ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

อสูรที่ได้รับการบูชา!! เปิดตำนาน "ท้าวหิรัญพนาสูร" ผู้คุ้มครอง..ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ เผย..อภินิหารตั้งแต่แรกสร้างรูปปั้น เหลือเชื่อที่สุด!!

           ท้าวหิรัญพนาสูร หรือ ท้าวหิรัญ (ฮู) ประวัติเรื่องเล่านี้เล่ากันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เทพองค์นี้บางคนก็เล่าว่า เป็นอสูรที่ตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิ (ประพฤติในทางที่ดีงาม) คอยติดตามป้องกันภัยอันตรายไม่ให้มากล้ำกรายรัชกาลที่ ๖ และข้าราชบริพารที่อารักขา มีผู้เคยเห็นร่างท่านเป็นยักษ์ดุร้ายน่าเกรงขาม แต่ในยามปกติเล่ากันว่า ท้าวหิรัญ(ฮู) ตนนี้ เป็นเทพที่มีรูปงามเลยทีเดียว ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งที่ทรงสื่อกับบรรดา "โอปปาติกะ" หรือ "วิญญาณ" ได้บ่อยครั้ง ซึ่งเคยนำมาเล่าให้ฟังแล้วว่าครั้งหนึ่ง พระองค์ท่านทอดพระเนตรเห็นผู้ที่ตายแล้วมาหา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาจึงดูคล้ายกับว่าพระองค์ทรงมี "สัมผัสที่ ๖" ในทางเร้นลับไม่น้อย

อสูรที่ได้รับการบูชา!! เปิดตำนาน "ท้าวหิรัญพนาสูร" ผู้คุ้มครอง..ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ เผย..อภินิหารตั้งแต่แรกสร้างรูปปั้น เหลือเชื่อที่สุด!!

          ในเรื่องของ "ท้าวหิรัญพนาสูร" เทพผู้อารักขารรัชกาลที่ ๖ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสมัย ร.ศ.๑๒๖ ขณะที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสเมืองลพบุรี เมื่อครั้งที่ยังไม่ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ ในคืนวันเสด็จประพาสคืนหนึ่ง มีผู้ตามเสด็จท่านหนึ่งได้มีนิมิตฝันประหลาดเห็นชายหุ่นล่ำสันใหญ่โตมาหา บอกว่าชื่อ "หิรัญ" เป็นอสูรชาวป่า ที่มานี่จะมาบอกว่า ต่อแต่นี้เขาจะคอยตามเสด็จล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 ไม่ว่าจะประทับอยู่ที่ใด เขาจะคอยดูแลและระวังภัยไม่ให้เกิดขึ้นกับพระองค์ท่านได้

          เมื่อรัชกาลที่ ๖ ทรงทราบเหตุการณ์ในฝันจึงทรงมีพระราชดำรัสให้จุดเทียน จัดเตรียมอาหารเซ่นสังเวย "ท้าวหิรัญพนาสูร" ในป่าเมืองลพบุรีนั้นทันที และทุกครั้งไม่ว่าจะเสด็จฯ ไปแห่งหนใด ในเวลาค่ำถึงยามเสวย พระองค์จะมีพระราชดำรัสให้จัดอาหารเซ่นสังเวย ท้าวหิรัญ ทุกครั้งไป

 

อสูรที่ได้รับการบูชา!! เปิดตำนาน "ท้าวหิรัญพนาสูร" ผู้คุ้มครอง..ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ เผย..อภินิหารตั้งแต่แรกสร้างรูปปั้น เหลือเชื่อที่สุด!!

          และเมื่อรัชกาลที่ ๖ เสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ก็ยังทรงระลึกถึง ท้าวหิรัญ (ฮู) อยู่เสมอ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างหลวงมาหล่อรูปท้าวหิรัญพนาสูร ด้วยทองสัมฤทธิ์ จากนั้นก็โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารจัดเครื่องเซ่นสังเวยและเชิญ ท้าวหิรัญ เข้าสถิตในรูปหล่อนั้น พระราชนามให้ว่า ท้าวหิรัญพนาสูร แต่งองค์ทรงเครื่องสวมชฎาแบบโบราณ มีไม้เท้าเป็นเครื่องประดับยศ

         มหาดเล็กคนสนิทของรัชกาลที่ ๖ ผู้หนึ่ง คือ "จมื่นเทพดรุณทร" ท่านผู้นี้ได้เล่าให้ข้าราชบริพารฟังต่อๆ กันมาว่า "ในหลวง (ร.๖) ทรงเรียกท้าวหิรัญพนาสูรว่า ตาหิรัญ (ฮู) ซึ่งคนในวังสมัย ร.๖ จะรู้ถึงกิตติศัพท์ของ ตาหิรัญ (ฮู) ดีว่าสำแดงเดชและอภิินิหารอย่างไรบ้าง จึงเล่ากันปากต่อปากเรื่อยมา อย่างเรื่องแรกเกิดขึ้นเมื่อรัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างรูปท้าวหิรัญพนาสูร โดยให้พระยาอาทรธรศิลป์ (ม.ล.ช่วง กุญชร) เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีมิสเตอร์แกลเลตตี นายช่างชาวอิตาเลี่ยนที่มาทำงานในกรมศิลปากรเป็นผู้หล่อ เมื่อหล่อเสร็จก็จะยกขึ้นตั้งบนฐานในพระราชวังพญาไท มิสเตอร์แกลเลตตีก็เอาเชือกผูกคอท้าวหิรัญฮูชักรอกขึ้นไป เสร็จแล้วมิสเตอร์แกลเลตตีก็ป่วยกระทันหันทำงานไม่ได้ เพราะคอเคล็ดโดยไม่รู้สาเหตุ พอพระยาอาทรไปเยี่ยม ท่านพอจะรู้สาเหตุจึงบอกว่าคงเป็นเพราะเอาเชือกไปผูกคอรูปหล่อท้าวหิรัญพานาสูร ให้เอาดอกไม้ ธูป เทียนไปขอขมาเสีย เมื่อนายช่างชาวอิตาเลี่ยนทำตามคอที่เคล็ดจึงกลับมาเป็นปกติอย่างอัศจรรย์

 

อสูรที่ได้รับการบูชา!! เปิดตำนาน "ท้าวหิรัญพนาสูร" ผู้คุ้มครอง..ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ เผย..อภินิหารตั้งแต่แรกสร้างรูปปั้น เหลือเชื่อที่สุด!!

         กับอีกเหตุการณ์หนึ่งเกี่ยวกับ ท้าวหิรัญพนาสูร ที่เล่ากันมา เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่รัชกาลที่ ๖ สวรรคตแล้วรัชกาลที่ ๗ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสวยราชย์ต่อ วันหนึ่งพระองค์ได้เสด็จฯ ตรวจรถยนต์พระที่นั่ง ซึ่งเป็นพระราชมรดก โดยมีกรมหมื่นอนุวัติจาตุรนต์เสด็จไปด้วย กรมหมื่นฯ ท่านนี้ได้กราบทูลขอรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งมีรูปท้าวหิรัญ ติดอยู่ด้วย ซึ่งรัชกาลที่ ๗ ก็พระราชทานให้ เล่ากันว่าเมื่อเอารถกลับไปไว้ที่วังสี่แยกหลานหลวง คืนนั้นก็นอนไม่หลับ ได้ยินเสียงกุกกักๆ ในโรงเก็บรถทั้งคืน ครั้งลุกไปดูก็ไม่เห็นมีอะไร จึงคิดว่าอาจเป็นเสียงหนู แต่ขณะที่กำลังคิดในทางที่ดีก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เพราะจู่ๆ ไฟในโรงรถก็เกิดสว่างจ้าขึ้นมาเฉยๆ ทั้งๆ ที่โรงรถปิดอยู่ จึงเรียกคนขับรถและมหาดเล็กไปช่วยกันดู แต่พอเปิดประตูโรงเก็บรถก็ต้องใจหายเป็นครั้งที่ ๒ เพราะไม่มีใครอยู่ในนั้นเลย และยังน่าสงสัยที่เห็นรถจอดขวางโรง ซึ่งแต่แรกไม่ได้จอดในลักษณะนี้ จึงต้องช่วยกันกลับรถจอดใหม่ จากนั้นรุ่งขึ้น กรมหมื่นอนุวัติจาตุรงค์ต้องจัดเครื่องเซ่นสังเวยท้าวหิรัญ เพื่อขอขมา และไม่กล้าใช้รถพระราชทานคันนั้นอีกเลย

       อภินิหารของท้าวหิรัญพนาสูร ยังมีเล่าอีกหลายเรื่อง อีกเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นกับเชื้อพระวงศ์ในตระกูลดิศกุลพระองค์หนึ่ง เมื่อครั้งที่ประชวรปัสสาวะเป็นเลือด ท่านได้เสด็จมารักษาที่โรงพยาบาลพญาไท หมอเอกซเรย์ดูบอกว่าต้องผ่าตัด บรรดาพระญาติทราบถึงประวัติท่านท้าวหิรัญพนาสูรดี จึงเอาดอกไม้ ธูป เทียนไปสักการะรูปหล่อ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในบริเวณโรงพยาบาล ผลปรากฎว่าโรคที่เป็นกลับหายโดยไม่ต้องผ่าตัดอย่างไม่น่าเชื่อ

 

อสูรที่ได้รับการบูชา!! เปิดตำนาน "ท้าวหิรัญพนาสูร" ผู้คุ้มครอง..ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ เผย..อภินิหารตั้งแต่แรกสร้างรูปปั้น เหลือเชื่อที่สุด!!

        อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๒ กับอาจารย์สุภาพสตรีท่านหนึ่ง ซึ่งได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์บาดเจ็บสาหัสมาก ขาซ้ายหัก ขาขวากระดูกแตก ต้องเข้าเฝือกทั้ง ๒ ข้าง ท่านถูกนำไปรักษาตัวที่แรกเป็นโรงพยาบาลเอกชน แต่เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงเปลี่ยนมารักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ พญาไท ช่วงที่อยู่โรงพยาบาลพญาไท ท่านหมดความรู้สึกไปครั้งหนึ่งในระหว่างที่สลบท่านเห็นผู้ชายคนหนึ่งมายืน มองอยู่ข้างเตียง ในจิตของอาจารย์ท่านนี้รู้ในทันทีว่านั่นคือ เทพท้าวหิรัญพนาสูร เพราะมีรูปร่างหน้าตา มีลักษณะบางอย่างบ่งบอก อาจารย์ท่านนี้จึงยกมือไหว้ ขอให้ท่ายช่วยให้หายเจ็บป่วย ท้าวหิรัญพนาสูรก็พยักหน้าจากนั้นไม่นานอาการเจ็บป่วยของอาจารย์ก็หายเป็นปลิด ทิ้ง ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านได้ และท่านก็ไม่เคยลืม ท้าวหิรัญพนาสูร

        ทุกวันนี้ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ยังมีคนมากราบไหว้ ท้าวหิรัญพนาสูร อยู่ไม่ขาด โดยศาลของท่านตั้งอยู่ด้านหลังโรงพยาบาล ซึ่งแม้รัชกาลที่ ๖ จะสวรรคตไปนานแล้ว หน้าที่ของ "ท้าวหิรัญพนาสูร" ก็ยังคงดูแลช่วยเหลือคนไข้และคนดีอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าใครจะติดต่อหรือมองเห็นท่านได้ เพราะท่านอยู่คนละภูมิ ซึ่งซ้อนอยู่กับภูมิมนุษย์ของเรา

อสูรที่ได้รับการบูชา!! เปิดตำนาน "ท้าวหิรัญพนาสูร" ผู้คุ้มครอง..ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ เผย..อภินิหารตั้งแต่แรกสร้างรูปปั้น เหลือเชื่อที่สุด!!

         ในสมัยรัชกาลที่ ๖ จะทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดกระยาหารสังเวยทุกวัน เวลาเพล ต่อมาในปัจจุบัน พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ทรงกำหนดธรรมเนียมให้ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สังเวยกระยาหารแก่ท้าวหิรัญพนาสูรพร้อมกับพระบรมอัฐิของรัชกาลที่ ๖ ทุกวัน วันละ ๒ เวลา คือ ๐๘.๐๐ น และ ๑๑.๐๐ น พร้อมทั้งทรงสักการบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนในเวลา ๒๐.๐๐ น ที่ห้องพระ วังรื่นฤดี ถ้าเสด็จไปปฏิบัติพระกรณียกิจต่างจังหวัด ก็จะจัดพระกระยาหารสังเวยทุกเวลาเพล ถือเป็นเทวรูปที่ปกปักรักษาพระองค์ เฉกเช่นเดียวกับที่เคยปกปักรักษารัชกาลที่ ๖ มาก่อน ส่วนเวลาเพลของทุกวัน ห้องเครื่องพระตำหนักจิตรลดารโหฐานจะจัดกระยาหารใส่ปิ่นโต มาสังเวยที่พระที่นั่งกรัณยสภาทุกๆ วัน

 

คาถาบูชาท้าวหิรัญพนาสูร (นะโม ๓ จบ)

ระหินะ ภูมาสี ภะสะติ นิรันตะรัง ลาภะสุขัง ภะวันตุเม (สวด ๙ จบ )

ผู้ใดสวดบูชาประจำ ป้องกันภัย มีโชคลาภ ค้าขายดี มีอำนาจ หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ร่มเย็นเป็นสุขตลอดกาล

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ท้าวหิรัญพนาสูร