รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://panyayan.tnews.co.th

เหรียญ รุ่น “บาทใหญ่” ของ หลวงพ่อทอง!!! ผู้ที่สรีระไม่เน่า แม้ ๑๑ม.ม.ยังไมระคายผิว #สุดยอดอมตะเถราจารย์ แห่งเมืองแปดริ้ว
เหรียญ รุ่น “บาทใหญ่” ของ หลวงพ่อทอง!!! ผู้ที่สรีระไม่เน่า แม้ ๑๑ม.ม.ยังไมระคายผิว #สุดยอดอมตะเถราจารย์ แห่งเมืองแปดริ้ว พระครูสุวรรณศีลาจารย์ ( หลวงพ่อ ทอง วัดก้อนแก้ว )

าติภูมิ ท่านเป็น ชาวเขมร จังหวัดพนมเปญ มีเชื้อสายเป็นเจ้า เดินทางมาเรือกับ บิดา มารดา มาพักที่ กรุงเทพ ทำอาชีพค้าขาย ต่อมาได้รู้จักกับพระวัดสัมพันธวงศ์ชวนท่านบวชเณร และได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดสมานรัตนาราม และ หลวงพ่อทอง ท่านได้เกิดป่วยหนัก มีคนรู้จักได้พาท่านมาพักที่บ้าน ไผ่เสวก ต.บางแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ต่อมาคนที่พาท่านมาได้ตายและเผาที่วัด จุกกะเฌอ หลวงพ่อทองท่านได้บวชหน้าไฟให้ตั้งแต่นั้นมาท่านก็บวชพระที่วัด จุกกะเฌอ ได้จำพรรษาและศึกษาวิชาอาคมกับ พระอธิการ แสง แห่งวัดจุกกะเฌอ ซึ่งเป็นพระที่ก่งกาจด้านกรรมฐาน วิปัสนา ท่านเป็นพระ ความจำเลิศ ถือธุดงค์วัตเป็นนิจ ได้ออกธุดงค์ ไปทั่วตามต่างจังหวัดและออกไปถึง เขมรและพม่า ได้ศึกษาวิชาอาคมกับ ท่านอาจารย์ สุวรรณที่มีวิชาอาคมแก่กล้าจนหมดสิ้น ก็เดินทางไป กาญจนบุรี ไปขอเรียนวิชาจาก พระครูเขาพระ และกับ เฒ่ามุ้ย วิชาลงกระหม่อมอีกจนสำเร็จ และออกธุดงค์เข้าป่าลึกเป็นเวลากว่า ๒๐ ปี ทั้งใน ไทย - เขมร -พม่า ศึกษาวิชากับเกจิอาจารย์ ในทุกที่ จนกลับมาจำพรรษาที่วัดจุกกะเฌอดังเดิม สมัยนั้นวัดก้อนแก้วเกือบจะเป็นวัดร้าง คุณยายแฉล้ม ละมั่งทอง ได้นิมนต์ หลวงพ่อทองมารักษาการแทนเจ้าอาวาสองค์เก่าที่มรณภาพไป อยู่หลายครา จนสุดท้าย เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคุณ พุทธิรังสีมุณีวงค์ ต้องจัดขบวนแห่ด้วยตัวท่านเองนำแห่จากวัดจุกกะเฌอ มาวัดก้อนแก้ว หลวงพ่อทอง ท่านจึงยอมมาเป็นเจ้าอาวาสวัดก้อนแก้ว 
พ.ศ.๒๕๑๐ ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสุวรรณศีลาจารย์ ( แปลว่าผู้มีศีลบริสุทธิ์ดุจทอง)
หลวงพ่อทอง มรณะภาพเมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๒๕ อายุ ๙๒ ปี ๖๓พรรษา

เหรียญ รุ่น “บาทใหญ่” ของ หลวงพ่อทอง!!! ผู้ที่สรีระไม่เน่า แม้ ๑๑ม.ม.ยังไมระคายผิว #สุดยอดอมตะเถราจารย์ แห่งเมืองแปดริ้ว
หลวงพ่อทอง ท่านมีความสามารถในด้าน วิปัสสนาและกรรมฐาน วิชาอาคมหลายแขนง มีพลังจิตแก่กล้ามาก ยากจะหาใครเทียบได้ มีจิตเมตตาสูงต่อญาติโยม พูดน้อย แต่ยิ้มแย้มเสมอ เวลามีคนมาหาท่านให้ทำน้ำมนต์รักษาโรคร้าย โดนคุณไสยมนต์ดำ เจ็บไข้ได้ป่วย มาขอพร ค้าขายดี ก็จะมาขอท่านรดน้ำมนต์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมายามใด ท่านก็จะลุกขึ้นมาต้อนรับทำให้อย่างเต็มใจโดยตลอดมา ท่านเป็นพระที่สมถะอย่างแท้จริง ไม่ยึดติด ได้ปัจจัยมาเท่าใด ก็นำมาทำนุบำรุงวัดก้อนแก้ว ไม่มีการสะสมใดๆเลยจวบจน วันมรณภาพ ในกุฏิเก่าๆของท่าน และในตัวท่าน ไม่มีทรัพย์สินมีค่าแต่อย่างใดเลย ถือได้ว่าละซึ่งทุกสิ่งแล้วจริงๆ
วัตถุมงคล ของท่าน จะต้องทำขึ้นอย่างตั้งใจมีขั้นตอน ฤกษ์ยามอย่างถูกต้อง และจะต้องปลุกเสกในวันเสาร์ ๕ เสกได้เต็มที่และมีความขลังมากกว่าวันอื่นๆ ท่านจะเสกจนทะลุ เหรียญ เสกจนมั่นใจ จึงยอมให้ญาติโยมไปบุชาคุ้มครองตัวได้ 
วัตถุมงคลของท่านจึงมีปฏิหารย์และประสบการณ์สูงมาก ในพื้นที่ เจอกันทุกรูปแบบ หยุดอาวุธทุกชนิด จนเป็นที่โจษขานไปทั่ว และยังเป็นเมตตามหานิยม ทั้งนักเลงและแม่ค้าแม่ขาย ต่างมีของดีของท่านติดตัวกันทุกคนไป 
ในยุคนั้นเขตภาคตะวันออก 
วัดไหนมีพิธีพุทธาภิเษก ต้องมานิมนต์ท่านทุกวัด ล้วนแต่เป็นงานใหญ่ๆ ทั้งนั้น ได้รับกิจนิมนต์ให้ปลุกเสกร่วมกับ หลวงปู่ ทิม วัดละหารไร่ /หลวงปู่โต๊ะ ประดู่ฉิมพลี / เป็นประจำ และเวลาท่านนั่งปรกปลุกเสก ท่านจะเสกจนมั่นใจในวัตถุมงคลนั้นๆ จึงจะถอนจาก ญาณสมาบัติ ก่อนเข้าร่วมปลุกเสก ท่านจะให้ หลวงพี่ ทุ้ย พระใกล้ชิดท่าน ไปถามว่า กำหนดการสิ้นสุดพิธีปลุกเสกกี่โมง แล้วท่านจะกำหนดจิต เข้าสมาธิปลุกเสก นั่งรวดเดียว จนถึงเวลากำหนด ก็จะถอนจากสมาธิลืมตา พอดี ทุกครั้งโดยที่ไม่มีใคร ไปเรียกแต่อย่างใด ไม่ว่างานนั้น จะมีลั่นฆ้องพัก ฉันน้ำชา แต่สำหรับท่าน นั่งรวดเดียวเลยครับ ยันสว่างก็ รวดเดียว จิตท่านนิ่งมาก เวลาเสกของ ท่านบอกต้องเสกให้ทะลุ ถึงจะได้ผล... 
และยังมีเรื่อง ม้า จอมพยศของท่านที่มีคนนำมาปล่อยเพราะเลี้ยงไม่ไหว ไม่มีใครคนใดเอามันอยู่ ท่านเสกหญ้าให้มันกิน จนมันเชื่องกับท่านคนเดียว แต่มันเกเร ออกไปนอกวัดเดินเหยียบสวนผักของชาวบ้านทำลายข้าวของ จนชาวบ้านทนไม่ไหว เอามีด เอาปืนไล่ยิง ไล่ฟันแต่ไม่เข้าสักราย เพราะมันมีผ้าจีวรที่ท่านผูกคอมันไว้ จน หลวงพ่อทองท่าน มรณภาพลง มันก็ยิ่งเกเรขึ้นทุกวัน จนชาวบ้านทนไม่ไหว เอารถสิบล้อไล่ทับมันจนตาย
ส่วนวัตถุมงคลของท่านทุกชิ้นท่านจะปลุกเสกจนมั่นใจแล้วจึงออกให้บูชาได้ ของทุกอย่างของท่านจึงมีประสบการณ์มากมาย ขนาดเด็กนั่งหัวเรือ โดนฟ้าผ่าเต็มๆ ยังแค่สลบไป พ่อพาไปให้ท่านรดน้ำมนต์ แล้วก็กลับบ้านได้เลย ในตัวเด็กมีเหรียญของท่าน แขวนอยู่เหรียญเดียวครับ
 

เหรียญ รุ่น “บาทใหญ่” ของ หลวงพ่อทอง!!! ผู้ที่สรีระไม่เน่า แม้ ๑๑ม.ม.ยังไมระคายผิว #สุดยอดอมตะเถราจารย์ แห่งเมืองแปดริ้ว
#ประสบการณ์ที่วัดจะๆ 
หลวงพ่อทอง ท่าน ปลุกเสกเหรียญ รุ่น "บาทใหญ่" เพื่อออกจำหน่ายในงานประจำปีวัด ก้อนแก้ว เพื่อนำเงินไปทำนุบำรุงวัดก้อนแก้ว ตกกลางคืนมีงานวัด วัยรุ่นแถบนั้น เขม่นกัน ตะลุมบอล เสียงปืนดังขึ้น มีคนล้มลง โดนลูกหลง ลูกปืน ๑๑ ม.ม. เจอะเข้าที่ขมับเป็นรอยบุบ สลบไป สักพักก็ฟื้น ในกระเป๋าเสื้อมีเหรียญบาทใหญ่ ที่เช่าจากวัด เหรียญเดียวเท่านั้น
เรื่องยิงไม่เข้า ปืนด้าน มีให้เล่ากันเป็นประจำกับวัตถุมงคลของท่าน สมัยนั้นถนนทางวัดเปลี่ยวมาก โจรชุมยิ่งนัก วัยรุ่นก็ห้าวข้ามถิ่นกันไม่ได้ แต่วัยรุ่นแถบวัด ยังไงต้องมีวัตถุมงคลของท่านติดตัวทุกคน ถึงขนาดทหารในค่ายศรีโสธร ต้องมาขอจัดสร้างเหรียญ ให้ท่านปลุกเสก เพื่อติดตัวไปออกสงครามในยุคนั้น ท่านโด่งดังมาก ท่านเป็นพระที่ผมเคารพนับถือในจริยวัตรมาก 
วันที่ท่านมรณภาพ จากคำบอกเล่าของ เจ้าอาวาสองค์ต่อมา ในตัวท่านและในกุฏิไม่มีเงิน หลงอยู่เลยแม้แต่บาทเดียว ท่านทำเผื่อวัด และอุทิศตัวเพื่อศาสนาและช่วยเหลือ ชาวบ้าน ที่มาขอความช่วยเหลือ
ปัจจุบัน สรีระ ของท่านไม่เน่าเปื่อย บรรจุในโลงแก้ว ณ วัดก้อนแก้ว หากท่านได้ผ่านมาแปดริ้ว เข้าไปกราบขอพรจากท่านได้ครับ พระของท่าน ผมแขวนเดี่ยวได้อย่างสบายใจ  กราบนมัสการ พระคุณเจ้า
ที่มา FB: เพจเล่า เรื่อง "พระ"

เหรียญ รุ่น “บาทใหญ่” ของ หลวงพ่อทอง!!! ผู้ที่สรีระไม่เน่า แม้ ๑๑ม.ม.ยังไมระคายผิว #สุดยอดอมตะเถราจารย์ แห่งเมืองแปดริ้ว