- 19 ก.ย. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
พระราชดำรัสในงานทรงดนตรีตามมหาวิทยาลัยต่างๆ นั้นนับได้ว่าเป็นบันทึกเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ เช่นในปีพ.ศ. ๒๕๑๒ ก่อนนั้นเล็กน้อยมีการตีกันในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้มีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า
“...ถ้ามีเหตุผลที่จะตีหัวกัน ก่อนที่จะตีหัวกัน ขอบอกว่าให้มาแยกธาตุกันเสียก่อน ถ้าหากว่าจะมีเรื่องที่จะตีหัวกันจริงๆ ยินดีจะมาทุกเมื่อไม่ต้องวันที่ ๒๐ กันยาก็ได้ คือว่าถ้าอยากจะตีหัวกัน แล้วก็วางแผนกันที่จะตีหัวกันเองน่ะ ขอร่วมสนุกด้วย เดี๋ยวนี้การตีหัวกันเขามีเท็คนิคสูงแล้ว ก็เท็คนิคสูงนี้น่ะ เมื่อพัฒนามากก็รู้สึกว่า เราก็จะต้องพัฒนาการตีหัวกัน การตีหัวด้วยไม้มันล้าสมัยแล้ว มาตีด้วยท่อนเหล็กก็เป็นสมัยเหล็ก มาตีหัวกันด้วยระเบิด จะเป็นขวดหรือไม่ขวด ก็เป็นสมัยโนเบล โนเบลได้ค้นคิดดินระเบิด แต่ท่านไม่ได้คิดค้นมาสำหรับโยนสังหารกัน ถ้าจะตีหัวอย่างสมัยใหม่จริงๆ มาตีหัวกันด้วยคอมพิวเตอร์ดีกว่า...”
ก่อนจะเสด็จฯกลับ ก็ได้มีพระราชกระแสรับสั่งย้ำอีกว่า
“ก็ขอขอบใจอีกที วันนี้ที่ปิดรายการช้าไป...ก็เป็นวันหรือเป็นถึงคืนที่สนุกมาก ขอให้ทุกคนได้ช่วยกันทำให้มหาวิทยาลัยนี้มีความครึกครื้นมีความร่าเริง มีความเรียบร้อย สำเร็จทุกประการตลอดปี ถ้าอยากตีหัวกันก็บอกให้ทราบ แต่หวังว่าจะไม่ตีหัวกันก่อนปีหน้า”
นิสิตจุฬาฯค่อยๆเดินออกจากหอประชุมกันอย่างเงียบกริบ ทั้งคนที่ริอ่านตีหัวเพื่อน และคนที่ถูกตีหัว
คัดจากหนังสือ"พระราชอารมณ์ขัน โดยวิลาศ มณีวัต"
สนใจหนังสือพระราชอารมณ์ขัน โดย วิลาศ มณีวัต
ติดต่อสอบถามที่เบอร์ 02 525 4242 ต่อ 202
หรือ FB : @gbbbook