- 25 ก.ย. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
ในปีพ.ศ. ๒๕๒๔ ที่วัดอรัญญบรรพต กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอุโบสถ ได้มีเหตุอันน่าอัศจรรย์เกิดขึ้น คือพญานาคได้ลอยขึ้นมาอยู่เหนือผิวน้ำกลางแม่นำโขงบริเวณท่าน้ำวัดอรัญญบรรพต เหตุการณ์ครั้งนั้นมีเด็กวัดคนหนึ่งไปเห็นเข้า จึงได้วิ่งไปกราบเรียนหลวงปู่เหรียญ วรลาโภเพื่อให้ท่านไปดู ขณะนั้นหลวงปู่กำลังเขียนหนังสืออยู่ในกุฎิของท่าน
"หลวงปู่ไปดูนาคไหม มันขึ้นมาลอยเล่นอยู่กลางแม่น้ำโขง" เด็กวัดกราบเรียนหลวงปู่
ท่านตอบว่า "นากกินปลาเราเห็นมาพอแรงแล้ว"
เด็กวัดจึงวิ่งกลับไปดูอีก พญานาคคนนั้นก็ยังคงลอยอยู่กลางลำโขงเช่นเดิม สักครู่เดียวเด็กวัดคนนั้นก็วิ่งกลับมานิมนต์หลวงปู่อีก ท่านก็ตอบเด็กคนนั้นเหมือนเดิม จนเด็กคนนั้นวิ่งมานิมนต์ท่านเป็นครั้งที่ ๓ คราวนี้ท่านนึกเอะใจว่าคงจะไม่ใช่นาคกินปลาธรรมดาเสียแล้ว ท่านจึงได้ไปดู เมื่อหลวงปู่ไปถึง พญานาคตนนั้นได้ดำน้ำลงไปแล้ว แต่ก็ยังมีเครื่องยืนยันให้ท่านได้ประจักษ์ว่าพญานาคนั้นมีอยู่จริงก็คือ ขณะนั้นแม้ว่าพญานาคจะจมลงไปในท้องน้ำแล้วก็ตาม แต่มันยังมิได้ไปไหน ได้พ่นน้ำพุ่งขึ้นมาเป็นสายคล้ายน้ำพุสูงขึ้นมาเหนือผิวน้ำ พญานาคทำอยู่อย่างนั้นเป็นระยะ ๆ ตั้งเวลา ๑๐ โมงเช้าไปจนถึงเวลาประมาณ ๕ โมงเย็นถึงได้เคลื่อนหายไป หลวงปู่ท่านจึงได้เห็นเฉพาะน้ำที่พญานาคพ่นขึ้นมาเท่านั้น
หลวงปู่ได้ถามเด็กวัดคนนั้นถึงรูปร่างลักษณะของพญานาคว่าเป็นอย่างไร เด็กคนนั้นได้กราบเรียนหลวงปู่ถึงลักษณะของพญานาคตนนั้นว่า หงอนมันมีสีแดงจัด ลำตัวมีสีดำเป็นเงางาม เกล็ดมีสีดำ ขนาดของลำตัวใหญ่เท่าลำตาลและยาวมาก หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลวงปู่เหรียญก็ได้เดินทางไปกราบเยี่ยมหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งขณะนั้นกำลังอาพาธอยู่ ในครั้งนั้นท่านได้ร่วมเดินทางไปกับหลวงปู่อ่อนศรี สุเมโธ, หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส และหลวงปู่ต้น สุทธิกาโม เมื่อคณะของหลวงปู่เหรียญเข้าไปถึงกุฏิหลวงปู่ขาว หลวงปู่ขาวก็กล่าวขึ้นทันทีว่า
"ท่านเหรียญได้ข่าวว่าพญานาคขึ้นที่วัดหรือ
หลวงปู่เหรียญเล่าว่า ไม่ทราบหลวงปู่ขาวท่านทราบได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เกิดได้เพียงไม่กี่วันและท่านก็กำลังอาพาธอยู่ จากนั้นหลวงปู่ขาวยังกล่าวต่อไปอีกว่า....
"ที่พญานาคตนนั้นลอยตัวขึ้นมาให้เห็นนั่น ก็เพราะว่ามันมาตามหาลูกซึ่งหายไปเป็นอาทิตย์แล้ว เลยทำให้น้ำในแม่น้ำโขงตั้งแต่อำเภอท่าบ่อเรื่อยไปจนถึงเขตจังหวัดเลยน้ำขุ่น..."
จากการที่หลวงปู่ขาวกล่าวเช่นนั้นก็ตรงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในขณะนั้นคือ สีของน้ำในแม่น้ำโขงละแวกวัดอรัญญบรรพตในขณะนั้นขุ่นมาก และที่สำคัญคือชาวญวนที่ปลูกผักอยู่ริมโขงได้ตักน้ำในลำน้ำโขงขึ้นมารดผัก ปรากฎว่าผักทั้งหลายในแปลงมีลักษณะไหม้และเฉาตายทั้งหมด ตรงกับที่คนโบราณกล่าวว่า ตัวของพญานาคนั้นมีพิษ ใครได้สัมผัสแล้วจะร้อนและเกิดแผลพุพองดังไฟไหม้ จนอาจตายได้ ดังนั้น เมื่อมันออกตามหาลูกที่หายไปจึงกวนน้ำในละแวกนั้นจนขุ่น และพิษจากตัวนาคได้ตกค้างในกระแสน้ำก็เป็นได้
ขอบคุณข้อมูลจาก http://palungjit.org