รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://panyayan.tnews.co.th

ปากหินปูนฝั่งลาว ท่าอุเทนฝั่งไทย ขวางกั้นด้วยแม่น้ำโขงก็มิอาจกั้นฤทธิ์อภิญญา“ญาครูสีทัตถ์” เร้นกายหายตัว ย่นระยะทางในชั่วอึดใจ !!!

ปากหินปูนฝั่งลาว ท่าอุเทนฝั่งไทย ขวางกั้นด้วยแม่น้ำโขงก็มิอาจกั้นฤทธิ์อภิญญา“ญาครูสีทัตถ์” เร้นกายหายตัว ย่นระยะทางในชั่วอึดใจ !!! หลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน วัดพระธาตุท่าอุเทน หรือที่คนเฒ่าคนแก่นิยมเรียกว่า “ญาครูสีทัตถ์” เป็นพระเถราจารย์ที่บรรรลุฤทธิคุณ ทรงอภิญญา แสดงฤทธิ์ได้ดังใจ มีเรื่องเล่าขานถึงอิทธิปาฏิหาริย์ที่คนเฒ่าคนแก่เล่าขานกันต่อๆมาจึงปรากฏมีอยู่มากมายหลายเรื่อง ดังบทความที่เรียบเรียงโดย ทองทิว สุวรรณทัต ได้เขียนไว้ว่า จากปากคำบอกเล่าในบันทึกของอดีตนายอำเภอซึ่งได้รับคำไขขานบอกเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ของเมืองท่าอุเทน เล่าให้ฟังว่าหลวงปู่ท่านหายตัวได้และย่อแผ่นดินจากกว้างให้แคบได้ เช่นเมืองท่าอุเทนอยู่ฝั่งไทย เมืองปากหินปูนอยู่ฝั่งลาว โดยมีแม่น้ำโขงกั้นกลางอยู่ แต่หลวงปู่ท่านก็มีความสามารถเดินข้ามได้อย่างสบาย
 

ปากหินปูนฝั่งลาว ท่าอุเทนฝั่งไทย ขวางกั้นด้วยแม่น้ำโขงก็มิอาจกั้นฤทธิ์อภิญญา“ญาครูสีทัตถ์” เร้นกายหายตัว ย่นระยะทางในชั่วอึดใจ !!!
มีเรื่องเล่าว่าในสมัยนั้นฝั่งลาวกับฝั่งไทยมีความรักใคร่กันดี เมื่อมีงานบุญก็จะบอกกล่าวถึงกันเป็นประจำ แม้จะมีแม่น้ำโขงขวางกั้นอยู่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด พระเณรจะถูกนิมนต์ให้ไปร่วมทำบุญและไปกันเป็นคณะ ซึ่งหลวงปู่ท่านก็กำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง ท่านก็ถูกนิมนต์ไปด้วยเสมอ เพราะชาวฝั่งเมืองหินปูนต้องการชมบารมี และจะได้เห็นหน้าเห็นตาท่านชัด ๆ สักที
เมื่อญาติโยมได้นิมนต์พระสงฆ์องค์เณรเรียบร้อยแล้วก็ได้พากันไปนิมนต์หลวงปู่สีทัตถ์ ซึ่งขณะนั้นท่านกำลังสั่งและควบคุมพวกช่างสร้างพระธาตุท่าอุเทนอยู่โดยขอนิมนต์ให้ท่านไปพร้อม ๆ กันหลาย ๆ รูปและหลายลำเรือและกล่าวกับท่านว่า “ชาวเมืองปากหินปูนกำลังรออยู่ ขอให้หลวงปู่ลงเรือไปด้วยกันให้จงได้ เพราะที่เรือได้เตรียมปูเสื่อน้อยให้สำหรับหลวงปู่อยู่แล้ว เพื่อจะได้ไปทันเจริญพระพุทธมนต์ก่อนเพลในโบสถ์ วัดปากหินปูนเสร็จแล้วก็จะได้ให้หลวงปู่ร่วมฉันเพลกับพระรูปอื่น ๆ ด้วย”
หลวงปู่ท่านกล่าวกับญาติโยมว่า “ไปก่อนเถอะ จะสั่งเสียมอบหมายการงานให้ช่างสร้างพระธาตุท่าอุเทนเรียบร้อยแล้ว จะรีบตามไปให้ทันทีหลัง” พวกญาติโยมก็พากันคะยั้นคะยออยู่หลายครั้ง หลวงปู่จึงหันหน้ามาบอกว่า “ไปเถอะ ไปก่อนเถอะ จะตามไปให้ทันทีหลัง ไม่ต้องห่วง” 
จากนั้นญาติโยมก็พากันลงเรือข้ามไปปากหินปูน พอไปถึงฝั่งปากหินไน ที่วัดกำลังมีงานผู้คนก็มาก ญาติโยมได้พาพระเณรจากฝั่งไทยเข้าโบสถ์
แต่เมื่อทุกคนมองเข้าไปในโบสถ์ ก็เกิดความสงสัยเป็นอย่างยิ่งเพราะพระเณรของเมืองปากหินปูน ต่างก็นั่งห้อมล้อมหลวงปู่สีทัตถ์อยู่อย่างเนืองแน่น สร้างความประหลาดใจไปตาม ๆ กัน เพราะเรือที่ตามมาติด ๆ กันมิได้เห็นมีสักลำ จะเข้าไปถามดูว่าท่านมาได้อย่างไรก็ไม่มีโอกาส เพราะมีพระอยู่มาก และกำลังประกอบกิจทางศาสนาอยู่
 

ปากหินปูนฝั่งลาว ท่าอุเทนฝั่งไทย ขวางกั้นด้วยแม่น้ำโขงก็มิอาจกั้นฤทธิ์อภิญญา“ญาครูสีทัตถ์” เร้นกายหายตัว ย่นระยะทางในชั่วอึดใจ !!!
เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ตอนบ่าย ๆ ญาติโยมก็พากันเดินทางกลับมายังเมืองท่าอุเทน ซึ่งหลวงปู่ท่านก็กลับมาด้วย พอมาถึงวัด ญาติโยมที่ฉงนสนเท่ห์เป็นอย่างมาก เพื่อให้หายสงสัยจึงไปกราบนมัสการถามหลวงปู่ว่า “หลวงปู่ไปถึงวัคปากหินปูนก่อนได้อย่างไร”
ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ตอบไปโดยเลี่ยง ๆ ว่า“ก็ตามกันไปนั่นแหละ ไม่เห็นหรือ ?” จากนั้นหลวงปู่ท่านก็พูดคุยไปในเรื่องอื่น ๆ อันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างพระธาตุว่า “งานของเรายังมีอีกมาก ช่วยกันเข้าจะได้เสร็จ ๆ ไป” 
เรียบเรียงโดย: ทองทิว สุวรรณทัต ขอนำมาเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา
ที่มา FB:เพจตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญาครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม และ www.dharma-gateway.com