รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://www.tnews.co.th

เหลือบไรในผ้าเหลือง “เงินทอนวัด” ถึงเวลาชดใช้กรรม! เพจดังโพสป.ป.ช.แถลงผลแล้วผิดจริง งานนี้ติดคุกยาวกันละ ส่วนที่เหลือคงตามมาเร็วๆนี้(มีคลิป)

จากกรณี คดี “เงินทอนวัด” ที่ทางเพจดัง Siriwanna Jill – New ได้โพสลงเพจ จนทำให้มีกระแสและมีการดำเนินการอย่างจริงจังจาก สำนักพุทธฯ ทำให้มีการสืบสวนสอบสวนจนได้มูลคดีคนทำผิด ส่งต่อให้ ป.ป.ช.พิจารณา เพื่อดำเนินคดีทางศาลนั้น ซึ่งเมื่อ 8ม.ค.61 ในช่วงเช้าแจ้งว่าบ่ายจะมีการแถลงผลการพิจารณา “คดีเงินทอนวัด” ของหน่วงาน ป.ป.ช. นั้น 
(รายละเอียดข่าว)
http://www.phenkhao.com/contents/380963
 

เหลือบไรในผ้าเหลือง “เงินทอนวัด” ถึงเวลาชดใช้กรรม! เพจดังโพสป.ป.ช.แถลงผลแล้วผิดจริง งานนี้ติดคุกยาวกันละ ส่วนที่เหลือคงตามมาเร็วๆนี้(มีคลิป)
และเมื่อเย็นวันที่8ม.ค.61ที่ผ่านมาทางเพจดังกล่าวได้ลงผลการแถลงดังนี้
ปปช.ชี้มูลความผิด ข้าราชการสำนักพุทธฯ น.ส.ประนอม คงพิกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รอง ผอ. สำนักพุทธฯ กับ พวกรวม 9 คน ทุจริตเงินทอนวัดภาคใต้ ส่งอัยการสูงสุดดำเนินคดี และต้นสังกัดเอาผิดวินัยร้ายแรง. การอนุมัติจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุน แก่วัดชลธาราวาส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส วัดยูปาราม อ.เมืองยะลา จ.ยะลา และวัดสุริยาราม อ.เทพา จ.สงขลา วัดละ 4 ล้านบาท
โดยมีนายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ ผอ.สำนักพุทธฯ จ.สงขลา ไปเจรจากับวัด หลังจากได้รายชื่อและบัญชีธนาคารของวัดแล้ว ได้เสนอเรื่องให้ น.ส.ประนอม ในฐานะ ปธ.คกก.พิจารณาการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุน โครงการหรือกิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาฯ จากนั้น น.ส.ประนอมได้เสนอเรื่อง เข้าที่ประชุมพิจารณาเงินอุดหนุน ทั้งที่ไม่มีคำขออุดหนุนงบประมาณ จากทางวัดประกอบการพิจารณา แต่มีการอ้างถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งที่ประชุมก็ได้พิจารณา จัดสรรเงินอุดหนุนทั้ง 3 วัด มูลค่ารวม 12 ล้านบาท และนายพนม ศรศิลป์ ผอ. สำนักพุทธฯ ในขณะนั้น อนุมัติโอนจ่ายเงินตาม ที่มีการพิจารณาจัดสรร ก่อนที่นายเสถียรจะติดต่อไปยังวัดทั้ง 3 แห่งโดยให้ทางวัดเก็บเงินไว้เพียง 8 แสนบาท ส่วนที่เหลือ 3.2 ล้านบาท รวม 3 วัดเป็น 9.6 ล้านบาท ให้เตรียมไว้เพื่อนำมาคืนให้นายเสถียร
เมื่อนายเสถียรถูกจับกุม น.ส.ประนอม ได้โทรศัพท์แจ้งให้ นายวสวัติติ์ กิตติธีระสวัสดิ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ จัดทำเอกสารโครงการส่งเสริมความมั่นคง ของสถาบันพระพุทธศาสนา เสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ชาวไทยพุทธ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้น จำนวน 3 กิจกรรม เพื่อเป็นการแสดงว่า จะนำเงินที่เรียกคืนจาก 3 วัดไปใช้ในโครงการดังกล่าว ซึ่งมีอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเป็นการจัดทำเอกสารเท็จ เพื่อรองรับการเรียกรับเงิน ของนายเสถียร จึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาทุจริตเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ แก่ตนเองหรือผู้อื่น
แม้จะมีการประสานและติดตามเงินงบประมาณ กลับมาได้ทั้งหมด แต่ คกก.ปปช. เห็นว่าความผิดสำเร็จแล้ว จึงมีมติว่า น.ส.ประนอม และนายเสถียร มีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 157, 162(4) ประกอบมาตรา 83 และตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 123 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 123/1 ส่วน นายพนม มีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และ 157 ขณะที่นายประสงค์ จักรคำ ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา, นายวสวัตติ์ กิตติธีระสวัสดิ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ, นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี นักวิชาการศาสนาชำนาญการ ในฐานะกรรมการพิจารณาจัดสรรงบประมาณฯ มีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162 (4) ประกอบมาตรา 83 และตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
ซึ่งทางผู้ติดตามในเพจได้ออกมาคอมเมนต์กันหลายราย
เหลือบไรในผ้าเหลือง “เงินทอนวัด” ถึงเวลาชดใช้กรรม! เพจดังโพสป.ป.ช.แถลงผลแล้วผิดจริง งานนี้ติดคุกยาวกันละ ส่วนที่เหลือคงตามมาเร็วๆนี้(มีคลิป)

เหลือบไรในผ้าเหลือง “เงินทอนวัด” ถึงเวลาชดใช้กรรม! เพจดังโพสป.ป.ช.แถลงผลแล้วผิดจริง งานนี้ติดคุกยาวกันละ ส่วนที่เหลือคงตามมาเร็วๆนี้(มีคลิป)
เวรกรรมมีจริง พวกเหลือบเดนที่มาอาศัย สำนักพุทธฯ หากินกันกับวงการพระพุทธศาสนา เริ่มได้รับผลกรรมที่ทำมา งานนี้ทั้งติดคุกยาว แล้วยังมีเหลืออีกหลายคดีที่ยังรอสะสางกันต่อไป เพราะจากข่าวที่เคยเสนอมาก่อนหน้านี้ ยอดเงิน และจำนวนวัดที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมใน “คดีเงินทอนวัด” ยังมีอีกมากทั้งจำนวนวงเงินก็มากเกือบ 200ล้านบาทที่แถลงมาคั้งนี้ยังคิดว่าแค่เปิดโรงเท่านั้น ทางเพจจะได้ติดตามข่าวคราวมานำเสนอต่อไป 
ขอขอบคุณ FB : เพจ Siriwanna Jill – New และเพจ สื่อสารองค์กร สำนักงาน ป.ป.ช. @prancc