โจรปล้นถ้ำเมืองนะ!! เปิดเรื่องเล่า เมื่อ "โจรใจบาป" เข้าปล้นถ้ำเมืองนะ มีอาวุธครบมือ..แต่ไม่กล้าเข้าไปเพราะเจองูตัวใหญ่มากพันรอบปากถ้ำ !!

         เรื่องราวลึกลับของสังคมไทยเรานั้นเกิดขึ้นได้ทุกยุคทุกสมัย เพราะความเชื่อนั้นก็อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน ในวงการของพระพุทธศาสนา ก็เกิดเรื่องราวสุดแปลกประหลาด อัศจรรย์ขึ้นมากมาย เกี่ยวสถานที่ต่างๆ มีเรื่องเล่ามากมายที่เกิดขึ้นเพราะความอัศจรรย์ รวมไปถึงปาฏิหาริย์มากมาย

             มีเรื่องเล่าถึงปาฏิหาริย์ ถ้ำเมืองนะ ประมาณปี ๒๕๓๗-๒๕๓๘ ทางคณะอาจารย์ศุภรัตน์ ได้นำคณะขึ้นไปทอดกฐินสมัยนั้นถ้ำเมืองนะ ยังไม่เจริญเหมือนทุกวันนี้ ชาวบ้านยังไม่นับถือพระเหมือนทุกวันนี้ ก็มีชาวบ้านมาร่วมทอดกฐินบ้างบางส่วน เมื่อตกตอนเย็นคณะศิษย์ก็นำยอดกฐินมานับสมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้า จึงใช้วิธีจุดเทียนนับเงินยอดกฐินวันนั้นได้ราวสามหมื่นกว่าๆ พอตกเวลาสองทุ่มก็เริ่มนั่งสมาธิกัน หลานอาจารย์ไม่ได้นั่งสมาธิด้วย จึงลงมานั่งดูหนังในรถตู้กับคนขับรถ เวลาผ่านไปซักพักหนึ่งมีชายฉกรรจ์ ๓ คนอาวุธครบมือ ได้มาจี้คนขับรถตู้โดยบอกให้เด็กคนนั้นขึ้นมาเอาเงินลงไปให้ จากนั้นพวกโจรก็ปล่อยให้เด็กคนนั้นขึ้นมาเอาเงิน พอเด็กคนนั้นขึ้นมาก็บอกกับผู้ใหญ่ที่นั่งสมาธิอยู่ว่า 

"น้าๆ มีโจรมาปล้น"

 

น้าคนนั้นก็อย่ามาเล่นคนจะนั่งสมาธิ ซักพักโจรมันตะโกนขึ้นมาว่า 

"เฮ้ยๆ เอาเงินมาสามหมื่น"

          แล้วก็ยิงปืนขึ้นฟ้า เท่านั้นแหละคนนั่งสมาธิแตกตื่นกันใหญ่ ผู้ชายก็หยิบไม้ ผู้หญิงก็นั่งร้องไห้ถอดสร้อย เก็บตังค์ยัดไว้ตามซอกหินในถ้ำกลัวโจรจะเอาเงินไปหมด โจรก็ไม่มีทีท่าจะขึ้นมาแต่มันกลับปล่อยคนขับรถขึ้นมาเอาเงินให้มันแทน 

          หลวงตาม้าก็บอกไม่ต้องกลัวมันไม่กล้าขึ้นมาหรอก แล้วก็อมยิ้้ม อาจารย์ศุภรัตน์หยิบจานขึ้นมาท่องคาถาแล้วร่อนจานลงไปที่กลุ่มโจร พอร่อนไปเท่านั้นแหละกลุ่มโจรแตกวิ่งหนีคนละทิศละทาง พอสบโอกาสลูกศิษย์ก็ได้ไปตีระฆังซักพัก ต.ช.ด. ฝั่งตรงข้ามก็มาแล้วตามจับโจร หลังจากนั้น ๑ ใน ๓ โจรถูกจับได้ ต.ช.ด. แล้วไต่ถามเรื่องราววันนั้น และมาเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ๒ คนที่ร่วมปล้นตกเขาตาย ส่วนอีกคนที่รอดเล่าว่าวันนั้นอาวุธครบมือก็จริง แต่ไม่กล้าขึ้นไปเอาเงินเอง เพราะเห็นเหมือนมีงูตัวใหญ่มากพันอยู่รอบบริเวณปากถ้ำ จึงส่งให้เด็กและคนขับรถขึ้นไปเอาเงิน ส่วนที่หนีมาเพราะงูตัวนั้นกระโจมลงมาจากปากถ้ำทำให้เกิดความกลัวและหนี ส่วนเศษจานลูกศิษย์แย่งกันเก็บไปบูชากันหมด

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ค : Kuntana Satterrawut