- 12 ก.ย. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th/
สำหรับหมอดูอีทีนั้นถือว่าเป็นหมอดูที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกแห่งศตวรรษใหม่เลยก็ว่าได้ เพราะหมอดูอีที มีคำทำนายที่กล้าได้กล้าเสีย ไม่กลัวผิดพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม และที่ทำให้โด่งดังมากในประเทศไทยเกิดจากการทำนายดวงบ้านดวงเมืองที่แม่นยำ แบบขวานผ่าสาก แถมยังตรงเผง ก่อนที่หมอดูอีทีจะมีพรสวรรค์ ขนาดนี้รู้ไหมเขาต้องแลกมากับอะไรบ้าง ลองไปอ่านกันดีกว่าครับ
หมอดูอีที มีชื่อจริงว่า นางส่วย ส่วย วิน เป็นหมอดูชื่อดังชาวพม่าอาศัยอยู่ในบ้านธรรมดา เขตติงกานจูน (Thingangyun) รอบนอกกรุงย่างกุ้ง โดยที่มาของชื่อ อีที (ET) เป็นคำย่อของ อีติ (E Thi) หรือ มะขุ่ย นั่นเอง แต่คนส่วนใหญ่มักจะจดจำว่า ET มาจากมนุษย์ต่างดาว เพราะรูปร่างของหมอดูอีทีนั้นคล้ายกับมนุษย์ต่างดาวนั่นเอง
หมอดูอีทีเป็นหญิงรูปร่างเล็ก เป็นใบ้ หลังค่อม นิ้วคด เท้าพลิก มือเกร็ง แต่ว่าพรสวรรค์ที่เธอได้มานั้นช่างแตกต่างจากร่างกายเหลือเกิน พิสูจน์ได้จากการทำนายเลขแบงค์ ไม่ว่าจะเป็นแบงค์ดอลล่าร์ หรือแบงค์ประเทศอะไร หมอดูอีทีก็จะทำนายได้อย่างตรงเป๊ะ ๆ ทุกตัว
หมอดูอีทีเกิดในครอบครัวสามัญชนธรรมดา คุณพ่อเป็นผู้จัดการธนาคาร และหมอดูอีทีไม่ได้พิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่มีพัฒนาช้ากว่าเด็กทั่วไปถึง ๒ ปี ซึ่งพ่อแม่มารู้อาการแบบชัวร์ๆเมื่อตอนที่หมอดูอีทีอายุได้ ๙ ขวบ
จากนั้นความน่าอัศจรรย์ที่ก่อให้เกิดญาณทิพย์ เกิดขึ้นเมื่อหมอดูอีทีมีอายุย่างเข้า ๑๕ ปีหลังจากที่เข้าไปไหว้พระก็เกิดอาการไม่สบายเอามากๆ แล้วอยู่ๆ หูก็หนวกไม่ได้ยิน จากที่เคยพูดได้ปกติก็ไม่ได้สามารถพูดได้กลายเป็นใบ้ไปเลย
แต่สิ่งพิเศษที่เพิ่มเข้ามาคือเมื่อหมอดูอีทีเริ่มหูหนวกไม่ได้ยินมากขึ้นเท่าไหร่พลังญาณทิพย์ก็มีมากขึ้นเท่านั้น สามารถมองเห็นอนาคตได้พูดอะไรก็ถูกไปหมด ซึ่งความสามารถดูดวงเริ่มต้นเมื่อตอนอายุ ๙ ขวบจากนั้นพลังก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีความสามารถพิเศษอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าหมอดูอีทีสามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่น แต่ก็ต้องแลกด้วยชีวิตปกติเพราะหมอดูอีทีกลายเป็นคนพิการต้องนั่งรถเข็ญตลอดเวลาทั้งที่ก่อนหน้านี้ชีวิตก็ปกติสุขไม่มีความพิการแต่อย่างใด
ทั้งนี้ความพิการที่เกิดขึ้นหมอดูอีทีเคยกล่าวเอาไว้ว่าชาติก่อนเคยหักมือแม่ ชาตินี้ก็เลยพิการ ซึ่งขณะนั้นอายุได้ ๒ ขวบ หมอดูอีทีระลึกชาติได้จึงพูดว่าอดีตชาติเคยหักมือแม่พอแม่ตายไป เมื่อโตขึ้นก็ไปเป็นมัคทายกของวัด แล้วถูกโจรที่มาปล้นวัดเอาน้ำร้อนมาลวกทั้งตัว เมื่อเกิดมาเกิดชาตินี้ก็เลยเกิดมาในร่างกายที่ไม่สมบูรณ์
ส่วนความสามารถทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำเหมือนมีพรายกระซิบนั้น หมอดูอีทีบอกว่ามีแม่ที่เป็นเทวดาดูแลอยู่ และแม่ที่เป็นเทวดาก็เป็นคนบอกคำทำนายกับตนเองเพื่อให้ไปบอกคนดูดวงต่อ โดยตอนเด็กๆ หมอดูอีทีไม่ต้องอ่านหนังสือเลย แต่สามารถสอบได้ที่หนึ่งตลอด เพราะแม่เป็นคนบอก
ด้านคำทำนายเกี่ยวกับการเมืองที่ทำให้คนไทยจดจำคือได้ทำนายเอาไว้ก่อนการจะมีการเลือกตั้งในปี ๒๕๔๔ ว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรจะตั้งพรรคใหม่สำเร็จ จะชนะ และเป็นใหญ่ในแผ่นดิน แต่ฟ้าไม่ปรานี ต้องจรลีไปต่างถิ่นต่างแดน อีกทั้งดวงถึงขั้นชะตาขาด แนะนำให้แก้เคล็ดเสริมดวง
โดยทำพิธีสะเดาะเคราะห์ เพื่อต่อดวงชะตาที่กำลังจะขาดให้กลับคืน มา เริ่มจากท่องมนต์บทสวด แล้วเดินวนรอบเจดีย์ชเวดากองไปทางซ้าย ๓ รอบ ขวา ๓ รอบ จากนั้นก็ต้องไปทำพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ชุดใหญ่ในถิ่นที่ทุรกันดาร
จากนั้นประมาณเดือนสิงหาคม ๒๕๔๗ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปทัวร์นกขมิ้นภาคอีสานและภาคใต้,เดือนสิงหาคม ๒๕๔๙ จัดทัวร์นกขมิ้นอีกครั้งไปภาคอีสานและภาคเหนือ ว่ากันว่าการทัวร์นกขมิ้นนี้คือการแก้เคล็ดจากคำทำนายของหมอดูชาวพม่าคนนี้
ซึ่งภายหลังจากการเลือกตั้งสำเร็จในปี ๒๕๔๔ ไม่มีวี่แววว่าความนิยมของ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จะลดลง แต่แล้วก็กลับถูกกลุ่มคนเสื้อเหลืองเข้าต่อต้าน และถูกปฏิวัติรัฐประหารวันที่ ๑๙ ก.ย. ๒๕๔๙ จนไม่สามารถอยู่ในประเทศไทยได้
ส่วนคำทำนายก่อนสิ้นใจได้พยากรณ์เอาไว้ว่า "จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ และมีสงครามโลก"
ซึ่งก่อนที่หมอดูอีที จะสิ้นใจที่บ้านพักของตนเองในย่างกุ้ง เธอได้ฝากข้อความสุดท้ายเอาไว้เตือนทุกคนให้อยู่ที่สูงๆไว้ น้ำกำลังจะท่วมใหญ่ ใครไม่เชื่อตายอย่างเดียว จะมีสงครามโลก ให้เก็บข้าวสารอาหารแห้งไว้เยอะๆ
อ้างอิงข้อมูลจาก - www.sanook.com , th.wikipedia.org