"มหาเถรสมาคม" เตรียมสั่งยกเลิกบวชระยะสั้น แก้เคล็ดแก้บนตามคติความเชื่อ ต้องบวชอย่างน้อย ๑๕ วัน เผย..อยากให้เรียนรู้หลักพระธรรมอย่างแท้จริง!!

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

"มหาเถรสมาคม" เตรียมสั่งยกเลิกบวชระยะสั้น แก้เคล็ดแก้บนตามคติความเชื่อ ต้องบวชอย่างน้อย ๑๕ วัน เผย..อยากให้เรียนรู้หลักพระธรรมอย่างแท้จริง!!

          การเข้าพิธีอุปสมบท หรือบวชพระ โบราณถือว่าเป็นการเกิดครั้งที่สอง คือเกิดภายใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ ถือเป็นประเพณีสำคัญที่มาจากความเลื่อมใสศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา การบวชพระนอกจากจะได้ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ยังสามารถนำข้อปฏิบัติที่ได้จากการบวชไปใช้ในชีวิตประจำวัน การประพฤติปฏิบัติตนให้มีความรู้ความเข้าใจในความเป็นจริง และมีสติสัมปชัญญะแยกแยะผิดชอบชั่วดี ได้บุญกุศลแรงทั้งผู้บวช ผู้อุปถัมภ์ รวมทั้งผู้เป็นบิดามารดา

"มหาเถรสมาคม" เตรียมสั่งยกเลิกบวชระยะสั้น แก้เคล็ดแก้บนตามคติความเชื่อ ต้องบวชอย่างน้อย ๑๕ วัน เผย..อยากให้เรียนรู้หลักพระธรรมอย่างแท้จริง!!

          ล่าสุด มหาเถรสมาคม ได้เปิดเผยว่าขณะนี้คณะสงฆ์กำลังดำเนินการร่างหลักสูตรในการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุ สามเณร และขั้นตอนพิธีกรรมที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา หลังพบเจอปัญหาความหย่อนในเรื่องของคติความเชื่อและมักเห็นว่าการบวชเพียงระยะสั้นเป็นเวลา ๓ วัน  ๗ วัน เพื่อแก้บนในสิ่งที่บนบานศาลกล่าวเอาไว้ หรือบวชแก้เคล็ด แก้กรรม หรือบวชพอเป็นพิธีเท่านั้น ทำให้ผู้ที่เข้าบวชยังไม่ได้เรียนรู้พระธรรมคำสอนอย่างแท้จริง แต่จะยกเว้นให้การบวชหน้าไฟ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที อุทิศบุญกุศลให้บิดามารดาและผู้มีพระคุณ โดยจะกำหนดให้บวชเรียนพระสงฆ์และสามเณร เป็นเวลาอย่างน้อย ๑๕ วัน เพื่อให้เวลาในการการบวชเรียน เพื่อที่จะได้ศึกษาเล่าเรียนหลักพระธรรมคำสอนและอยู่ในพระธรรมวินัยได้เต็มที่ คาดว่าหลักสูตรใหม่นี้ จะแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑

          ทั้งนี้ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๘/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า สมเด็จพระวันรัต กรรมการมหาเถรสมาคม ปฏิบัติหน้าที่ประธานที่ประชุมปรารภว่า มหาเถรสมาคมมีมติเห็นชอบให้พระสังฆาธิการและพระอุปฌาย์เพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการปกครอง ควบคุม สอดส่องดูแล อบรมพระภิกษุสามเณรในการปกครอง และคัดครองผู้เข้าบรรพชาอุปสมบท โดยเป็นไปตามพระธรรมวินัย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ กละกฏมหาเถรสมาคมอย่างเคร่งครัด    

        เพื่อให้การปฏิบัติอย่าเป็นรูปธรรมเห็นสมควรแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อกำหนดระยะเวลาที่จะบรรพชาอุปสมบทและหลักสูตรการอบรมผู้เข้าบรรพชาอุปสมบท ประกอบด้วย

๑. พระพรหมมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร
๒. พระพรหมดิลก กรรมการมหาเถรสมาคม วัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร
๓. พระพรหมโมลี กรรมการมหาเถรสมาคม วัดปากน้ำ กรุงเทพมหานคร
๔. พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม วัดประยูรวงศาวาส กรุงเทพมหานคร

พร้อมกับมีบัญชาให้นำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบและให้ดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอรับรายงานการประชุม

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : Facebook พิชาญ พงษ์พิทักษ์ 

                          http://mahathera.onab.go.th