สมพระเกียรติพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย!! สิ่งก่อสร้างในงานพระราชพิธีฯ เชือ.."ไม่สูญเปล่า" แน่นอน เผย..จะเป็นสมบัติของชาติ และเป็นประโยชน์ต่อไป

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

สมพระเกียรติพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย!! สิ่งก่อสร้างในงานพระราชพิธีฯ เชือ.."ไม่สูญเปล่า" แน่นอน เผย..จะเป็นสมบัติของชาติ และเป็นประโยชน์ต่อไป

           จากงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย  นับว่าเป็นห้วงเวลาแห่งความอาลัย พสกนิกรร่ำไห้ทั่วทั้งแผ่นดิน นอกจากนี้ พระเมรุมาศในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั้น งดงาม ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึง ขนบธรรมเนียม ประวัติศาสตร์ ของคนไทยอีกด้วย หลังจากรื้อถอนพระเมรุมาศเสร็จแล้วก็นำไปถวายวัด และส่วนหนึ่งก็ได้กลายเป็นสมบัติของชาติ และจดหมายเหตุของชาติ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไป

สมพระเกียรติพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย!! สิ่งก่อสร้างในงานพระราชพิธีฯ เชือ.."ไม่สูญเปล่า" แน่นอน เผย..จะเป็นสมบัติของชาติ และเป็นประโยชน์ต่อไป

       ทั้งนี้จาก Facebook  Nick de Marzo ก็ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีของพระเมรุมาศของในหลวงรัชกาลที่ ๙ รวมถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ที่ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ โดยมีข้อความว่า

       วันนี้ผมได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันทูตต่างประเทศที่ประจำที่อาร์เจนตินา ทูตทุกคนได้ดูข่าวงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพผ่านทางช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น CNN BBC CNBC NHK CCTV Aljazeerha FOX ฯลฯ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นงานพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติที่สุดแห่งปีเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมา เพื่อนทูตต่างชาติของผมทุกคนใช้คำว่า Splendid Amazing Sacred Wonderful ฯลฯ

       มีคนถามเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดงานตามที่สำนักข่าวบางแห่งนำเสนอว่าเป็นเงิน ๙๐ ล้าน US$ แต่โดยที่ผมแทบไม่ต้องอธิบายอะไรเลยว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม เพื่อนๆต่างชาติของผมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม !!!! พวกเขาให้เหตุผลว่าแค่สำนักข่าวต่างประเทศออกข่าวงานพระราชพิธีฯไปทั่วโลก แค่นี้ก็คุ้มแล้ว ยังไม่นับว่าหลังจากนี้จะมีคนมาเที่ยวเพราะได้แรงบันดาลใจจากที่เห็นข่าวงานพระราชพิธีฯ อีกมหาศาล รายได้จะเข้าประเทศไทยอีกมาก

       ได้ทีผมเลยเกทับไปว่าตอนนี้ประเทศไทยได้รับการโหวตให้เป็นประเทศที่สามารถหารายได้จากการท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับที่ ๓ ของโลก ประเทศไทยได้รับการโหวตให้เป็นประเทศที่คนต้องการมาเที่ยวมากเป็นที่ ๒ ของโลก กรุงเทพฯ ได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่คนมาเที่ยวมากที่สุดในโลก ๒ ปีซ้อน เราสามารถเอาชนะ ลอนดอน ปารีส ได้

        จากนั้นทูตอินโดนีเซียก็กล่าวเสริมเองว่า เฉพาะตัวเลขนักท่องเที่ยวจากอาร์เจนตินาไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ประเทศไทยก็มีตัวเลขนักท่องเที่ยวกินขาดสูงกว่าประเทศอื่นในอาเซียน ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวจากอาร์เจนตินาไปเที่ยวไทย ๓๖,๐๐๐ คน และคาดว่าปีนี้จะเพิ่มเป็น ๔๐,๐๐๐ คน ในขณะที่ไปอินโดนีเซียแค่ ๘,๐๐๐ คน และไปมาเลเซียแค่ ๕,๐๐๐ คน

        ผมได้อธิบายพวกเขาเพิ่มเติมว่า สิ่งก่อสร้างในงานพระราชพิธีฯ ที่เห็นสวยงามนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน บางส่วนจะถูกรื้อถอนและนำไปใช้ประโยชน์ได้อีก บางส่วนจะกลายเป็นสมบัติและจดหมายเหตุของชาติ บางส่วนเอาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เราคนไทยได้อนุรักษ์และสืบสานต่องานสถาปัตยกรรมและศิลปไทยให้คงอยู่ไว้ได้ตลอดไป นี่คือสิ่งที่ผมได้อธิบายกับเพื่อนต่างชาติครับ ถ้าใครมีเพื่อนต่างชาติถามในทำนองว่าสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ยินดีให้ยืมคำพูดของผมไปอธิบายให้พวกเขาฟังได้ครับ

 

สมพระเกียรติพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย!! สิ่งก่อสร้างในงานพระราชพิธีฯ เชือ.."ไม่สูญเปล่า" แน่นอน เผย..จะเป็นสมบัติของชาติ และเป็นประโยชน์ต่อไป          

       สำหรับพระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประกอบด้วยอาคารทรงบุษบก จำนวน ๙ องค์ ตั้งอยู่บนฐานชาลารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ๓ ชั้น มีบันไดทางขึ้น ทั้ง ๔ ทิศ ทิศตะวันตกหันหน้าเข้าพระที่นั่งทรงธรรม ทิศตะวันออกติดตั้งลิฟต์ และทิศเหนือติดตั้งสะพานเกรินสำหรับเชิญพระบรมโกศจากราชรถปืนใหญ่ขึ้นบนพระเมรุมาศ โดยโครงสร้างพระเมรุมาศ ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้

ลานอุตราวรรต หรือ พื้นรอบฐานพระเมรุมาศ มีสระอโนดาดทั้งสี่ทิศและเขามอจำลอง ภายในสระประดับด้วยประติมากรรมสัตว์หิมพานต์ ได้แก่ ช้าง โค สิงห์  ม้า และสัตว์หิมพานต์ตระกูลต่างๆ
         

ฐานชาลาชั้นที่ ๑ เป็นชั้นล่างสุด มีฐานสิงห์เป็นรั้วราชวัตร ฉัตร แสดงอาณาเขตพระเมรุมาศ และมีเทวดานั่งคุกเข่าถือบังแทรก ส่วนที่มุมทั้งสี่ของฐานมีประติมากรรมท้าวจตุโลกบาลประทับยืนหันหน้าเข้าสู่บุษบกองค์ประธาน

ฐานชาลาชั้นที่ ๒ มีหอเปลื้องทรงบุษบกรูปแบบเดียวกันตั้งอยู่ที่มุมทั้งสี่ ใช้สำหรับจัดเก็บพระโกศทองใหญ่และพระโกศไม้จันทน์ รวมถึงอุปกรณ์สำหรับงานพระราชพิธี 

ฐานชาลาชั้นที่ ๓ ฐานบุษบกประธานประดับประติมากรรมเทพชุมนุม จำนวน ๑๓๒ องค์โดยรอบ รองรับด้วยฐานสิงห์ซึ่งประดับประติมากรรมครุฑยุดนาคโดยรอบอีกชั้นหนึ่ง มุมทั้งสี่ของฐานชั้นที่ ๓ นี้ เป็นที่ตั้งของซ่างทรงบุษบกยอดมณฑปชั้นเชิงกลอน ๕ ชั้น ใช้สำหรับพระพิธีธรรม ๔ สำรับ นั่งสวดอภิธรรมสลับกันไปตลอดนับตั้งแต่พระบรมศพประดิษฐานบนพระจิตกาธานจนกระทั่งถวายพระเพลิงพระบรมศพเสร็จ

จุดกึ่งกลางชั้นบนสุด มีบุษบกองค์ประธานตั้งอยู่ เป็นอาคารทรงบุษบกยอดมณฑปชั้นเชิงกลอน ๗ ชั้น ภายในมีพระจิตกาธาน เป็นที่ประดิษฐานพระบรมโกศ ผนังโดยรอบเปิดโล่ง ติดตั้งพระวิสูตร (ม่าน) และฉากบังเพลิงเขียนภาพพระนารายณ์อวตารตอนบน และภาพโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริตอนล่าง ที่ยอดบนสุด ประดิษฐานนพปฎลมหาเศวตฉัตร (ฉัตรขาว ๙ ชั้น)

 

สมพระเกียรติพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย!! สิ่งก่อสร้างในงานพระราชพิธีฯ เชือ.."ไม่สูญเปล่า" แน่นอน เผย..จะเป็นสมบัติของชาติ และเป็นประโยชน์ต่อไป

      นอกจากนี้ภายหลังจากการถวายพระเพลิงแล้ว ชิ้นส่วนประกอบต่าง ๆ ของพระเมรุที่ถูกรื้อถอนบางส่วนจะนำไปถวายวัด เพื่อเป็นการกุศลแด่ผู้วายชนม์ โดยในสมัยก่อนส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ได้มักจะเป็นตัวไม้ หลักๆ เท่านั้น ส่วนสัตว์หิมพานต์สมัยก่อน วัดวาอารามบางวัดจะขอเก็บไว้บ้าง แต่ที่เก็บไว้ก็เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา

 เมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สิ้นพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นพิเศษ โปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ทำเรือนรูปต่างๆ โดยโปรดเกล้าฯ ให้ใช้สิ่งก่อสร้างเป็นไม้จริง ด้วยมีพระราชประสงค์ว่าครั้นเสร็จการให้รื้อพระเมรุไปสร้างเรือนคนไข้ได้จำนวน ๔ หลัง ณ บริเวณวังหลัง ซึ่งต่อมาคือโรงพยาบาลศิริราชในปัจจุบัน

 

สมพระเกียรติพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย!! สิ่งก่อสร้างในงานพระราชพิธีฯ เชือ.."ไม่สูญเปล่า" แน่นอน เผย..จะเป็นสมบัติของชาติ และเป็นประโยชน์ต่อไป

พระเมรุมาศสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) หลังเสร็จสิ้นงาน เอาไปสร้างศาลาหลังหนึ่งที่วัดปทุมวนาราม ข้างวังสระปทุม โดยเมื่อเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงแล้ว ของทั้งหมดจะอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักพระราชวัง โดยส่วนที่นำไปแปรธาตุไปใช้อย่างอื่นเช่น ศาลาต่างๆ ทับเกษตร ราชวัติ ส่วนที่เก็บไว้เช่น ส่วนฉัตร กลีบบัว ฉัตรปรุ โครงฉัตรผ้าฉลุทอง

 

สมพระเกียรติพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย!! สิ่งก่อสร้างในงานพระราชพิธีฯ เชือ.."ไม่สูญเปล่า" แน่นอน เผย..จะเป็นสมบัติของชาติ และเป็นประโยชน์ต่อไป

         หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อาคารพระเมรุและอาคารประกอบ ถูกรื้อถอนเป็น ๓ ส่วน คือส่วนแรก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานให้หน่วยงานต่างๆ ส่วนที่ ๒ เปิดประมูล และส่วนที่ ๓ เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษา เช่นชิ้นส่วน พระโกศจันทน์ รูปปั้นเทวดา สัตว์หิมพานต์

สมพระเกียรติพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย!! สิ่งก่อสร้างในงานพระราชพิธีฯ เชือ.."ไม่สูญเปล่า" แน่นอน เผย..จะเป็นสมบัติของชาติ และเป็นประโยชน์ต่อไป

            ทั้งนี้หลังจากงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสร็จสิ้นแล้ว ทางคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เตรียมเปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศและจัดนิทรรศการตลอดเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๐ หลังจากพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่วันที่ ๒-๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ - ๒๒.๐๐ น. เบื้องต้นจะเปิดให้เข้าชมอย่างอิสระ รอบละ ๕,๕๐๐ คน กำหนดเวลาเข้าชมพระเมรุมาศ รอบละ ๑ ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น ให้ประชาชนถ่ายภาพที่ระลึกบริเวณ ถนนเส้นกลางทางเข้าพระเมรุมาศ ซึ่งจะเห็นภาพแปลงนาเลขเก้าไทย และภาพภูมิทัศน์ส่วนต่างๆ ของพระเมรุมาศในมุมกว้าง ๑๕ นาที จากนั้นจะให้เข้าชม พื้นที่ด้านใน ๔๕ นาทีโดยให้เข้าชมอย่างอิสระ

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : Facebook Nick de Marzo

                           kingrama9.net ข้อมูลจาก : กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร

                           https://th.wikipedia.org/wiki/พระเมรุมาศ

ขอบคุณเจ้าของภาพและกรมศิลปากร