ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

เดี๋ยวเรือจะมารับ!! เมื่อหลวงปู่ตื้อ หลวงปู่แหวน จะข้ามฝากแม่น้ำโขง..ไม่กี่นาทีก็มีเรือหาปลามารับ เผย..สังหรณ์ใจว่ามีพระกำลังรอ จึงพายมาดู!!

           หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่แหวน ท่านทั้งสองเคยร่วมธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ หลายต่อหลายแห่ง ในสมัยที่ยังเป็นพระหนุ่ม พระธุดงค์หนุ่มทั้งสองรูปได้ไปพบกันครั้งแรกที่ป่าภูพาน ขณะนั้นหลวงปู่ตื้อ จาริกธุดงค์มาจากพระบาทบัวบก จังหวัดอุดรธานี หลวงปู่ทั้งสององค์ได้สนทนาธรรมแลกเปลี่ยนความรู้กัน เป็นที่ชอบอัธยาศัยถูกใจกันยิ่งนัก หลวงปู่ตื้อและหลวงปู่แหวนในสมัยเป็นพระธุดงค์หนุ่ม ท่านมีปฏิปทาที่ตรงกัน แม้บุคลิกภายนอกจะแตกต่างกันอย่างมาก แต่ก็เข้ากันได้ดี ทั้งสองท่านเป็นพระหนุ่มฝ่ายมหานิกาย ที่ท่องธุดงค์แต่ลำพังอย่างโดดเดี่ยวกล้าหาญโดยไม่มีครูอาจารย์ฝ่ายกรรมฐานคอยกำกับชี้ทางเลย

เดี๋ยวเรือจะมารับ!! เมื่อหลวงปู่ตื้อ หลวงปู่แหวน จะข้ามฝากแม่น้ำโขง..ไม่กี่นาทีก็มีเรือหาปลามารับ เผย..สังหรณ์ใจว่ามีพระกำลังรอ จึงพายมาดู!!

เดี๋ยวเรือจะมารับ!! เมื่อหลวงปู่ตื้อ หลวงปู่แหวน จะข้ามฝากแม่น้ำโขง..ไม่กี่นาทีก็มีเรือหาปลามารับ เผย..สังหรณ์ใจว่ามีพระกำลังรอ จึงพายมาดู!!

          มีเรื่องเล่ามากมายของหลวงปู่ตื้อ หลวงปู่แหวน ขณะออกธุดงค์ ตอนที่หลวงปู่ตื้อกับหลวงปู่แหวนพบกัน และเริ่มออกธุดงค์ด้วยกันใหม่ๆ ทั้งสององค์ได้มุ่งหน้าข้ามแม่น้ำโขงไปทางสุวรรณเขต ในประเทศลาว และตอนจะข้ามแม่น้ำโขง หลวงปู่ตื้อได้แสดงอะไรบางอย่างให้หลวงปู่แหวนดู

         เรื่องมีอยู่ว่าทั้งสององค์หาเรือข้ามฟากไม่ได้ แม่น้ำโขงก็ไหลเชี่ยวจัด เพราะเป็นคุ้งน้ำไหลผ่านช่องเขาค่อนข้างแคบ หมู่บ้านใกล้สุดก็อยู่ห่างออกไปไม่น้อยกว่าหนึ่งกิโลเมตร มองไม่เห็นเรือนแพอยู่แถวนั้นเลย หลวงปู่ตื้อบอกว่า

"ท่านแหวนไม่ต้องวิตก เดี๋ยวก็มีเรือมารับเราข้ามฟากไป" 

แล้วท่านก็ยืนนิ่งหลับตา บริกรรมคาถา เพียงอึดใจใหญ่ๆ ก็ลืมตาขึ้น พูดยิ้มๆ ว่า

"เดี๋ยวเรือจะมารับ"

 

เดี๋ยวเรือจะมารับ!! เมื่อหลวงปู่ตื้อ หลวงปู่แหวน จะข้ามฝากแม่น้ำโขง..ไม่กี่นาทีก็มีเรือหาปลามารับ เผย..สังหรณ์ใจว่ามีพระกำลังรอ จึงพายมาดู!!

            อีกสักพักก็มีเรือหาปลาพายผ่านมา พอเห็นพระหนุ่มทั้งสองรูปยืนอยู่ที่ท่าน้ำ ก็พายเรือเข้ามารับพาข้ามฟาก ชายคนนั้นบอกว่า ขณะที่เขาหาปลาอยู่ กลางแม่น้ำรู้สึกสังหรณ์ใจว่ามีพระกำลังรอเรือข้ามฟาก จึงได้พายเรือมาดู ก็พบพระคุณเจ้าทั้งสองจริง นับว่าน่าอัศจรรย์มาก

หลวงปู่ตื้อ พูดยิ้มๆ ว่า

"โยมได้บุญกองใหญ่แล้วคราวนี้ ที่เอาเรือมารับเราข้ามฟาก ขอให้หมั่นทำความดีไว้ ถ้าจะเลิกจับปลาฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเลยได้ก็จะดีมาก"

คนหาปลาถามว่า

"ถ้าไม่จับปลา แล้วจะให้ข้าน้อยทำมาหากินอะไร?"

หลวงปู่ตื้อ บอกว่า

"ทำไร่ทำนาหากินโดยสุจริตก็ดีแล้ว ต่อไปชีวิตครอบครัวจะเจริญรุ่งเรืองอยู่ดีกินดี อาตมาขอให้พร"

เดี๋ยวเรือจะมารับ!! เมื่อหลวงปู่ตื้อ หลวงปู่แหวน จะข้ามฝากแม่น้ำโขง..ไม่กี่นาทีก็มีเรือหาปลามารับ เผย..สังหรณ์ใจว่ามีพระกำลังรอ จึงพายมาดู!!  

           คนหาปลามีความศรัทธาพระธุดงค์ทั้งสององค์เป็นอย่างมาก ต่อมาภายหลังทราบว่าเขาได้เลิกหาปลา แล้วหันมาทำนาทำไร่ เลิกการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ชีวิตครอบครัวเขามีความเจริญรุ่งเรืองทำมาค้าขายขึ้นจนมั่งมีเงินทอง สามารถสร้างวัดได้ ๒-๓ แห่ง ทั้งนี้ คงเป็นด้วยอานิสงส์ผลบุญที่เขาเอาเรือมารับพระภิกษุผู้ครองศีลบริสุทธิ์ข้ามแม่น้ำ ตนเองเชื่อมั่นในพรที่พระท่านให้ และเลิกฆ่าสัตว์ตัดชีวิตโดยแท้จริง

 

 

 

ขอบคุณที่มาจาก : http://palungjit.org