ด้วยอภิญญาอันแก่กล้า!! "หลวงพ่อจง" ช่วย "สมภารวัด" จากฤทธิ์ของยักษ์เฝ้าพระวิหาร แทบเอาชีวิตไม่รอด เพราะความโลภอยากได้สมบัติใต้วิหาร !!

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

ด้วยอภิญญาอันแก่กล้า!! "หลวงพ่อจง" ช่วย "สมภารวัด" จากฤทธิ์ของยักษ์เฝ้าพระวิหาร แทบเอาชีวิตไม่รอด เพราะความโลภอยากได้สมบัติใต้วิหาร !!

              หลวงพ่อจง พุทธสโร ท่านเป็นพระเกจิชื่อดังของเมืองกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อครั้งท่านมีชีวิตท่านได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและพุทธบริษัททั้งหลาย โดยมิได้เลือกชนชั้นวรรณะ ใครขออะไรท่านปลดทุกข์คลายโศกให้ด้วยจิตที่มีเมตตาแม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่เหล่าลูกศิษย์และผู้เคารพศรัทธายังคงรำลึกถึงท่านเสมอมา และท่านยังเป็นพระสหธรรมมิกกับหลวงพ่อปานวัดบางนมโค และหลวงปู่ยิ้มวัดเจ้าเจ็ดในด้วย ท่านเป็นผู้มีวิชา มีอภิญญาแก่กล้า เข้มขลังนัก 
 

ด้วยอภิญญาอันแก่กล้า!! "หลวงพ่อจง" ช่วย "สมภารวัด" จากฤทธิ์ของยักษ์เฝ้าพระวิหาร แทบเอาชีวิตไม่รอด เพราะความโลภอยากได้สมบัติใต้วิหาร !!

                เมื่อราวปี พ.ศ.๒๔๗๐ ท่านสมภารวัดหนึ่งในละแวกใกล้เคียงกับวัดหน้าต่างนอก ไปรื้อวิหารของวัด ซึ่งวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่สร้างเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีอยู่ มีลายแทงใบหนึ่งระบุว่า มีสมบัติพระทองคำซ่อนอยู่ใต้วิหารนี้ สมภารเกิดความโลภ จึงสั่งให้พระลูกวัดช่วยกันรื้อพระวิหาร เพื่อหวังขุดเอาพระทองคำไปขาย พอวิหารถูกรื้อเสร็จ ท่านสมภารวัดก็ถึงกับล้มป่วยมีอาการเพียงหนักมาก บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของสมภารรูปนั้นก็พากันมากราบไหว้ หลวงพ่อจงถึงวัดหน้าต่างนอก พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า สมภารวัดมีอาการประสาทหลอน ร้องโวยวายคล้ายถูกผีหลอกตลอดเวลา หลวงพ่อจงจึงรีบเดินทางไปยังวัดนั้น ขณะยังเดินไปไม่ถึงวัดดี หลวงพ่อจงก็บอกแก่พระลูกวัดที่มาตามท่านว่า

"สมภารไม่ได้โดนผีหลอกดอก ไม่ได้เจ็บป่วยเป็นอะไรด้วย แต่ยักษ์ที่เฝ้าพระวิหารทำเข้าแล้ว ไปรื้อวิหารโดยไม่ประสงค์จะสร้างให้ดีกว่าเก่า เป็นเพราะอยากได้สมบัติใต้วิหาร มันถึงเป็นเช่นนี้"

 

ด้วยอภิญญาอันแก่กล้า!! "หลวงพ่อจง" ช่วย "สมภารวัด" จากฤทธิ์ของยักษ์เฝ้าพระวิหาร แทบเอาชีวิตไม่รอด เพราะความโลภอยากได้สมบัติใต้วิหาร !!

             พอไปถึงวัด ท่านเห็นสมภารเอะอะโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์ มีอาการดิ้นพรวดพราด หลวงพ่อจงเดินเข้าไปใกล้แล้วบริกรรมอยู่ครู่หนึ่ง สมภารวัดรูปนั้นถึงกับล้มตึงแน่นิ่งไป บรรดาพระลูกวัดเห็นดังนั้น ก็รีบเข้าไปประคอง ปากก็ละล่ำละลักขอให้หลวงพ่อช่วย ท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ฟื้น พอจะเอ่ยปากพูดต่อ หลวงพ่อจงท่านเอามือป้องคล้ายจะบอกว่าไม่ต้อง ท่านหยุดนิดหนึ่งจนสมภารฟื้น แล้วพูดขึ้นว่า

"พรุ่งนี้เช้าตั้งเครื่องสังเวย ขอขมาลาโทษเขาเสียนะ เขาเอาจริง เวลานี้เขามาอยู่ที่นี่ด้วย เขาถามฉันว่า ท่านรื้อวิหารต้องการขุดสมบัติใช่ไหม เขาให้ท่านรับปาก ท่านต้องเลิกหาสมบัติ และวิหารนั้นจะต้องสร้างใหม่ให้สวยงามและใหญ่กว่าเก่า ท่านทำได้ไหม ถ้าท่านทำไม่ได้ เขาจะเอาชีวิตท่าน"


           สมภารวัดหน้าซีดเหมือนไก่ต้ม  รีบพยักหน้าหงึก ๆ เหงื่อกาฬแตกพลั่กเป็นเม็ดโต ๆ รีบรับปากแต่โดยดี  พอวันรุ่งขึ้นก็รีบจัดตั้งเครื่องสังเวยขอขมาลาโทษ  แล้วจัดการสร้างวิหารให้งามใหญ่กว่าเดิม

ด้วยอภิญญาอันแก่กล้า!! "หลวงพ่อจง" ช่วย "สมภารวัด" จากฤทธิ์ของยักษ์เฝ้าพระวิหาร แทบเอาชีวิตไม่รอด เพราะความโลภอยากได้สมบัติใต้วิหาร !!

       นับว่าหลวงพ่อจง ท่านเป็นครูบาอาจารย์รุ่นเก่าที่ได้ล่วงลับดับสังขารไปแล้ว ตามวิสัยแห่งชีวิตมวลสัตว์โลกทั้งหลายที่มีเกิดแล้วต้องมีแก่ เจ็บ และตายไปในท้ายที่สุด แต่ทว่าในช่วงชีวิตของพระคุณท่าน  ได้สร้างสมความดีทั้งโดยฝ่ายโลกและฝ่ายธรรมไว้เป็นอเนกอนันต์ เป็นที่เล่าขานบอกกล่าวกันมาอย่างไม่รู้จักจบสิ้น