ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

เทพบันดาล!! พระลูกศิษย์หลวงปู่เจี๊ยะ นิมิตเห็นหญิงสาวบอกว่า จะช่วยสร้างวัด..ไม่กี่วันต่อมามีเรือของนักเลงพนันนำเงินมาถวายอย่างน่าอัศจรรย์!!

               ในวงศ์พระกรรมฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต หลวงปู่เจี๊ยะจะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นที่ยอมรับเรื่องธรรมภายใน กิริยาภายนอกที่สบาย ๆ ของท่านนั้นทำให้เป็นเหมือนม่านบังปัญญา บังตาเนื้อของชาวโลกที่นิยมชื่นชมด้านวัตถุชอบมองแต่สิ่งสวยงามภายนอก แต่ไม่เคยหันกลับมาย้อนดูภายในใจตน จึงมองท่านไม่ออก บอกไม่ถูก ผู้ไม่เท่าถึงในสิ่งที่มี ที่เป็น ที่ปรากฏภายในจิต เพราะธรรมชาติของจิตที่บริสุทธิ์ไม่มีอาการลวงเหมือนอาการทางกายวาจา ศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่นทั้งหลายมี หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงตามหาบัว ญาณสมปนฺโน ครูบาอาจารย์ที่เป็นดั่งอาจารย์ของท่านและคุ้นเคยเป็นอย่างดีนี้ เมื่อทราบว่าหลวงปู่เจี๊ยะอยู่ที่ใด มักจะแวะเยี่ยมและสนทนาธรรมอยู่เสมอ มิได้ขาด เสมือนอย่างว่าสายใยแห่งธรรมชักนำให้ดึงดูดต่อกันมิรู้ลืม

เทพบันดาล!! พระลูกศิษย์หลวงปู่เจี๊ยะ นิมิตเห็นหญิงสาวบอกว่า จะช่วยสร้างวัด..ไม่กี่วันต่อมามีเรือของนักเลงพนันนำเงินมาถวายอย่างน่าอัศจรรย์!!

                เรื่องราวปาฏิหาริย์ที่เกี่ยวกับหลวงปู่เจี๊ยะเมื่อครั้งที่ท่านได้ไปกรรมฐานที่ถ้ำช้างร้องนั้น เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ของท่าน ที่ถ้ำช้างร้อง มีเหตุการณ์ที่มนุษย์ผู้มีนัยน์ตามืดบอด อันกิเลสปกคลุมอยู่นั้น ไม่สามารถทราบได้ แต่สำหรับพุทธญาณ ตลอดจนญาณแห่งพระอริยสงฆ์นั้นท่านรับรู้ได้โดยตลอด

                 พระลูกศิษย์ของพระอาจารย์เจี๊ยะ รูปหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ชอบทดลองเรื่องผี เทพ เทวดา ตลอดจนพวกกายทิพย์ว่ามีจริงหรือไม่ ในที่สุดท่านก็เจอดีเข้าจนได้เวลาที่ท่านเข้าที่นั่งภาวนา จะมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในนิมิตเสมอๆ แสดงอาการกิริยาว่าไม่พอใจที่ท่านเข้ามาอยู่ที่นี่ อาจจะเป็นเพราะการแสดงกิริยามรรยาทไม่งามอย่างใดอย่างหนึ่ง อันนี้ก็สุดแล้วแต่ใครจะคิดคาด ในขณะที่หญิงงามเข้ามาในนิมิตภาวนานั้น เธอมักจะถามว่า

"พระคุณเจ้า! มาอยู่ที่นี่ทำไม มาอยู่ป่าทำไม มาอยู่ป่าแล้ว ไม่เห็นเหล่าพระคุณเจ้า สงบกาย วาจา ใจเลย"

นางถามขึ้นพร้อมกับแสดงกิริยารังเกียจ ด้วยการมองด้วยหางตา

"สงบยังไง ยังไงเรียกว่าความสงบ อธิบายให้อาตมาฟังซิแม่หญิง" พระรูปนั้นสอบถามขึ้น

"ความสงบก็คือ ต้องอยู่อย่างเงียบๆ เป็นพระกรรมฐาน ต้องไม่พูดจาวาทีกับใครทั้งนั้น"

 

เทพบันดาล!! พระลูกศิษย์หลวงปู่เจี๊ยะ นิมิตเห็นหญิงสาวบอกว่า จะช่วยสร้างวัด..ไม่กี่วันต่อมามีเรือของนักเลงพนันนำเงินมาถวายอย่างน่าอัศจรรย์!!

             นางกล่าวขึ้นพร้อมกับรูปร่างที่งดงามของนางค่อยๆ เปลี่ยนไปสู่วัยชรา จากหญิงสาวกลายเป็นหญิงแก่ หน้าไม่รับแขกที่มาเยือน ในขณะที่ผู้หญิงแก่หน้าไม่รับแขกคนนี้พูดจบลง นางก็แสดงกิริยารังเกียจเพิ่มขึ้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ประหนึ่งจะเป็นการประกาศสงคราม ระหว่างพระสาวกของพระพุทธเจ้ากับภุมเทวดานางหนึ่ง สรุปว่าเธอไม่ชอบใจพวกพระอย่างเรา เธอชอบพระกรรมฐานแบบพม่า ในที่สุดจิตพระรูปนั้นก็แสดงอาการฉายกระแสลำแสงของจิตไปกระทบนางเข้าว่า

"อีฉิบหาย! กูอยู่แบบพระกรรมฐานไทยไม่ได้หรือ?"

            ด้วยเหตุเพียงคำพูดกระทบเพียงเท่านี้แหละ เธอโกรธเป็นวรรคเป็นเวร แกล้งสารพัดอย่าง พระที่ไปอยู่ด้วยกันอยู่แทบไม่ได้ ลำบากลำบนเกิดอาเพศต่างๆ นานา ในขณะนั้นมีพระเข้ามาอยู่ด้วยกันหลายองค์ เมื่อภายในถ้ำก็ขรุขระมาก พระเณรจึงช่วยกันปรับถ้ำให้พออยู่ พอเดินไปได้สะดวก ขณะที่พระเณรปรับปรุงถ้ำช้างร้องอยู่นั้น รู้สึกว่าแม่หญิงภูมิเจ้าที่ ที่เป็นผู้อารักษ์ถ้ำและสมบัติของเจ้าแม่จามเทวีจะไม่เห็นดีด้วย

           พอตกตอนกลางคืน ต่างองค์ก็ต่างภาวนา พระรูปเดิมที่สามารถติดต่อกับเทวดาเหล่านี้ได้ก็เข้าที่ภาวนา ท่านภาวนาแล้วปรากฏภาพในนิมิตภาวนาของท่าน ให้เห็นสตรีคนเดิมที่เข้ามาในนิมิตของท่านบ่อยๆ คราวนี้เขามาอีก มาแปลกกว่าคราวก่อนๆ ที่เคยมา คือไม่มาเป็นคนแก่ มาเป็นคนรุ่นอายุประมาณ ๓๐ ปี รูปร่างหน้าตาดีมาก มาท้วงติงว่าทำไมพวกพระเราถึงทำอย่างนี้ และก็พูดอย่างที่เขาเคยพูดว่า

"พวกท่านเป็นพระไม่สงบ พวกท่านเป็นพระกิริยาไม่งาม" นางชี้ไม้ชี้มือด่าว่าโดยตลอด

"แม่หญิง! จะให้สงบได้อย่างไร เมื่อท้องถ้ำมันสกปรกอย่างนี้ อยากให้พระสงฆ์ก็ช่วยปรับปรุง ท้องถ้ำให้เสร็จซิ" พระรูปนั้นพูดกับนาง ด้วยวาจาที่แสดงออกไปทางกระแสจิตที่อ่อนหวานบ้าง

"ท่านอยากทำวัด ทำศาลาสวย ๆ มั้ย" นางถาม

"อาตมาไม่ทำหรอก ตั้งใจมาภาวนา กำจัดกิเลสออกจากจิตใจให้ใสสะอาดและที่สำคัญไม่มีเงินทำด้วย"

"พระคุณเจ้า! ทำเถอะ อันเรื่องเงินนั้นไม่เป็นปัญหาสำคัญแต่อย่างใด" แม่หญิงเทวดาที่มาในนิมิตกล่าวยืนยันที่จะช่วยเหลืออย่างแข็งขัน

"แม่หญิง! อาตมาไม่ทำหรอก อันการสร้างวัดนี้ จะเป็นภาระติดตามมาอย่างมากมาย ความพะรุงพะรังทางใจนี้ก็มีมากอยู่แล้ว ยังมาให้อาตมาพะรุงพะรังทางกายอีกหรือ?"

              เมื่อพระรูปนั้นตอบเพียงเท่านั้นนางก็ไม่ถาม อย่างใดต่ออีก อันตรธานหายไปในขณะนั้น เมื่อหญิงเทวดานั้น อันตรธานหายไป สร้างความงุนงงให้ภิกษุรูปนั้นมากเหลือเกิน อันความอัศจรรย์นั้น อัศจรรย์อยู่แล้ว แต่ความอัศจรรย์ที่หญิงเทวดานี้ ปรารถนาจะมาช่วยสร้างวัด นางจะมาช่วยสร้างได้อย่างไร เมื่อนางมายกหินแบกไม้ก็ไม่ได้ ท่านจึงคิดเป็นเชิงรำพึงว่า

"เอ๊ะ!... พวกกายทิพย์นี้ เขาจะหาเงินมาให้มนุษย์อย่างเรานี้ด้วยวิธีใดน้อ.."

            หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน พระเณรที่อยู่ด้วยกันหลายองค์ ต่างก็เร่งความเพียรบางองค์นั่งภาวนา บางองค์เดินจงกรม บางองค์ทำกิจที่ควรทำ ภายในถ้ำบ้างนอกถ้ำบ้าง เวลาบ่ายตะวันคล้อยมามากแล้ว มีเรือใหญ่ลำหนึ่งล่องผ่านมาทางอุทยานแห่งชาติแม่น้ำปิง มาทางพระพุทธบาทแก่งสร้อย อาจจะแวะไปทางดอยเต่าก็ได้ หรือจะไปที่อื่นก็ได้ เพราะสายน้ำเป็นทางสามแพร่งอยู่โดยตลอด

             เรือลำนี้เป็นเรืออะไร พวกเราทั้งหลายที่อยู่ที่ถ้ำช้างร้อง ไม่มีใครสามารถรู้ได้ มองเห็นเรือแต่ไกลๆ และคนในเรือทั้งหมดนั้นก็ไม่สามารถมองเห็นพวกเราได้ เพราะอยู่กันข้างในถ้ำที่มีแต่เครือไม้ปกคลุม มองจากภายนอกแม้ผ่านเข้ามาใกล้ๆ ก็จะไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นถ้ำหรือมีพระอยู่

             เรือใหญ่ลำนั้นล่องอยู่ท่ามกลางแม่น้ำที่มองเห็นแต่ไกลๆ อยู่นาน จะไปทางซ้ายก็ไม่ไป จะไปทางขวาก็ไม่ไป จอดนิ่งและนานคล้ายว่ามีอะไร หรือว่าเรือเสียเครื่องเรือพัง แต่โดยที่สุดแล้วเรือลำใหญ่นั้น ก็ค่อยๆ ตรงดิ่งเข้ามาทางถ้ำช้างร้องที่พวกเราอยู่เหมือนว่าในเรือนั้น มีคนรู้ว่าถ้ำช้างร้องอยู่ตรงนี้ เรือนั้นล่องลอยเข้ามาเรื่อยๆ มาใกล้บริเวณที่พระเณรอยู่ และกำลังจะล่องผ่านไป ภายในเรือนั้นมีคนมากมาย พูดคุยกันเสียงดังโว้กว๊าก พระเณรที่อยู่ในถ้ำเห็นดังนั้น ก็พากันออกมาดู

เทพบันดาล!! พระลูกศิษย์หลวงปู่เจี๊ยะ นิมิตเห็นหญิงสาวบอกว่า จะช่วยสร้างวัด..ไม่กี่วันต่อมามีเรือของนักเลงพนันนำเงินมาถวายอย่างน่าอัศจรรย์!!

             เมื่อคนในเรือเห็นพระเณรเท่านั้นแหละ เขาร้องตะโกนว่า "เจอแล้ว ๆ นั่นพระอยู่ตรงนั้น" ต่างก็ส่งเสียงอึกทึกกันใหญ่เมื่อเรือเลียบฝั่งได้แล้ว คนบนเรือกลุ่มหนึ่งก็ตรงรี่เข้าไปหาพระ พร้อมกับหิ้วถุงใบเขื่องไปด้วยตัวแทนคนหนึ่งก็พูดว่า

"ท่านอาจารย์ เป็นบุญเหลือเกิน ที่ได้พบพวกท่านที่นี่"

"มีบุญอย่างไรกันละโยม มีเหตุการณ์อะไรหรือ?" พระที่อยู่ในถ้ำนั้นก็พากันกล่าวถามขึ้นด้วยความตกตื่น เพราะเขาหน้าตาตื่นมายังกับถูกผีหลอกกลางวันแสกๆ

"ท่านอา... อาจารย์ไม่มีอะไรไม่ดีหรอก ถึงมีเรื่องไม่ดีมันก็ผ่านมาและก็ผ่านไปแล้ว"

           เขากล่าวขึ้นแบบตะกุกตะกักเหมือนคนติดอ่าง ทั้งที่ไม่ติดอ่าง เหมือนมีอะไรครอบงำ แล้วเขาก็หันไปหยิบธนบัตรฟ่อนใหญ่มากองไว้ข้างหน้า ก้มลงกราบแล้วกล่าวว่า

"ท่านอาจารย์และพระเณรทั้งหลาย ผมขอถวายปัจจัยทั้งหมดนี้ไว้ให้ท่าน ขอให้ท่านนำเงินจำนวนมากนี้ไปสร้างวัด" พูดแล้วเขาก็ยกมือขึ้นใส่หัว...สาธุ

“มันเรื่องอะไรกันโยม อยู่ดีๆ เอาเงินมาถวายกันเป็นจำนวนเยอะๆ พระรับเงินไม่มีต้นสายปลายเหตุไม่ได้หรอก ยิ่งพวกเราเป็นพระป่า ต้องรู้ที่มาที่ไปด้วยน้ำใจใสสะอาด”

พูดเสร็จแล้วเหล่าพระก็นั่งรอฟังว่าเขาจะว่าอย่างไร

“คือเรื่องมันเป็นไปเป็นมาอย่างนี้ครับท่านอาจารย์”

เขาพูดขึ้นพร้อมเอามือปาดเหงื่อที่ไหลซิกๆ

"เริ่มแรกทีเดียวพวกผมมาในนามนักท่องเที่ยว ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์เพื่อปกปิดอะไรบางอย่างไว้ แท้ที่จริงแล้วเรือลำใหญ่ๆ ที่ท่านอาจารย์เห็นอยู่นั้น เป็นเรือบ่อนการพนันขนาดใหญ่ แต่แอบแฝงมาในนามเรือท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์บริเวณเขื่อนภูมิพล เพื่อไม่ให้ทางการรู้ ในนั้นมีแต่พวกเศรษฐีเจ้ามือใหญ่ๆ ผมเป็นเพียงตัวแทนเขา ให้นำเงินมาถวายท่าน"

               เมื่อเรือท่องเที่ยวล่องมาตามลำน้ำ ก็เล่นการพนันสนุกสนานมาเรื่อยๆ ไม่ปรากฏว่ามีอะไร แต่พอมาถึงช่วงก่อนหน้านี้ไม่นานนัก การโกงกันก็เกิดขึ้น ตกลงกันไม่ได้ พวกนักเลงการพนันแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ต่างฝ่ายต่างก็มีอาวุธอยู่ครบมือ เกือบจะยิงกันตายทั้งลำ บนเรือนั้นมีแต่เจ้าพ่อทั้งนั้น ไม่มีใครยอมใคร ต่างฝ่ายก็ต่างมีศักดิ์ศรี จึงตกลงกันว่า

"เงินทั้งหมดที่อยู่บนเรือนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้"

"พวกเราจะทำกันอย่างไรล่ะทีนี้" หัวหน้าตัวโจกทั้งสองฝ่ายพูดขึ้น

"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าเราล่องเรือไปเจอวัดเจอพระที่ไหน ก็มอบถวายท่านไปเลย ปัญหาจะได้จบ" หัวหน้านักเลงการพนันอีกฝ่ายหนึ่งพูดขึ้น

"เอาเป็นว่าตกลงกันตามนี้" หัวหน้าอีกฝ่ายโต้ตอบยอมรับแสดงความเป็นธรรม

            จึงสรุปความว่า เงินนี้พวกเราจะถวายพระ ที่เจอครั้งแรกในการเดินทางต่อไปนี้ จึงมาเจอท่านอาจารย์และพระเณรนี้แหละ ในระหว่างนี้เหตุการณ์ตึงเครียดเหลือเกิน ไม่นึกไม่ฝันว่า พวกพระคุณเจ้าทั้งหลายจะมาอยู่ในป่าดงพงลึกขนาดนี้ พวกผมเห็นแล้วดีใจกันใหญ่ ไม่งั้นจะต้องฆ่ากันตายแน่ๆ

"โยมเอ๋ย เงินของโยมพระรับไม่ได้ดอก มันมีที่มาไม่บริสุทธิ์ เอาเป็นว่าอาตมารับแล้วก็คืนให้ ขืนอาตมารับไว้ พระที่นี่ก็ฆ่ากันตายอีกหรอก เงินมันมากขนาดนี้ หรือถ้าโยมมีศรัทธาจะเอาไปถวายพระที่ไหนก็แล้วแต่"

เขารับเงินคืนแล้วแสดงอาการดีใจจนลิงโลด ออกอาการไชโยโห่ร้อง เป็นทางออกที่ปลอดโปร่งโล่งใจแทบทุกฝ่าย พระภิกษุรูปที่ติดต่อกับหญิงเทวดาได้นั้น ถึงกับอุทาทานในใจว่า

"นี้หรือที่มึงว่าจะช่วยกูสร้างวัค...หึ...อีแม่หญิงร้าย...อีแก่ มึงจะมาบังคับกูทางอ้อมหรือ" แล้วเหตุการณ์นี้ก็ผ่านไป เป็นเหตุการณ์แรกที่ถ้ำช้างร้อง

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.dharma-gateway.com