รำลึก ๗ ปีวันละสังขารหลวงปู่แฟ้บ! ธรรมะของผู้ประเสริฐไม่แบ่งแยกภพภูมิ... ด้วยจริยวัตรอันงดงามที่แม้แต่ เทวดา พญานาค ยังต้องมาขอฟังธรรม

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://panyayan.tnews.co.th

รำลึก ๗ ปีวันละสังขารหลวงปู่แฟ้บ! ธรรมะของผู้ประเสริฐไม่แบ่งแยกภพภูมิ... ด้วยจริยวัตรอันงดงามที่แม้แต่ เทวดา พญานาค ยังต้องมาขอฟังธรรม

รำลึก ๗ ปีวันละสังขารหลวงปู่แฟ้บ! ธรรมะของผู้ประเสริฐไม่แบ่งแยกภพภูมิ... ด้วยจริยวัตรอันงดงามที่แม้แต่ เทวดา พญานาค ยังต้องมาขอฟังธรรม

วันนี้วันที่ ๑ พฤศจิกายน เป็นวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่แฟ๊บ สุภัทโท "พระอริยสงฆ์ผู้มีจริยวัตรงดงาม" ครบ ๗ ปี หลวงปู่แฟ็ป ท่านเป็นพระกัมมัฏฐาน ที่วัตรปฏิบัติเรียบง่ายปฏิปทาอันงดงาม ด้วยครองตนอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์อย่างสมถะ ไม่สะสมทรัพย์สินใดๆ มักน้อย ถือสันโดษ มีเมตตาธรรมสูง จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น และเป็นร่มโพธิ์ทองของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย " หลวงปู่แฟ้บ สุภัทโท” มีนามเดิมว่า ญาติ กุลวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๖๕ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๒ ปีจอ ณ บ้านคำชะอี ตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดนครพนม (จังหวัดมุกดาหาร ในปัจจุบัน) โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายพรหมมา และทุมมา กุลวงศ์ ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา ตามวิถีชีวิตชาวชนบทอีสาน มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๗ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๕
เพราะเหตุบางประการในการแจ้งชื่อในทะเบียนทหารกองเกิน เมื่อช่วงอายุ ๑๗-๑๘ ปี ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น “แฟบ” และวันเวลาเกิดก็ผิดพลาดไปด้วย จึงต้องใช้ชื่อวันและเวลาเกิดใหม่จากนั้นเป็นต้นมา ต่อมาลูกศิษย์ลูกหาได้เรียกชื่อเพี้ยนเป็นหลวงปู่ “แฟ้บ” หรือ “แฟ้บ” หรือ “แฟ็บ” ไป

รำลึก ๗ ปีวันละสังขารหลวงปู่แฟ้บ! ธรรมะของผู้ประเสริฐไม่แบ่งแยกภพภูมิ... ด้วยจริยวัตรอันงดงามที่แม้แต่ เทวดา พญานาค ยังต้องมาขอฟังธรรม
ใน ขณะที่วัยของหลวงปู่เริ่มมากขึ้น ร่างกายก็อ่อนแอลงไปด้วย แต่ยังต้องทำนาเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวอยู่ ในวันหนึ่งขณะที่หลวงปู่กำลังจูงควายไปทำนา ๒ ตัว ควายตัวหนึ่งหยุดยืนเพื่อถ่ายมูล ส่วนควายอีกตัวหนึ่งกลับดึงตัวหลวงปู่เซจนล้มลง เพื่อนบ้านมองเห็นเข้าจึงพูดกับหลวงปู่ว่า
“เฒ่าแล้วจะทำไปทำไมนักหนา ไปทำบุญเข้าวัดเข้าวาได้แล้ว”
เมื่อหลวงปู่ได้ยินเช่นนั้น ก็เกิดความสลดสังเวชตัวเองเป็นอย่างมากถึงกับน้ำตาไหลออกมา หลังจากนั้นมาทุกวันพระหลวงปู่จะไปทำบุญรักษาศีลที่วัดต่อมานางคำมา สุวรรณไตร ภรรยาของหลวงปู่ ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรควัณโรค ในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ เมื่ออายุได้ ๕๒ ปี ส่วนหลวงปู่อายุได้ ๕๙ ปีหลวงปู่แฟ็ป ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ญัตติฝ่ายธรรมยุติกนิกาย เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๕ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีจอ ณ พัทธสีมาวัดอรัญญิกาวาส จังหวัดอุดรธานี โดยมี ท่านพระครูอุดรคณานุศาสน์ เป็นพระอุปัชฌาย์, ท่านพระมหามี สุทัสสี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ ท่านพระอธิการสมจิต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “สุภัทโท” ซึ่งแปลว่า “ผู้ประพฤติงาม”
หลวงปู่มีโอกาสไปฟังธรรมเทศนาจาก หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เป็นประจำ นอกจากหลวงปู่เทสก์แล้ว ยังมีครูบาอาจารย์รูปอื่น ๆ อีก ที่หลวงปู่ได้เข้าฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ เช่น หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นต้น
คืนหนึ่งได้มีเสือตัวใหญ่มานอนขวางทางลงทางหินตู้รถไฟ จะลงทางอื่นก็ไม่ได้ เพราะมีทางขึ้นลงอยู่เพียงทางเดียว หลวงปู่ก็ต้องนั่งภาวนาอยู่บนหินนั้นตลอดทั้งคืน พอใกล้รุ่งเช้า เสือจึงเดินจากไป แต่ก่อนไปหลวงปู่พูดขึ้นมาว่า “จะกินก็ไม่กิน มานอนขวางทางอยู่ได้” เสือกลับตอบมาว่า “ไม่กินหรอก ยังไม่ตาย ถ้าตายแล้วถึงจะกิน” พร้อมกลับหันหลังเดินจากไป โดยมีทางให้เสือเดินไปจนสุดสายตา เมื่อเสือเดินลับตาไปแล้ว ทางที่เห็นไกลๆ นั้นกลับกลายเป็นป่าเป็นภูเขาไป จึงทำให้รู้ว่านั่นคงไม่ใช่เสือจริงๆ คงจะเป็นพวกภูมิที่อยากจะให้หลวงปู่เร่งความเพียรเท่านั้นเอง
ในแต่ละครั้ง หลวงปู่คิดอย่างเดียวว่า “ตายเป็นตาย” แต่เมื่อจิตถอนออกจากสมาธิ ทุกอย่างก็เป็นปกติเหมือนเดิม และมีเทวดาบ้าง รุกขเทพบ้าง หรือพวกภูมิต่างๆ บ้าง บางทีก็เป็นพวกพญานาค มากราบนมัสการขอฟังธรรมจากหลวงปู่อยู่ตลอด บางคืนถึงกับไม่ได้พักผ่อนเลย หลวงปู่เล่าว่าพวกพญานาคจะมากันเยอะมาก มาในลักษณะของคนธรรมดา เมื่อถามไปว่า “มาจากไหน” พวกพญานาคก็ตอบว่า “มาจากเมืองบาดาล ขึ้นมาจากสระน้ำที่อยู่ภายในวัดป่าดงหวายนี้เอง"

รำลึก ๗ ปีวันละสังขารหลวงปู่แฟ้บ! ธรรมะของผู้ประเสริฐไม่แบ่งแยกภพภูมิ... ด้วยจริยวัตรอันงดงามที่แม้แต่ เทวดา พญานาค ยังต้องมาขอฟังธรรม
ที่วัดป่าดงหวายยังมีนิมิตที่ทำให้เกิดปัญญาธรรมที่สำคัญกับหลวงปู่ขึ้นอีก คือ นิมิตว่าตัวเองได้ตายอีกครั้ง หลังจากที่เคยเห็นมาแล้วถึง ๓ ครั้ง เมื่อหลายปีก่อน คราวนี้เห็นว่าร่างของตัวเองนั้นแห้งไปจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก กลิ่นก็ไม่มี อย่างนี้คงเก็บไว้ได้นานเป็นร้อยๆ ปีก็ไม่เน่าไม่เปื่อย เมื่อเป็นเช่นนั้นหลวงปู่จึงบอกว่า “เอ้า ! อยากตายนัก ตายไปเลย” แล้วจิตก็ถอนออกจากสมาธิ ต่อมามีนิมิตว่า ตัวของหลวงปู่ กลางลำตัวนั้นใสไปหมดคล้ายกระจก แต่มีจุดอยู่ ๒ จุดกับมีแนวยาวๆ คั่นระหว่างจุด ๒ จุดยาวไปตามแนวของกระดูกสันหลัง หลวงปู่คิดหาคำตอบอยู่ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ สิ่งที่เห็นนี้คืออะไร พยายามหาคำตอบอยู่หลายเดือน จนในขณะไปเดินบิณฑบาต มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังตั้งครรภ์แก่ ท้องใหญ่มาก มาใส่บาตร จึงคิดไปว่าคงจะเป็นลูกแฝด จึงกลับมาพิจารณาเพ่งจิตที่วัดก็เห็นเป็นเด็กตัวเล็กๆ งอตัวอยู่ หันหน้าไปทางกระดูกสันหลังของผู้เป็นแม่ แล้วก็ปรากฏเห็นการเกิดของเด็กทารกในเวลาคลอดจะกลับหัวออกมาก่อน
ขณะนั้นก็เกิดปัญญาขึ้นมาว่า “นี่เอง ! ทางแห่งการเกิดนี่เอง ! จุดบ่อเกิดทางเส้นนี้จุด ๒ จุดนี้ เป็นเหตุแห่งการเกิด นี่ๆ ! ไม่สงสัยแล้วเหตุแห่งการเกิดในวัฏฏะสงสารนี้” พร้อมกับความรู้สึกแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย จิตใจสว่างผ่องใสเป็นที่สุด”
หลวงปู่แฟ้บ สุภัทโท ได้ถึงแก่มรณภาพลงอย่างสงบด้วยเส้นเลือดหัวใจตีบ เมื่อเวลา ๒๑.๕๐ น. ของวันจันทร์ที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ณ โรงพยาบาลสกลนคร ท่ามกลางความเศร้าสลดและความอาลัยเป็นยิ่งนักของบรรดาคณะสงฆ์ คณะศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป สิริรวมอายุได้ ๘๘ ปี พรรษา ๒๘
ที่มา FB : เพจท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฎฐาน