ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th

ปาฎิหาริย์บารมีหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก

หลวงพ่อจงชอบขึ้นนั่งบนเครื่องบินมาก ในสงครามอินโดจีนจนถึงมหาสงครามโลกครั้งที่สอง หลวงพ่อจงได้นั่งเครื่องบินนับเป็นร้อย ๆ ครั้ง เพราะท่านถูกนิมนต์ไปกระทำพิธีรดน้ำมนต์ ปัดรังควานบ่อยที่สุด ไม่ว่าจะมีการเคลื่อนทัพบก เรือ อากาศ ไปสู่สมรภูมิรบที่ใด ก่อนเดินทัพจะต้องมีพิธีทางศาสนาเป็นมิ่งมงคลบำรุงขวัญทหาร มีการประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เจิมอาวุธกับพาหนะและอุปกรณ์รบ บรรดาหลวงพ่อและเกจิอาจารย์อันเป็นที่เคารพศรัทธาในอัจฉริยะความเป็นอริยสงฆ์ต่างจะต้องถูกนิมนต์ไปร่วมกระทำพิธีอยู่อย่างไม่ควรขาด

หลวงพ่อจงเป็นสงฆ์ผู้มีบุคลิกเด่นดวง ลักษณะใบหน้าของท่านอิ่มเอิบ ดวงตาวาววับด้วยแสงเมตตาจิต ใครเห็นท่านจะรู้สึกเคารพรักและบังเกิดศรัทธาในวูบแรก แม้ว่าดวงหน้าท่าทีของท่านจะเฉยเมย แต่ปมเด่นทางเมตตาของท่านโผล่ผลุดดุจเป็นรัศมี รอบกายปรากฏออกมาสะดุดความรู้สึกผู้พบเห็นเอง และยิ่งเมื่อผู้ใดได้เข้าใกล้ชิดด้วยพระคุณท่าน ก็จะประจักษ์ในอัธยาศัยและไมตรีที่ท่านหลั่งโอภาปราศรัยออกมาแล้ว ไม่เคยมีผู้ใดลืมเลือน อัธยาศัยวิเศษของท่านจะเข้าซึมแทรกดวงจิตผู้ใกล้ชิดทันทีอย่างตราตรึงใจ

ทหารน้อยใหญ่ของสามกองทัพ ส่วนมากที่ได้เคยพบเห็นและเข้าหานมัสการหลวงพ่อจงในทุกหนที่ไปกระทำพิธีแจกเสื้อพระยันต์ราชสีห์ตะกรุดโทนจึงพากันเคารพสักการะศรัทธาในท่านมากที่สุด

เฉพาะกองพลทหารม้ายานเกราะสระบุรี ดูเหมือนจะศรัทธาแก่กล้าในอิทธิบารมีของหลวงพ่อจงมากที่สุด ถัดไปก็น่าจะเป็นในกองทัพอากาศ ซึ่งตั้งแต่นานมาแล้ว เริ่มแต่ปี ๒๔๗๕สมัยปฏิวัติหนแรกบรรดาแม่ทัพนายกองต่างขึ้นชื่อเป็นศิษย์และเป็นผู้ศรัทธาเคารพขึ้นในหลวงพ่อจง อาทิ ท่านจอมพลฟื้นรนภากาศฤทธาคนี พลอากาศเอกนักรบ บิณฑศรี นาวาอากาศเอกประสงค์ สุชีวะ ฯลฯ ท่านที่กล่าวนามเหล่านี้ ตลอดจนทหารเหล่าอื่น ต่างได้รับแจกเสื้อพระ ยันต์ราชสีห์และตะกรุดโทน จากหลวงพ่อจงด้วยมือท่านเองเป็นส่วนมาก

ท่านจอมพลฟื้นได้พบกับประสบการณ์ในสมัยศึกอินโดจีน เมื่อต้องคุมขบวนเครื่องบินรบไปทิ้งระเบิดสะตรึงเต็งและอื่น ๆ อันเป็นฐานทัพสำคัญของฝรั่งเศสยุคนั้นจนไฟลุกไหม้แหลกลาญ ขณะกำลังจะคิดผละจากความเพลิดเพลินเข่นขยี้ข้าศึกจนไม่มีคู่ต่อสู้ และบรรดาเครื่องบินรบที่อยู่ในการดูแลกองนั้นต่างทยอยกลับฐานทัพดอนเมืองแล้วจนหมดสิ้น จู่จู่ก็มีเครื่องบินจากฐานทัพใหญ่ของข้าศึกอันเป็นกองหนุนสามเครื่องจิกหัวโฉบเข้าใส่ รุมกันทักทายเครื่องบินรบของจอมพลฟื้นด้วยกระสุนปืนกลประจำเครื่องอย่างเกรี้ยวกราด

แต่... ยอดเสืออากาศไม่สะดุ้ง คันบังคับถูกดึงเลี้ยวซ้ายกะทันหันดิ่งหัวหลบวูบลงไปราวห้าร้อยเมตร และครั้นแล้วก็ตั้งลำเชิดขึ้นมาใหม่พุ่งเข้าหาเครื่องบินข้าศึกด้านขวามือ ซึ่งเป็นเรือธงบังคับการดุจเหยี่ยวไล่เหยื่อ กระสุนนับร้อยหลายชุดถูกพ่นกรูเกรียวออกไป แค่นั้นเองเครื่องบินของศัตรูผู้ผยอง ก็ม้วนเอียงลำดิ่งพสุธาพร้อมควันดำโขมง

เห็นเครื่องบินเป็นสีแดงฉานคล้ายควันแดงนักบินข้าศึกขวัญเสีย..ด้วยอิทธิฤทธิ์ผ้ายันต์ราชสีห์กับตะกรุดโทน หลวงพ่อจงมอบให้นักบินไทย..

จากนั้นเหยี่ยวฟ้าไทย โผโผนลำขึ้นเบื้องสูงทำทีจะหนีจาก และเครื่องบินของข้าศึกกำลังจะเลี้ยวไล่นั่นเอง เสืออากาศไทยก็บังคับเครื่องบินพุ่งควับลงมาดุจสายฟ้าก็ปานกัน มีเสียงคำรามติดต่อกันอย่างดุดันกระสุนกลที่ยิงเหมือนจับวางเป็นร้อย ๆ พรูพรั่งเข้าตัดกลางลำ เครื่องบินของข้าศึกษาเป็นรูพรุนตลอดถึงแพนหาง ปรากฏเป็นควันดำแล้วก็ดิ่งสู่พสุธาไปอีกลำ

ทันทีทันใดนั้น เครื่องบินลำของข้าศึกถลาหัวฉกจิกลงมาจากเบื้องสูง สาดกระสุนกึกก้องเข้าใส่เครื่องบินของจอมพลฟื้นอย่างเหี้ยมเกรียม แต่เปล่า...เครื่องบินของเสืออากาศไทยไม่ยักมีอันเป็นไปเพราะห่ากระสุนสองสามชุดที่ข้าศึกรัวเข้าใส่ จอมพลฟื้นยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม นึกในใจว่าดีละ เดี๋ยวรู้กัน

ทว่า เมื่อสายตามัจจุราชของจอมเสืออากาศไทยเหลือบแลที่เครื่องวัดน้ำมัน อัตราน้ำมันที่มีอยู่จะไม่พอพาเครื่องบินกลับฐานทัพ ถ้ายังจะบินอยู่อีก

แต่อย่างไรก็ดี ก่อนตีจาก ก็ควรจะมีการอำลากันอย่างไว้ลายเสือจอมพลฟื้นลูบหมับไปที่พระยันต์แดงราชสีห์ พลางดึงตะกรุดมหารูดมงคลชาตรี (โทน) ของหลวงพ่อจง อาราธนาขอความคุ้มครองแคล้วคลาดตามพิธี ด้วยพลังจิตอันมั่นคงแน่วแน่อบอุ่นใจเต็มที่ จากนั้นก็โยกคันบังคับผงกหัวเข้าใส่นกเหล็กของข้าศึกอย่างปราศจากพรั่นพรึงปืนกลหน้าถูกเร่งกระสุนกราดออกไปถี่ยิบ พร้อมกับฝ่ายข้าศึกก็ตอบโต้ด้วยปืนหลังแล้วทำมุมเลี้ยวขวาแสดงท่าจะปรี่เข้าโจมตีใหม่อย่างบ้าบิ่น แต่ทันทีนั้นเองกระสุนอีกชุดหนึ่งของเหยี่ยวฟ้าไทย ก็กระทบเข้าที่แพนหางนกเหล็กของข้าศึกเสียงกราวสนั่นเป็นระยะข้าศึกเปลี่ยนใจเป็นบินหนี ซึ่งเป็นการสมประสงค์ของเสืออากาศไทยยิ่งนัก เพราะหากมีภาวะต้องจำพัวพันกันไป ไม่ถูกยิงหกคะเมนก็ต้องดิ่งนรก เพราะไม่มีฐานทัพจะลงและไม่มีน้ำมันสำหรับเครื่องบินจะพากลับ

เห็นเครื่องบินเป็นสีแดงฉานคล้ายควันแดงนักบินข้าศึกขวัญเสีย..ด้วยอิทธิฤทธิ์ผ้ายันต์ราชสีห์กับตะกรุดโทน หลวงพ่อจงมอบให้นักบินไทย..

เหตุการณ์เหล่านี้ ภายหลังต่อมาเมื่อศึกสงบ ทหารนักบินข้าศึกชาวฝรั่งเศสซึ่งเป็นนักบินผู้ทำการรบกับเครื่องบินของจอมพลฟื้นได้เล่าให้เพื่อนฝูงทหารไทยหลายคนฟังในโอกาสที่นักบินไทยผู้หนึ่งได้ไปราชการที่ไซ่ง่อน โดยเขาบอกว่าการที่ทัพอากาศของเขาต้องพ่ายเสมือนไร้ฝีมือ เป็นเพราะเหตุสองประการ เครื่องบินฝ่ายเขาหย่อนสมรรถภาพและนักบินมีขวัญย่อหย่อน แต่ในประการสำคัญก็คือ มันคล้ายกับมีอุปาทานทำให้ฝ่ายเขามองเห็นเครื่องบินของฝ่ายไทย เป็นสีแดงฉานคล้ายกลุ่มควันแดง ทำให้นักบินพิศวงสงสัยและตกตื่นขวัญเสีย

เห็นเครื่องบินเป็นสีแดงฉานคล้ายควันแดงนักบินข้าศึกขวัญเสีย..ด้วยอิทธิฤทธิ์ผ้ายันต์ราชสีห์กับตะกรุดโทน หลวงพ่อจงมอบให้นักบินไทย..

เห็นเครื่องบินเป็นสีแดงฉานคล้ายควันแดงนักบินข้าศึกขวัญเสีย..ด้วยอิทธิฤทธิ์ผ้ายันต์ราชสีห์กับตะกรุดโทน หลวงพ่อจงมอบให้นักบินไทย..

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

 พุทธคุณแดนสยาม

เพื่อเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์