อย่าพึ่งตัดสินอะไร...เพียงด้านเดียว !!! หลวงพี่ขับกระบะ ปะทะเดือด วัยรุ่นขี่จยย. !!! เผยความจริงทั้ง 2 ฝ่าย #คลิป

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 61 ที่ผ่านมาผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Thirayu Lamprasert ได้โพสต์คลิปและข้อความในขณะที่ทะเลาะกับหลวงพ่อรูปหนึ่งบนถนน เกี่ยวกับเรื่องการปาดหน้ากันแถมยังดูแล้วพระน่าจะมีอาการมึนเมา โดยระบุข้อความดังต่อไปนี้...

เหตุการณ์
ผมขับรถออกไปซื่อยาให้พ่ออยู่ อ.ท่าตูม ผมขับไปถึงป่าช้าบ้านหนองบัวก็มีกระบะสีดำในคลิป 
ขับตามรถผมมา จู่ๆพระรูปนี้ก็แซงไปจอดหน้ารถผม 
แต่ผมก็ขับผ่านไป 
แล้วพระรูปนี้ก็ขับตามมาอีก เร่งเครื่องแซงรถผมไป จอดอยู่เลย4แยกบ้านโพนงอย แล้วผมก็จอดรถ
พระรูปนี้ลงมาจากรถ เดินเข้ามาหาผมที่รถผมเลยหยิบโทรศัพท์อัดคลิปไว้
#ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ในสังคมด้วยครับ
#ขอบคุณคนบ้านหนองบัวที่มาพูดช่วยผมด้วยครับบ้านเราไม่ทิ้งกัน

โดยเจ้าของคลิปซึ่งเป็นนักเรียนชายอายุ 18 ปี ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ในขณะเกิดเหตุกำลังไปซื้อยาให้พ่อ ก็มีรถกระบะคันดังกล่าวที่ขับตามหลังมา แล้วขับแซงมาจอดข้างหน้า คนขับที่ลงมาก็เป็นหลวงพ่อที่ชาวบ้านนับถือแล้วก็เป็นอย่างที่เห็นในคลิป โดยหลังจากที่ตนได้โพสต์คลิปดังกล่าวลงเฟสบุ๊คได้มีชาวบ้านหลายคนมาหาตนและบอกให้ลบคลิปจะให้เงิน 2 พันบาท แต่ตนไม่ได้สนใจและไม่คิดจะลบ ชาวบ้านก็ยังมาพูดอีกว่าระวังนะ หลวงพ่อเขานักเลงเก่า

เด็กหนุ่มจึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ทำให้ได้ทราบว่า พระรูปดังกล่าว คือ พระประยูร บุริสีโร อายุ 54 ปี บวชมาแล้ว 15 พรรษา เป็นพระลูกวัดอยู่ที่บ้านโนนจำปา ต.เป็นสุข จ.สุรินทร์ จึงให้ร้อยเวรติดต่อเรียกตัวมาเพื่อพูดคุยกับคู่กรณี แล้วก็ดำเนินการตามกฎหมาย เช่นพิจารณาในเรื่องของการขับรถ ว่าขับรถประมาณหวาดเสียวหรือไม่ ก่อความเดือดร้อนรำคาญหรือเปล่า ส่วนในเรื่องเมานั้นต้องพิจารณาดูอีกทีว่า จนป่านนี้แล้วจะตรวจแอลกอฮอล์เจอหรือไม่ ต้องพิจารณาตามหลักฐานอีกทีหนึ่ง

ทั้งนี้ พระประยูร เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุยอมรับว่าขับรถไปเอง เพราะหาคนขับรถไม่ได้ ขับรถพาเจ้าอาวาสวัดซึ่งเป็นเจ้าคณะตำบลกระหาด และยังรักษาการเจ้าคณะ ต.เป็นสุข เพื่อเดินทางไปหาญาติโยมที่บ้านหนองบัว ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอาตมา เพื่อนำรายชื่อญาติโยมมาจัดทำผ้าป่า 

ในขณะที่ขับรถ กลับถึงที่เกิดเหตุก็มีวัยรุ่นขี่ รถจยย. ข้างหน้าในลักษณะตั้งใจขับปาดเพื่อก่อกวนรถของอาตมา พอแซงได้จึงขับไปจอดข้างหน้าหวังว่าจะลงไปตักเตือนว่าขับขี่แบบนี้ไม่ดีและอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ และคนอื่นอาจเดือดร้อนด้วยได้ จึงมีการโต้เถียงกันดังในคลิปที่เป็นข่าว

ส่วนเรื่องเมาแล้วขับเป็นไปไม่ได้เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจแอลกอฮอร์อาตมาแล้วก็ไม่พบว่าดื่มสุรา ทั้งเจ้าอาวาสก็อยู่ในรถขณะนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร

อ้างอิงข้อมูลจาก - Thirayu Lamprasert , INN