เผย..”วิธีรักษาสิริ 8 ประการ”แบบฉบับคนโบราณ!ทำแล้วชีวิตดีจริง!”ไม่อายุสั้นเคราะห์ร้ายไม่มี”เทพยดาลงมาให้พร..เจริญรุ่งเรืองร่ำรวย!!

เผย..”วิธีรักษาสิริ 8 ประการ”แบบฉบับคนโบราณ!ทำแล้วชีวิตดีจริง!”ไม่อายุสั้นเคราะห์ร้ายไม่มี”เทพยดาลงมาให้พร..เจริญรุ่งเรืองร่ำรวย!!

วันนี้ผู้เขียนขอเสนอเกร็ดประวัติความเป็นของคำว่า สิริ 8ประการ และ ”วิธีการรักษาสิริ 8 ประการ”ซึ่งมีอยู่ในตัวเราหญิง-ชาย ทั้งหลาย ที่คนโบราณว่าไว้… ถ้าบุรุษและสตรีคนใดได้รักษาไว้ซึ่งสิริ 8 ประการนี้แล้ว เทพยดาที่เป็นสิริก็จะเข้าอยู่รักษา และอวยพรให้แก่ผู้นั้นเสมอถ้าผู้ใดไม่รักษาสิริ 8 ประการนี้แล้วเทพยดาที่เป็นกาลกิณีก็เข้าอยู่ให้โทษแก่ผู้นั้นให้เป็นคนอับประภาคถอยอายุค่ะ

เผย..”วิธีรักษาสิริ 8 ประการ”แบบฉบับคนโบราณ!ทำแล้วชีวิตดีจริง!”ไม่อายุสั้นเคราะห์ร้ายไม่มี”เทพยดาลงมาให้พร..เจริญรุ่งเรืองร่ำรวย!!

 

เผย..”วิธีรักษาสิริ 8 ประการ”แบบฉบับคนโบราณ!ทำแล้วชีวิตดีจริง!”ไม่อายุสั้นเคราะห์ร้ายไม่มี”เทพยดาลงมาให้พร..เจริญรุ่งเรืองร่ำรวย!!

  “คำว่า สิริ มี ๒ คำ ๒ ความหมาย. คำว่า สิริ คำหนึ่ง หมายถึง ศรี มิ่งขวัญ มงคล ความงาม เช่น ตอนเช้าสิริอยู่ที่หน้า คนทั้งหลายจึงล้างหน้า. สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏานเสวยสิริราชสมบัติสืบต่อจากพระราชบิดา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๑. คำว่า สิริ ที่แปลว่า ความงาม ใช้ในตัวอย่างว่า พระเพื่อนพระแพงมีสิริโฉมงดงาม
          คำว่า สิริ อีกคำหนึ่ง หมายถึงรวม. ปัจจุบัน คำว่า สิริ ความหมายนี้มักใช้ในกรณีที่รวมอายุของบุคคล อาจซ้อนกับคำว่า รวม เป็น สิริรวม เช่น คุณยายเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง สิริรวมอายุได้ ๙๐ ปี. ในสมัยก่อน คำว่า สิริ ใช้ได้หลายกรณี เป็นต้นว่าใช้ร่วมกับคำว่า ยา เป็น สิริยา หมายถึง รวมยา เช่น ในหนังสือแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์มีข้อความว่า “ยางสลัดใดแห้ง ๒ สลึง ยางตาตุ่ม ๒ สลึง สิริยาทั้งนี้กวนด้วยน้ำผึ้งพอปั้นได้” หรือใช้ร่วมกับคำว่า กษัตริย์ เป็น สิริกษัตริย์ หมายถึงรวมกษัตริย์ เช่น ในประชุมพงศาวดารภาคที่ ๖๖ มีข้อความว่า “สิริกษัตริย์ในราชวงศ์สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เว้นแต่พระเพทราชา คณนาเป็นกษัตริย์ ๙ พระองค์ด้วยกัน”

สิริ 8 ประการนี้ล้วนมีปรากฏอยู่ภายในตัวเราทุกคนเพียงแต่เรามองไม่เห็นและไม่รู้”วิธีการรักษาสิริ 8 ประการ”นี้ไว้กับตัวอย่างคนสมัยโบราณที่เขาเคร่งครัดและให้ความสำคัญในเรื่องฤกษ์ยาม-ความเป็นสิริมงคลกันมากๆแต่สำหรับคนสมัยนี้ส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นเรื่องที่งมงายไร้สาระเอามากๆจนในที่สุดจารีตประเพณีขนบธรรมเนียมอันดีงามเหล่าก็ได้เลือนหายไปจนหมดสิ้น

ทีนี้เรามาดูกันค่ะว่า สิริ 8 ประการที่ว่านี้จะปรากฏแสดงรูปลักษณะภายในตัวเราอย่างไร!! โดยผู้เขียนจะยกตัวอย่างเช่น ดังนิยายโบราณได้มีการกล่าวถึงสิริ 8 ประการไว้ดังนี้ ณ กาลก่อนมีเทพยดา 2 องค์ อยู่รักษาสำหรับโลก องค์หนึ่งชื่อ เทวพรหม องค์หนึ่งชื่อ โลกพรหมและพรหมทั้งสองมาพบกันเข้า เทวพรหมจึงถามอรรถปัญหาปริศนา 8 ประการแก่โลกพรหมในปริศนานั้นว่า..
                                ข้อ 1 บุรุษอันเกิดมาในโลกนี้ จะสมัครสโมสรสังวาสด้วยหญิงนั้นดังฤาจึงจะควรเป็นที่สรรเสริญแก่เทพยดาที่เป็นสิริจะได้รักษา
                                ข้อ 2 เมื่อบริโภคอาหารจะบ่ายหน้าไปทิศใด จึงจะสมควรให้เทพยดารักษา
                                ข้อ 3 เมื่อจะถ่ายอุจจาระบ่ายหน้าไปทิศใด จึงจะสมควรให้เทพยดารักษา
                                ข้อ 4 เมื่อจะไสยาสน์กับสตรี จะไสยาสน์อย่างไร จึงจะสมควรให้เทพยดารักษา
                                ข้อ 5 เมื่อเวลากลางวันกลางคืนก็ดี จะนุ่งผ้าดังฤา จึงจะเป็นที่สมควรให้เทพยดารักษา
                                ข้อ 6 เวลารุ่งเช้า สิริอยู่ในตัวมนุษย์ที่ใด ทำอย่างไร จึงจะเป็นที่สมควรให้เทพยดารักษา
                                ข้อ 7 เวลาเที่ยง สิริอยู่ในตัวมนุษย์ที่ใด ทำอย่างไร เทพยดาจึงจะเข้าอยู่รักษา
                                ข้อ 8 เวลาพลบค่ำ สิริอยู่ในตัวมนุษย์ที่ใด ทำอย่างไร เทพยดาจึงจะเข้าอยู่รักษาอวยพรให้กับเรา
อันว่าสิริ 8 ประการนี้ อยู่สำหรับโลก และท่านเป็นพรหมอยู่รักษาโลกทั้งปวง ท่านจงวิสัชนาไปให้เราฟังในกาลบัดนี้เทอญฯ

 

ฝ่ายโลกพรหมจึงทูลแก่เทวพรหมว่าอันอรรถปัญหาปริศนานี้ ข้าพเจ้าจะขอผลัดไปตรึกตรองดูก่อนในเจ็ดวันแล้วจึงจะมาวิสัชนาให้ฟัง เทวพรหมจึงว่ากับพรหมโลกว่า ท่านจงเร่งไปตรึกตรองไต่ถามเสียให้ได้ในเจ็ดวัน ครั้นครบเจ็ดวันแล้วเราจะลงมาฟัง ถ้าท่านแก้อรรถปัญหาของเรามิได้ เราก็จะตัดศีรษะของท่านเสียไปประจานในโลก ครั้นแล้วโลกพรหมก็จะสะดุ้งตกใจกลัวยิ่งนักจึงไปเที่ยวสืบถามอรรถปัญหาปริศนาแก่เทวดาทั้งหลายเทวดาทั้งหลายก็มิอาจแก้ปริศนา 8 ข้อนี้ได้ แต่โลกพรหมเที่ยวไต่ถามอรรถปัญหาอยู่จนถึงหกวัน จะหาผู้ใดรู้วิสัชนา แก้ปัญหานี้ได้ก็ไม่มี พอเวลาค่ำโลกหรหมไปพบพฤกษาต้นหนึ่งใหญ่ไพศาล บนต้นไม้ที่รังนกอินทรีแม่ลูกอาศัยทำรังอยู่ โลกพรหมก็เข้าไปหยุดพักอาศัยอยู่ใต้ต้นพฤกษานั้น พอเวลาค่ำลงแม่นกอินทรีก็กลับมารังของตน ลูกนกจึงถามแม่นกว่าแม่ไปหาเหยื่อวันยังค่ำไม่ได้อะไรมาฝากข้าบ้างเลย แม่นกจึงว่าวันนี้แม่หาเหยื่อมาฝากเจ้าก็ขัดสนนัก แต่แม่จะกินก็ไม่มีเจ้าจงคอยพรุ่งนี้ แม่จะได้เหยื่อที่ไหนมาให้ข้าเล่า แม่นกนกจึงบอกลูกว่า เวลาพรุ่งนี้เทวพรหมจะฆ่าและตัดศีรษะโลกพรหมเสีย แม่จึงจะได้เอาเนื้อโลกพรหมนั้นมาฝากเจ้า ลูกนกจึงถามว่าเหตุใดเทวพรหมจึงจะฆ่าโลกพรหมเสียเล่า แม่นกจึงตอบว่าเทวพรหมถามอรรถปัญหาปริศนา 8 ประการ แก่โลกพรหม ๆ แก้อรรถปัญหาไม่ได้ เทวพรหมจึงจะฆ่าโลกพรหมเสียด้วยความข้อนี้ ลูกนกจึงถามต่อไปว่า ปริศนา 8 ข้อนี้ว่าดังฤา แม่นกจึงตอบว่าไม่ใช่ธุระของเราอย่าถามเลย ลูกนกจึงอ้อนวอนแม่ไม่บอกปริศนา 8 ข้อแก่ข้าแล้ว ข้าจะกลั้นใจตายเสียเดี๋ยวนี้ และด้วยความที่แม่นกกลัวลูกของตนจะตายจึงจำต้องบอกอรรถปัญหาปริศนา 8 ประการสำหรับโลกให้แก่ลูกของตนฟัง..
             ถ้าบุรุษสตรีผู้ใดรักษาสิริ 8 ประการ นี้ได้เทพยดาที่เป็นสิริก็ให้พรและรักษาผู้นั้น ถ้าบุรุษใดไม่ได้ทำตามสิริ สำหรับโลก 8 ประการนี้เทพยดาที่เป็นกาลกิณีก็สาปผู้นั้น ผู้นั้นจะถอยยศศักดิ์การมงคลและความรู้จะเสื่อมสูญไปสิ้น แม่นกอินทรีจึงบอกลูกว่าปริศนานั้นมีดังนี้
   ข้อ 1 ให้บุรุษสตรีเว้นจากกามคุณในวัน 7 ค่ำ 8 ค่ำ 14 ค่ำ และ 15 ค่ำ ทั้งข้างขึ้นและข้างแรมและวันตรุษวันสงกรานต์ วันสูรย์วันจันทรคาธวันเข้าพรรษาและวันเกิดของตน ถ้าบุรุษหรือสตรีใดเว้นเสียซึ่งการร่วมรสสังวาสกามคุณในวันเหล่านี้แล้ว เทพยดาก็จะอวยพรและรักษาสิริให้เข้าอยู่ในตัวผู้นั้น
                ข้อ 2 ถ้าบุรุษและสตรีผู้ใดจะบริโภคอาหาร ให้บ่ายหน้าไปสู่ทิศบูรพา คือ ทิศตะวันออก ถ้าทำดังนั้นเทพยดาที่เป็นสิริจะให้พรและรักษาผู้นั้น
                ข้อ 3 ถ้าผู้ใดจะถ่ายอุจจาระ ให้บ่ายหน้าไปสู่ทิศปัจฉิม คือ ตะวันตกเทพยดาอันเป็นสิริจะให้พรและรักษาผู้นั้น
                ข้อ 4 ถ้าผู้ชายจะนอนด้วยผู้หญิง จงให้ผู้หญิงนั้นนอนข้างซ้ายแล้วอย่าให้ผู้หญิงนั้นข้ามเท้า เทพยดาอันเป็นสิริก็จะให้พรและรักษาผู้นั้น
                ข้อ 5 ถ้าบุรุษและสตรีผู้ใดก็ดีให้รู้จักผ้านุ่งกลางวันและกลางคืนห้ามอย่าให้นุ่งร่วมกัน ถ้าจะนุ่งให้หมายเอาไว้เพื่อให้รู้ว่าเป็นผ้านุ่งกลางวันหรือกลางคืน เทพยดาอันเป็นสิริจึงจะให้พรและรักษาผู้นั้น
                ข้อ 6 เวลารุ่งเช้า สิริอยู่ที่หน้าผาก ครั้นเวลาเช้าให้เอาน้ำล้างหน้าจึงจะเป็นสิริเทพยดาที่เป็นสิริ จึงจะรักษาผู้นั้น
                ข้อ 7 เวลาเที่ยงสิริอยู่ที่อกและระหว่างทรวง ให้เอาน้ำพรมที่หน้าอกตรงหทัย จะเกิดเป็นสิริเทพยดา จึงจะรักษาผู้นั้น
                ข้อ 8 เวลาเย็น สิริอยู่ที่หัวแม่เท้าและกลางใจเท้า เมื่อเข้าไสยาสน์เอาน้ำชำระกลางใจเท้าเทพยดาอันเป็นสิริจึงจะให้พรและรักษาผู้นั้นข้าทาสกรรมกรศัตรูทั้งปวงไม่สามารถจะทำร้ายก็ดลใจให้เรารู้สึกตัวกับตนเอง แลฯ
 
ทั้งนี้เราจะเห็นได้ว่าสิริทั้ง 8 ประการนี้เป็นสิ่งที่ดีงามมากถ้าหากว่าเราจะนำเอามาปฏิบัติรักษาได้แบบนี้ ผู้เขียนเชื่อว่าเทพยดาอันเป็นสิริจะอวยพรให้แก่เราทุกคน และจะเข้าอยู่รักษาตัวเราเสมอ เชื่อคำคนโบราณเอาไว้บ้างก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรของแบบนี้ใครปฏิบัติได้ก็บังเกิดผลดีแก่ตัวเองทั้งสิ้นค่ะ
และในส่วนของผู้ที่ไม่ได้รักษาสิริ 8 ประการนี้ไว้กับตัวคนโบราณท่านว่า..เทพยดาอันเป็นกาลกิณีทราบเข้าก็จะเข้าอยู่รักษาผู้นั้นและทำให้ผู้นั้นอับประภาคถอยอายุซึ่งก็น่าจะประมาณว่าเทพยดาที่เป็นกาลกิณีจะคอยทำให้บังเกิดแต่สิ่งเลวร้ายแก่คนผู้นั้นเสมอจึงดูไม่มีสง่าราศีในตัวดวงตกอาภัพโชคชะตาไม่มีความเจริญรุ่งเรืองใดๆในชีวิตและอายุสั้นเพราะไม่มีเทพยดาฝ่ายดีคอยปกปักรักษาตัวเมื่อมีเคราะห์หนักๆก็อาจจะไม่อาจหลุดพ้นได้อย่างผู้ที่มีเทพยดาฝ่ายดีคอยดูแล ดั่งเช่นคำคำที่แม่นกแสดงให้ลูกนกฟังดังนี้ โลกพรหมอยู่ใต้ต้นไม้ได้ยินทุกสิ่ง ครั้นวันรุ่งขึ้นเป็นวันครบกำหนดเจ็ดวันโลกพรหมก็ขึ้นไปรอคอยเทวพรหม ณ ที่ประชุม พอถึงเวลาเทวพรหมก็เสด็จลงมายังบัลลังก์ที่ประทับ โลกพรหมจึงแสดงแก้อรรถปัญหาปริศนาทั้ง 8 ข้อ ตามที่ได้ยินมาจากคำแม่นกแสดงแก่ลูกนกทั้ง 8 ข้อ เทวพรหมก็มีความยินดีสรรเสริญต่าง ๆ แก่โลกพรหม แลฯ

ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:วิกิพีเดีย, และข้อมูลเพิ่มเติม(บางส่วน)จาก :อินเตอร์เน็ตค่ะ
เรียบเรียงโดย: โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์