- 16 ต.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ https://www.facebook.com/partiharn99/
การแสดงออกถึงการจงรัก และ ภักดี ในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ นั้น มีมากมาย แค่ไม่ทำให้ประเทศชาติ หรือคนอื่นเดือดร้อนในสิ่งที่เราทำ นั่นก็คือส่วนหนึ่งที่พระองค์ท่านอยากเห็นจากพวกเราคนไทยทุกคน แต่วันนี้ เราได้รวบรวมบุคคลที่วิ่งเพื่อพ่อในรอบปี ๖๐ ที่แต่ละคนวิ่งจากที่ห่างไกล มีอุปสรรคมากมาย แต่เป้าหมาย คือจุดเดียวกัน นั่นก็คือ "พระบรมมหาราชวัง" เพื่อกราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวง ร.๙
สาธิต จันทะรังสี ชายพิการหัวใจแกร่ง เข็นรถวีลแชร์คู่ใจออกจากบ้านพักจ.พิษณุโลก เป้าหมายไปร่วมงานถวายพระเพลิงพระบรมศพที่ กทม. ใช้เวลาเดินทาง ๙ วันครึ่ง
นายสอ้อย มิ่งไชสงค์ อายุ ๕๓ ปี นักข่าวเมืองจันทบุรี ออกเดิน-วิ่ง เข้ากรุงฯ ระยะทางกว่า ๒๔๙ กิโลเมตร เพื่อไปกราบพระบรมศพในหลวง ร.๙
นายอับดุล สารีเต๊ะ อายุ ๔๓ ปี ชาวจังหวัดปัตตานี ออกวิ่งและเดินมุ่งหน้าสู่พระบรมมหาราชวัง เดิน และ วิ่ง แต่ละวันให้ได้อย่างน้อย ๗๐ กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น ๑,๐๔๕ กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ ๑๗ วัน
นายจิตติวัฒน์ หรือทีม เตชะรัตนยืนยง อายุ ๓๑ ปี ได้เดินจากจังหวัดเชียงราย ในโครงการ เดินเพื่อในหลวง (Walk for the King) เพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ระยะทาง ๑,๐๔๕ กิโลเมตร ในระยะเวลา ๓๕ วัน
นางสุดา แจ่มจันทร์ อายุ ๔๗ ปี เป็นชาว จ.สตูล เดินถือภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จาก อ.ปาย-กรุงเทพฯ
นายพิศล อางี่ ราษฎรบ้านแม่จันใต้ จ.เชียงราย ผู้พิการทางหู และนายอนุรักษ์ เมทู อายุ ๑๘ ปี ราษฎรบ้านแม่คำหล้า จ.ลำปาง สองนักวิ่งเผ่าอาข่า ก็ร่วมตัวแทนชาติพันธุ์เผ่าอาข่าออกวิ่งจากบ้านมุ่งหน้าไปยังกรุงเทพมหานครเพื่อกราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวง ร.๙
นายอากี ซือมื่อ อายุ ๓๓ ปี ชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า ใน จ.เชียงราย เดินเท้าถือภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาตั้งแต่ จ.เชียงใหม่ โดยตั้งใจไปให้ถึงกรุงเทพมหานคร เพื่อไปร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ส่งเสด็จพระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย