ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th

"ใครทำได้ชีวิตนี้ไม่มีตกอับ"

หลวงปู่บอกว่า ก่อนนอนท่านสวดพระคาถาบทนี้ทุกคืน และได้พิจารณาดูก็รู้สึกว่าใช้ดี มีผลดีแก่ผู้ใช้มหาศาลทีเดียว

พระคาถาพระฉิมพลีให้ลาภ :

(นะโม ๓จบ)

สิวลีจะมหาเถโร ปัจจะยะลาภะปูชิโต มะนุสโสเทวะตาอินโท พรหมมายะโม ยักขาวาปิตัสสะ นิรันตะรัง ปะนะลาภะ สักกาเรอาเน็นติ นิจจัง สิวลีคเถรัสสะ ลาโภ จะสักกาโรโหติ สิวลีมหาเถรัสจะปูชะกัสสะ สะทาวาปิ คาถันจะ สังวัดตะนัสสะ ลาโภจะ สักกาโรโหเถรัสสะ อานุภาเวนะ ลาโภเมโหตุ สัพพะทา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ลาโภเมโหตุ สัพพะทา สิวลีจะมหาเถโร สุวรรณะมามา โภชนะมามา โภคะมามา มหาลาโภมาๆ วัตถุวัตถามาๆ พะลาพลังมาๆ สัพเพชะนา พะหูชะนา ภวันตุเม ฯ

หลวงปู่ทิม อิสริโก

วัดละหารไร่ จ.ระยอง

๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๘ " หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ " ละสังขารอย่างสงบ ท่านได้มอบคาถา..พระฉิมพลีให้ลาภ "ใครทำได้ชีวิตนี้ไม่มีตกอับ"...

ประวัติ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร
หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ท่านเกิดวันที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๒ โยมบิดาชื่อ แจ้ โยมมารดาชื่อ อินทร์ พอหลวงปู่ทิมท่านอายุได้ ๑๗ ปี โยมบิดาก็ได้นำตัวไปฝากกับท่านพ่อสิงห์ ที่วัดได้เล่าเรียนหนังสือกับพ่อท่านสิงห์เป็นเวลาหนึ่งปี ก็สามารถเรียนรู้เข้าใจอ่านออกเขียนได้ แล้วโยมบิดาจึงมาขอลาหลวงปู่ทิมให้กลับมาช่วยทำงานที่บ้าน พออายุครบบวชหลวงปู่ทิมท่านจึงได้อุปสมบท ในวันที่๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๔๙ที่ วัดระหารไร่ โดยมีพระครูขาว วัดทิมมา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สิงห์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอาจารย์เกตุเป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่อท่านบวชแล้วท่านก็อยู่จำพรรษาอยู่ที่วัด ๑ พรรษา จึงได้ขออนุญาตพระอาจารย์ออกธุดงค์ไปหลายจังหวัดเป็นเวลา ๓ ปี พอใกล้เข้าพรรษาท่านก็ได้กลับมาที่วัด ตลอดเวลาที่หลวงปู่ทิมท่านธุดงค์ไปนั้น ท่านก็ได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆ ทั้งกับพระภิกษุและกับฆราวาส อีกทั้งยังได้ศึกษาตำราของหลวงปู่เฒ่าสังข์ ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ของท่าน ซึ่งเป็นพระปรมาจารย์ผู้เรืองเวทวิทยาคมอย่างยิ่งในสมัยนั้นต่อมาเมื่อ หลวงปู่ทิม ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดระหารไร่ ท่านก็ได้ซ่อมแซมกุฏิและอื่นๆ อีกหลายอย่าง ด้วยความศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อท่าน เมื่อท่านดำริว่าจะก่อสร้างพระอุโบสถก็สามารถสร้างแล้วเสร็จเรียบร้อยในระยะ เวลาเพียงหนึ่งปีเศษ ต่อมาท่านก็ได้ก่อสร้างโรงเรียนประชาบาล โดยมีทางอำเภอและจังหวัดมาช่วย ใช้เวลาเพียง ๘ เดือนก็แล้วเสร็จ สามารถเปิดให้นักเรียนได้เข้าเรียนได้ และท่านก็ยังชักชวนชาวบ้านให้ช่วยกันสร้างสะพานข้ามคลองอีกหลายแห่ง งานทุกอย่างก็สำเร็จเรียบร้อยทุกประการ เนื่องจากความเคารพเลื่อมใสของญาติโยมและชาวบ้านที่มีต่อหลวงปู่ทิม

๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๘ " หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ " ละสังขารอย่างสงบ ท่านได้มอบคาถา..พระฉิมพลีให้ลาภ "ใครทำได้ชีวิตนี้ไม่มีตกอับ"...

หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ท่านเป็นพระสมภะ ไม่ยินดียินร้ายกับลาภยศสรรเสริญ ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูชั้นประทวนเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๘ ท่านก็ไม่ได้บอกใครและไม่ได้ไปรับจนทางจังหวัดได้มอบตราตั้งให้ทางอำเภอนำมา มอบให้ท่านที่วัด และเป็นพระครูทิม อิสริโก อยู่มาจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ทางคณะสงฆ์ได้แต่งตั้งให้ท่านเลื่อนเป็นพระครูสัญญาบัตร ท่านก็ไม่ยอมบอกใคร จนทางอำเภอได้ส่งหนังสือไปที่วัด ชาวบ้านจึงได้รู้กันและได้จัดขบวนแห่มารับท่านไปรับสัญญาบัตรพัดยศ ที่เจ้าคณะจังหวัด และได้เป็นพระครูภาวนาภิรัต เมื่อวันที่๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๗

เมื่อหลวงปู่ทิม ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์ พระครูภาวนาภิรัต แล้วบรรดาศิษยานุศิษย์จึงได้ประชุมกัน ขออนุญาตหลวงปู่ทิม จัดงานฉลองสมณศักดิ์ให้กับท่าน เพื่อให้ญาติโยมได้มีโอกาสแสดงความยินดีและแสดงความกตัญญูกตเวทิตา ที่ หลวงปู่ทิมท่านได้มีเมตตาต่อเหล่าลูกศิษย์ หลวงปู่ทิมจึงขัดไม่ได้ นายสาย แก้วสว่าง ในฐานะไวยาวัจกรและศิษย์ใกล้ชิดจึงได้นัดประชุมกรรมการและชาวบ้าน ปรึกษากันว่าจะจัดฉลองสมณศักดิ์และเพื่อหารายได้สบทบทุนในการก่อสร้างกุฏิ และบูรณะซ่อมแซมสิ่งของที่ชำรุดในครั้งนี้ โดยจะขออนุญาต หลวงปู่ทิมเพื่อจัดทำเหรียญรูปเหมือนของท่าน เอาไว้แจกแก่พวกญาติโยมและศิษย์ทั้งหลาย เพื่อเป็นที่ระลึกในการร่วมกันทำบุญในงานวันฉลองสมณศักดิ์ของท่าน เพราะใครๆ ก็ย่อมทราบกันดีอยู่แล้วว่า หลวงปู่ทิมเป็นพระที่น่าเคารพบูชาอย่างยิ่ง ท่านเป็นพระที่ยึดมั่นในพระธรรมพระวินัยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นพระมักน้อยสมถะ ไม่ยินดียินร้ายในสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น

๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๘ " หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ " ละสังขารอย่างสงบ ท่านได้มอบคาถา..พระฉิมพลีให้ลาภ "ใครทำได้ชีวิตนี้ไม่มีตกอับ"...

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพและที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

.Saran WiKi คาถาครูพักลักจำ 

http://www.tumsrivichai.com

เผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์