เปิดประวัติ "ครูบาอภิชัยขาวปี" ศิษย์เอก "ครูบาศรีวิชัย" !!! ครูบาต้องมลทิน ที่ "จอมพลสฤษดิ์" นับถือเป็นที่สุด !!!

ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ https://www.facebook.com/partiharn99/

ครูบาอภิชัยขาวปี เป็นบุตรของนายเม่า และนางจันตา หล้าแก้ว เป็นชาวบ้านเชื้อสายลัวะ ชาวแม่เทย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ถือกำเนิดเมื่อวันจันทร์ เดือน ๗ เหนือ ปีกัดเป้า (ปีฉลู) ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๗ เดือนเมษายน พ.ศ.๒๔๓๑ อันเป็นวันมหาสงกรานต์ หรือวันปากปี เพื่อให้เป็นมงคลตามวันจึงมีชื่อว่า "จำปี" หรือ "จุมปี" เมื่ออายุได้ ๑๖ ปี มารดานำไปฝากบวชเป็นสามเณรกับครูบาเจ้าศรีวิชัย ณ วัดบ้านปาง เมื่ออายุครบ ๒๒ ปี ท่านบวชเป็นพระภิกษุ มีฉายาว่า พระอภิชัย

เมื่ออุปสมบทได้ ๒ พรรษา จึงกราบลาอาจารย์ เพื่อมุ่งมั่นงานก่อสร้างปฏิสังขรณ์วัดร้างต่างๆ ตามแนวทางที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยวางไว้ ถือเป็นช่วงต้นของชีวิตพระภิกษุ ระหว่างอายุ ๒๔ ปีจนถึงอายุ ๓๕ ปี ที่อุทิศทุ่มเทให้แก่งานการก่อสร้างพระอารามอย่างเต็มที่ นอกจากแถบอำเภอลี้ แม่ทา บ้านโฮ่ง ทุ่งหัวช้างในลำพูนแล้ว ยังได้เดินทางไปก่อสร้างศาสนสถานทั่วล้านนาทั้งในลำปาง พะเยา เชียงใหม่ ตาก สุโขทัย และข้ามเขตแดนพม่าแถบลุ่มน้ำสาละวินอีกด้วย

เปิดประวัติ "ครูบาอภิชัยขาวปี" ศิษย์เอก "ครูบาศรีวิชัย" !!! ครูบาต้องมลทิน ที่ "จอมพลสฤษดิ์" นับถือเป็นที่สุด !!!

ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ ๓ ครั้ง ครองผ้าขาวอย่างชีปะขาว ๓ ครั้ง ดังนี้คือ อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ครั้งแรกโดยครูบาศรีวิชัยเมื่ออายุได้ ๒๒ ปี ที่วัดบ้านปาง ได้สมญานามว่า อภิชัยภิกขุ ช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างกุฎีที่วัดบ้านปาง จนอายุได้ ๓๕ ปี ถูกจับสึกจากผ้าเหลืองไปห่มผ้าขาว ด้วยความผิดตามพ.ร.บ.ลักษณะเกณฑ์ทหาร รศ.๑๒๔ (๒๔๔๘) บังคับใช้ และต้องติดคุก ๖ เดือน ที่คุกจังหวัดลำพูน ในขณะที่ท่านถูกจองจำอยู่ในคุก ซึ่งเป็นที่ตั้งเก่าของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย (ก่อนหน้านั้นเดิมเคยเป็นวัดแสนข้าวห่อ) ครูบาขาวปีได้เห็นโรงพยาบาลจังหวัดลำพูนในสมัยนั้นชำรุดทรุดโทรม ท่านจึงได้ริเริ่มสร้างโรงพยาบาลลำพูน โดยประชาชนที่เลื่อมใสในตัวท่านทราบข่าวว่าท่านมาเป็นประธานในการก่อสร้างโรงพยาบาล ก็พากันมาช่วยร่วมบุญอย่างคับคั่ง จนสร้างโรงพยาบาลแล้วเสร็จ เมื่อเดือน ๙ เหนือ แรม ๒ ค่ำ เป็นวันที่ท่านพ้นโทษตามคำพิพากษาครบ ๖ เดือนพอดี

เปิดประวัติ "ครูบาอภิชัยขาวปี" ศิษย์เอก "ครูบาศรีวิชัย" !!! ครูบาต้องมลทิน ที่ "จอมพลสฤษดิ์" นับถือเป็นที่สุด !!!

เมื่อพ้นโทษออกจากคุกแล้ว ท่านได้เดินทางไปกราบครูบาศรีวิชัยที่วัดพระสิงห์ ที่นี่ท่านได้รับการอุปสมบทเป็นครั้งที่ ๒ โดยเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์เป็นอุปัชฌาย์ ท่านอยู่จำพรรษากับครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ ๑ พรรษา ก็ลาอาจารย์จาริกไปสร้างวัดและโรงเรียนอีกหลายแห่ง ในปี พ.ศ.๒๔๖๕ ขุนระมาดไมตรี กำนันคนแรกแห่งอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ปรารถนาจะได้พุทธรูปหินอ่อน หน้าตักว้าง ๑.๓๐ เมตร สูง ๑.๖ เมตร มูลค่า ๘๐๐ บาท จึงได้นิมนต์ครูบาอภิชัยไปเป็นประธานสร้างฝ่ายสงฆ์ แต่ปรากฎว่าเงินไม่พอถึง ๗๐๐ บาท ท่านจึงบอกบุญไปตามศรัทธา แต่มีการร้องเรียนว่าท่านเรี่ยไรเงินอันเป็นการผิดระเบียบสงฆ์ เจ้าคณะจังหวัดจึงจับท่านสึกเป็นครั้งที่ ๒ ท่านกลับมานุ่งห่มสีขาวอีกครั้ง

เปิดประวัติ "ครูบาอภิชัยขาวปี" ศิษย์เอก "ครูบาศรีวิชัย" !!! ครูบาต้องมลทิน ที่ "จอมพลสฤษดิ์" นับถือเป็นที่สุด !!!

ต่อมาไม่นาน ขณะนั้นครูบาศรีวิชัยกำลังสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ครูบาขาวปีจึงพากะเหรี่ยง ๕๐๐ คน ขึ้นไปช่วยทำถนนขึ้นดอยสุเทพร่วมกับอาจารย์จนแล้วเสร็จ จึงกลับลงมาพักกับอาจารย์ที่วัดพระสิงห์ ที่วัดพระสิงห์นี้ ท่านครูบาศรีวิชัยก็อุปสมบทให้ท่านเป็นภิกษุอีกเป็นครั้งที่ ๓ การอุปสมบทครั้งนี้ ถูกดึงไปเป็นเหตุผลหนึ่งให้ครูบาเจ้าศรีวิชัยต้องอธิกรณ์อีกครั้ง ด้วยข้อหาว่าทำการอุปสมบทให้แก่ "ผ้าขาวปี๋ หรือหนานปี๋ ซึ่งคณะสงฆ์ประกาศห้ามมิให้อุปสมบท เมื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเดินทางไปต่อสู้คดีที่กรุงเทพฯ ครูบาอภิชัยขาวปีอยู่รักษาวัดพระสิงห์แต่เพียงผู้เดียว มหาสุดใจ วัดเกตุการาม กับพระครูวัดพันอ้นรูปหนึ่ง ถือโอกาสมาข่มขู่ให้ครูบาอภิชัยขาวปีสึกเสีย เพราะมิฉะนั้นทางการจะเอาเรื่องครูบาเจ้าศรีวิชัยให้ติดคุกจนถึงที่สุด ด้วยจิตใจที่เป็นห่วงในตัวอาจารย์ ท่านจึงเสียสละผ้ากาสาวพัสตร์ ยอมสึกเป็นชีปะขาวและนับเป็นครั้งสุดท้ายแห่งการครองผ้าไตรจีวรของท่านตราบจนละสังขาร

เปิดประวัติ "ครูบาอภิชัยขาวปี" ศิษย์เอก "ครูบาศรีวิชัย" !!! ครูบาต้องมลทิน ที่ "จอมพลสฤษดิ์" นับถือเป็นที่สุด !!!

แม้แต่ ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้มีอำนาจล้นเหลือในระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๐๒-๒๕๐๖ ได้รับทราบผลงานของท่านครูบาขาวปี ยังใคร่ปรารถนามานมัสการกราบคารวะท่าน ผู้มีใจมุ่งพัฒนา ยอมอุทิศชีวิตเพื่อพระบวรพุทธศาสนาและสังคมโดยส่วนรวม ไม่ปรารถนาผลตอบแทนแต่ประการใด
แม้ว่าท่านครูบามิได้มีสมณศักดิ์หรือสถานภาพที่สูงส่งในสังคมก็ตาม แต่ท่านจอมพลสฤษดิ์ ก็ได้ปวารณาตัวจะช่วยอุปถัมภ์ในการก่อสร้างโรงเรียนในชนบทที่ห่างไกลให้ครบ ๑๐๐ หลัง ก่อนที่ ฯพณฯ จะถึงแก่อสัญกรรม ไม่นาน

ครูบาอภิชัยขาวปี มรณภาพ เมื่อวันขึ้น ๑๔ ค่ำเดือน ๖ เหนือ ตรงกับวันพฤหัสที่ ๓ มีนาคม ๒๕๒๐ เวลา ๑๖.๐๐ น สิริรวมอายุได้ ๘๙ ปี ทุกวันนี้ได้เก็บพระสรีระร่างอันไม่เปื่อยไม่เน่าของท่านไว้ ณ โลงศพแก้ว ในหอปราสาทรักษาศพ จัดสร้างให้โดยครูบาวงค์ (ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา) เพื่อเก็บพระสรีระร่างของครูบาอภิชัยขาวปี ที่วัดพระพุทธบาทผาหนาม ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน และมีประเพณีเปลี่ยนผ้าห่อสรีระเป็นประจำทุกปีในวันที่ ๓ มีนาคม

เปิดประวัติ "ครูบาอภิชัยขาวปี" ศิษย์เอก "ครูบาศรีวิชัย" !!! ครูบาต้องมลทิน ที่ "จอมพลสฤษดิ์" นับถือเป็นที่สุด !!!

อ้างอิงข้อมูลจาก - www.dharma-gateway.com , th.wikipedia.org