่า ก้อนหิน !?! ทุกสิ่งที่พระองค์ตรัส แฝงแนวคิด ด้วยพระอัจฉริยภาพอันล้ำลึก !!!

อ้างอิงข้อมูลจาก - Facebook สานต่อที่พ่อทำ