ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

             วันที่ ๑๖ มกราคม เป็นวันคล้ายวันเกิด หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เป็นภิกษุชาวไทย จำพรรษา ณ วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ ท่านเป็นธรรมทายาทสายหลวงปู่มั่น หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เกิดในตระกูลของช่างตีเหล็ก เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๐ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือนยี่ ปีกุน ณ บ้านนาโป่ง ตำบลหนองใน (ปัจจุบันเป็นตำบลนาโป่ง) อำเภอเมือง จังหวัดเลย โดยเป็นบุตรของนายใสกับนางแก้ว รามศิริ โดยมีน้องสาวร่วมบิดา - มารดาอีกหนึ่งคนคือ นางเบ็ง ราชอักษร และบิดามารดาของท่านได้ ตั้งชื่อว่า ญาณ ซึ่งแปลว่า ปรีชา กำหนดรู้

             พอท่านมีอายุ ได้ประมาณ ๕ ขวบเศษ โยมมารดาของท่านก็ล้มป่วย แม้จะได้รับการดูแลเยียวยารักษาเป็นอย่างดีจากสามี แต่อาการของท่านก็มีแต่ทรงกับทรุด ในที่สุดเมื่อท่านรู้ตัวว่า คงจะไม่รอดชีวิตไปได้แน่แล้วท่านจึงได้เรียกหลวงปู่แหวน เข้าไปใกล้ แล้วกล่าวความฝากฝังเอาไว้ว่า ลูกเอํย...แม่ยินดีต่อลูก สมบัติใด ๆ ในโลกนี้ล้วน กี่โกฎก็ตามแม่ไม่ยินดี แม่จะยินดีมากถ้าลูกจะบวชให้แม่ เมื่อลูกบวชแล้วก็ให้ตายกับผ้าเหลือง ไม่ต้องสึกออกมา มีลูกมีเมียนะ... หลวงปู่แหวนพยักหน้า รับคำเท่านั้น ดวงวิญญาณของท่านก็ออกจากร่างไป มาอีกไม่นาน ดึกสงัดของค่ำคืนวันหนึ่งขณะที่คุณยายของหลวงปู่แหวนกำลังนอนหลับสนิทก็เกิดฝันประหลาด อันเป็นมงคลนิมิตหมายที่ดีงาม ท่านจึงได้นำเอาความฝันมาเล่าสู่ลูกหลานและหลวงปู่แหวนฟัง ในวันรุ่งขึ้นว่า เมื่อคืนนี้ ยายนอนหลับและได้ฝันประหลาดมาก ฝันว่าเจ้าไปนอนอยู่ในดงขมิ้น จนกระทั่งเนื้อตัวของเจ้าเหลือง อร่ามไปหมด ดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูยิ่งนัก ยายเห็นว่า เจ้านี้จะมีอุปนิสัยวาสนาในทางบวช ฉะนั้นยายขอให้เจ้าบวชตลอดชีวิต และขอให้ตายกับผ้าเหลือง ไม่ต้องสึกออกมามีลูกมีเมียเจ้าจะทำได้ไหม

แม้แต่หลวงปู่มั่น..ก็เอาไม่อยู่!! "หลวงปู่แหวน" กล่าวถึงพญานาคที่ถ้ำเชียงดาว ถ้าจริตไม่ถูกกัน เป็นต้องถูกพญานาคตำหนิทุกครั้งไป #น้อมรำลึก !!

             นอกจากนี้ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ได้เคยเล่าถึงประสบการณ์เกี่ยวกับ "พญานาค" ในถ้ำเชียงดาวไว้ว่า ภายในถ้ำหลวงที่ถ้ำเชียงดาวนั้นมีพญานาคอยู่  ถ้ำดังกล่าวนี้ต้องแยกขึ้นไปทางซ้ายมือ อยู่เหนือถ้ำหลวงเล็กน้อย พื้นถ้ำมีก้อนหินเป็นรูปกงจักรกับดอกบัว ซึ่งมีพญานาคเฝ้าอยู่ภายใต้แผ่นหินนี้ ครั้งหนึงหลวงปู่แหวนเคยกล่าวถึง พญานาคที่ถ้ำเชียงดาวว่า "ถ้าจริตไม่ถูกกัน อริยสงฆ์องค์ใดก็เอาไม่อยู่ไม่เว้นแม้หลวงปู่มั่น" 

 

แม้แต่หลวงปู่มั่น..ก็เอาไม่อยู่!! "หลวงปู่แหวน" กล่าวถึงพญานาคที่ถ้ำเชียงดาว ถ้าจริตไม่ถูกกัน เป็นต้องถูกพญานาคตำหนิทุกครั้งไป #น้อมรำลึก !!

            เวลามีพระเข้าไปภาวนาอยู่ภายในถ้ำนั้น ท่านแทบจะกระดุกกระดิกตัวไม่ได้เลย เพราะเป็นต้องถูกพญานาคกล่าวโทษทันทีว่า สมณะอะไรช่างไม่สำรวม คะนองเหมือนเด็กๆ ถ้าเดินไปสะดุดก้อนหินดังกรอกแกรก พญานาคก็จะกล่าวโทษว่า สมณะอะไรจะเดินจะเหินไม่สำรวมระวัง รีบไปรีบมาเหมือนม้าแข่ง ไม่ว่าพระจะทำอะไรจึงต้องสำรวมทุกอิริยาบถ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่วายจะต้องมีเรื่องให้ถูกตำหนิติเตียนจนได้ แต่พญานาคตนนี้มีอัธยาศัยชอบพออยู่กับ "พระมหาบุญ"  ถ้าพระมหาบุญเข้าไปอยู่ในถ้ำนั้น ไม่ว่าท่านจะทำอะไร เช่น ทำเสียงกระแอมกระไอ เดินเสียงดัง ทำก้อนหินหล่น เขาก็เฉย ไม่แสดงกิริยาอะไรต่อต้าน เพราะมีจริตเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม  ไม่มีพระองค์ใดเข้าไปอยู่ในถ้ำนั้นได้นาน เพราะในถ้ำมีช่องให้อากาศเข้าไปได้ทางเดียวคือทางปากถ้ำ  เมื่อพระเข้าไปอยู่ข้างในแล้วปิดประตู อากาศภายนอกแทบจะเข้าไปไม่ได้เลย จึงทำให้อึดอัด หายใจไม่สะดวก

แม้แต่หลวงปู่มั่น..ก็เอาไม่อยู่!! "หลวงปู่แหวน" กล่าวถึงพญานาคที่ถ้ำเชียงดาว ถ้าจริตไม่ถูกกัน เป็นต้องถูกพญานาคตำหนิทุกครั้งไป #น้อมรำลึก !!  

          ยกเว้น "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" องค์เดียว ที่ท่านสามารถเข้าไปอยู่ในถ้ำนั้นได้นานเป็นวันๆ หลวงปู่มั่นเคยเทศน์แนะนำพญานาคตัวนี้ แต่เขากลับไม่ยอมรับคำแนะนำ เพราะยังอาลัยต่ออัตภาพปัจจุบันของตนเองอยู่  จนในที่สุด เมื่อหลวงปู่มั่นเห็นว่าเข้าไปทำความรำคาญให้แก่เขา ท่านจึงไม่เข้าไปในถ้ำนั้นอีกเลย ที่ถ้ำพญานาคแห่งนี้ หลวงปู่แหวนเคยเข้าไปอยู่หนึ่งวัน ส่วนหลวงปู่ตื้อเคยเข้าไปอยู่สามวัน  แต่องค์อื่นๆ นอกนั้นที่เข้าไปอยู่ต่างถูกพญานาคตำหนิกล่าวโทษทั้งสิ้น พระท่านอยู่ไม่ได้เพราะส่งจิตออกไปดูทีไรก็เห็นพญานาคคอยจ้องหาเรื่องตำหนิอยู่ตลอดเวลา เมื่อพระต่างเห็นว่า หากเข้าไปแล้วจะทำให้พญานาคสร้างบาปหนักเข้าไปอีกก็จะช่วยเหลือเขาด้วยการไม่เข้าไปรบกวนในที่อยู่ของเขาอีกต่อไป 

 

 

 

ขอบคุณที่มาจาก : http://www.dharma-gateway.com/monk-hist-index-page.htm