แด่พระราชาอันเป็นที่รัก...ครั้งสุดท้าย! เหตุผลที่19 ล้านคน รวมพลังจนเป็นปรากฏการณ์อัศจรรย์ในสายตาชาวโลก #ประชาชนคือความสมพระเกียรติ

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

ประชาชน คือ ความสมพระเกียรติ

บทความพิเศษโดย ดร. เวทิน ชาติกุล

ด้านหลังแผ่นพับในงานพระราชพิธีฯได้ปรากฏพระราชดำรัสนี้

"ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือการได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า"

ทุกคนคงทราบว่าดนตรีแจ๊สเป็นความสุขส่วนพระองค์

ครั้งหนึ่งทูลกระหม่อมเคยบอกว่าในหลวงอยากเสด็จไปเมือง New Orleans ซึ่งเป็นเมืองของดนตรีแจ๊สที่พระองค์ทรงโปรด แต่ก็ไม่ได้เสด็จไป

ถ้าลองย้อนไปดู ในหลวงเสด็จไปต่างประเทศครั้งสุดท้ายคือปี 2537 และเสด็จไปแค่ประเทศลาว หลังจากนั้นจนถึงเสด็จสวรรคตเป็น 23 ปีที่พระองค์ท่านไม่ได้เสด็จไปต่างประเทศเลย ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือส่วนพระองค์

คงจะไม่เกินเลยไปที่จะกล่าวว่าพระองค์ท่านทรงมี "ความสุข" กับการได้ทรงงานอยู่ท่ามกลางประชาชนของพระองค์ ได้อยู่กับประชาชนของพระองค์ ดังที่พระองค์ทรงตรัสว่า "นี่" เป็นที่ของพระองค์

จึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายที่เมื่อพระองค์จากไป คนจำนวน 19 ล้าน(เท่าที่นับได้อย่างเป็นทางการ)จะออกมาร่วมถวายอาลัยกับพระราชาที่รักพวกเขาและพวกเขารักเป็นครั้งสุดท้าย

จึงไม่แปลกที่ได้เห็นภาพ ครูคนหนึ่งอุ้มท้องยืนเข้าแถวกลางฝนที่ตกหนักเพื่อถวายดอกไม้จันทน์ให้กับกษัตริย์ของเธอ

ถามว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ เพื่อต้องทำแบบนี้?

แด่พระราชาอันเป็นที่รัก...ครั้งสุดท้าย! เหตุผลที่19 ล้านคน รวมพลังจนเป็นปรากฏการณ์อัศจรรย์ในสายตาชาวโลก #ประชาชนคือความสมพระเกียรติ

จึงไม่แปลกที่เราได้เห็นภาพลุงเฉื่อยที่ออกมาถวายอาลัยแม้จะไม่มีเข็มขัดก็เอาเชือกมารัดชายเสื้อแทน เพียงเพื่อได้เข้าไปถวายอาลัยกับกษัตริย์ของลุง

ถามว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ เพื่อต้องทำแบบนี้?

แด่พระราชาอันเป็นที่รัก...ครั้งสุดท้าย! เหตุผลที่19 ล้านคน รวมพลังจนเป็นปรากฏการณ์อัศจรรย์ในสายตาชาวโลก #ประชาชนคือความสมพระเกียรติ

จึงไม่แปลกที่มีตาและยาย ตาเป็นไขกระดูกทับเส้น ยายเป็นโรคหัวใจ แต่มายืนเข้าแถวรอถวายดอกไม้จันทน์นับเก้าชั่วโมงอย่างไม่ย่อท้อ

ถามว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ เพื่อต้องทำแบบนี้?

จึงไม่แปลกที่มีหนึ่งครอบครัว พ่อ แม่ ลูกสาม ขับซาเล้งมาเป็นร้อยกิโล เพื่อมาทำปาท่องโก๋ แจกคนที่มาเข้าแถวต่อคิวถวายอาลัย

แด่พระราชาอันเป็นที่รัก...ครั้งสุดท้าย! เหตุผลที่19 ล้านคน รวมพลังจนเป็นปรากฏการณ์อัศจรรย์ในสายตาชาวโลก #ประชาชนคือความสมพระเกียรติ

จึงไม่แปลกที่จิตอาสาร่วม 4 ล้านคนร่วมแรงร่วมใจคนละไม้คนละมือเพื่ออำนวยความสะดวก อะไรก็ตามเท่าที่ทำได้ เพื่อทุกคนที่มาเป็น "แขกของพระราชา" ในวันนั้น

ถามว่าพวกเขาต้องการเงินสักบาทสักสตางค์หรือในการทำแบบนี้?

90 ล้านดอลฯหรือ? 1 พันล้านบาทหรือ? ไม่เลย! ความอัศจรรย์แห่งหัวใจที่บางคนถึงกับอุทานว่า "ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในโลกใบนี้" มี "ราคา" เท่าไหร่?

ผู้คนของพระราชาร่วมกันทำ "สิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้" ให้กับพระราชาที่พวกเขารักเป็นครั้งสุดท้ายโดย "ไม่ใช้เงินสักบาท"

เพราะพวกเขาไม่ได้ทำมันด้วยเงินแต่ทำมันด้วยหัวใจ ทำมันอย่างมีความสุข

เหมือนที่พระองค์มีความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางพวกเขา

ความสง่างาม ยิ่งใหญ่นั่นคือความสมพระเกียรติมิมีใครปฏิเสธ

แต่ ลุงเฉื่อย ครอบครัวซาเล้งแจกปาท๋องโก๋ คุณตาคุณยาย คุณครูอุ้มท้องแก่ ฯลฯ เหล่านี้ก็คือความ "สมพระเกียรติ" ของพระองค์ท่าน ดังที่พระองค์ไม่เคยถือพระองค์เวลานั่งลงกับถนนฝุ่นเพื่อคุยกับชาวบ้าน ดังที่พระองค์บุกย่ำดิน ฝ่าโคลน ฝ่าฝน เพื่อไปพบเจอกับประชาชนของพระองค์

"ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือการได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า"

การให้เกียรติประชาชนของพระองค์ท่านก็คือความสมพระเกียรติต่อพระองค์ท่านด้วยเช่นกัน


 

ปล.
แม้กฏเกณฑ์จะต้องกำหนดมีเพื่อความเรียบร้อย และกาละเทศะ แต่หาใช่ "พิธีรีตอง" ระเบียบกฏเกณฑ์อันเคร่งครัดตายตัว กำหนดตัวเองในฐานะข้าราชการยกตนขึ้นเหนือประชาชน โดย "ไม่ให้เกียรติ" ต่อคนของพระองค์

ข้าราชการที่ไม่ได้ให้เกียรติประชาชนของพระองค์ ข้าราชการที่ไม่ได้ปฏิบัติของประชาชนเยี่ยง "แขกของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ" ข้าราชการเหล่านี้ก็ไม่ต่างอะไรกับคนคิดล้มล้างสถาบัน สื่อต่างชาติ ฯลฯ ที่ "หมิ่นพระเกียรติ" พระองค์ท่านอย่างตั้งใจและเจตนา

 

 

ข้อมุลจาก เฟซบุ๊ก Wathin Chatkoon