ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

ชัยชนะแห่งแผ่นดินไทย!! ครบรอบ ๔๙ ปี ในหลวงร.๙ เสด็จทรงเปิด "พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ฉลองชัยชนะในสงครามยุทธหัตถี!!

           เนื่องในวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๑ เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีเปิดพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี จนถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า ๔๙ ปี 

ชัยชนะแห่งแผ่นดินไทย!! ครบรอบ ๔๙ ปี ในหลวงร.๙ เสด็จทรงเปิด "พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ฉลองชัยชนะในสงครามยุทธหัตถี!!

          พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ ตั้งอยู่ที่ ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบด้วยพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงพระคชาธารออกศึก และองค์เจดีย์ยุทธหัตถี สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงสร้างเจดีย์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามยุทธหัตถีที่ทรงมีต่อพระมหาอุปราชาแห่งพม่า เมื่อเดือนมกราคม ปี พ.ศ. ๒๑๓๕ และในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ กองทัพบกได้บูรณปฏิสังขรณ์องค์เจดีย์ขึ้นใหม่ โดยสร้างเป็นเจดีย์แบบลังกาทรงกลมใหญ่ สูง ๖๖ เมตร ฐานกว้างด้านละ ๓๖ เมตร ครอบเจดีย์องค์เดิมไว้

 

ชัยชนะแห่งแผ่นดินไทย!! ครบรอบ ๔๙ ปี ในหลวงร.๙ เสด็จทรงเปิด "พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ฉลองชัยชนะในสงครามยุทธหัตถี!!

          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปประกอบพิธีบวงสรวงและเปิดพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๐๒ ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ ๒๕ มกราคม ของทุกปี เป็นวันถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ พร้อมกันนั้นทางจังหวัดได้จัดให้มีงานเฉลิมฉลองพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ทุกปี เลยจากเจดีย์ไปประมาณ ๑๐๐ เมตร เป็นที่ตั้งของ พระตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในมีรูปปั้นของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระสุพรรณกัลยา มีผู้นิยมไปสักการบูชาอยู่เสมอ

ชัยชนะแห่งแผ่นดินไทย!! ครบรอบ ๔๙ ปี ในหลวงร.๙ เสด็จทรงเปิด "พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ฉลองชัยชนะในสงครามยุทธหัตถี!!

ชัยชนะแห่งแผ่นดินไทย!! ครบรอบ ๔๙ ปี ในหลวงร.๙ เสด็จทรงเปิด "พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ฉลองชัยชนะในสงครามยุทธหัตถี!!

         นอกจากนี้ จากเหตุการณ์ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงทำสงครามยุทธหัตถีจนได้รับชัยชนะเหนือข้าศึก ได้มีการถกเถียงของนักวิชาการ เดิมนั้นกระทรวงกลาโหมได้กำหนดให้วันที่ ๘ เมษายนของทุกปี เป็นวันกองทัพไทย ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้เปลี่ยนโดยให้ถือเอาวันที่ ๒๕ มกราคม เป็นวันกองทัพไทย ตามมติของคณะรัฐมนตรีในสมัยนั้น ตามการคำนวณของ นายฉันทิชย์ กระแสสินธุ์ คำนวณได้ตรงกับวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๑๓๕ (พ.ศ.ISO ๒๑๓๖) ซึ่งเชื่อว่าเป็นการคำนวณที่ไม่ถูกต้อง

          ต่อมาราวปี พ.ศ. ๒๕๓๕ - ๒๕๓๘ นักคำนวณปฏิทินที่สำคัญ ได้แก่ นายประเสริฐ ณ นคร ราชบัณฑิต, นายสุชาติ เผือกสกนธ์ เลขาธิการมูลนิธิพระดาบ และ นายลอย ชุนพงษ์ทอง ที่ปรึกษาการคำนวณปฏิทินสำนักพระราชวัง และสหวิทยาการแห่งราชบัณฑิตสภา ได้ตรวจสอบและลงความเห็นตรงกันว่า วันที่ทรงกระทำยุทธหัตถีนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้ตรงกับวันที่ ๒๕ มกราคม แต่น่าจะตรงกับวันที่ ๑๘ มกราคม ปีดังกล่าว ทางราชการยังคงถือเอาวันที่ ๒๕ มกราคม เป็นวันกองทัพไทยต่อไป จนกระทั่งวันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทยจากวันที่ ๒๕ มกราคม ของทุกปีเป็นวันที่ ๑๘ มกราคม ของทุกปี และอนุมัติให้เป็นวันหยุดราชการของกระทรวงกลาโหม

          อนึ่ง ม.ล.ปิ่น มาลากุล เป็นท่านแรก ที่คำนวณไว้ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๙ ว่าตรงกับ ๒๕ มกราคม แต่ทางกองทัพไม่ทราบเรื่อง จึงมิได้นำไปใช้ นายลอย ชุนพงษ์ทอง ได้อธิบายสาเหตุที่คำนวณผิด ในการประชุมทางวิชาการปฏิทินไทย เชิงดาราศาสตร์ จัดโดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐ ว่า น่าจะเกิดจากนับจำนวนวัน ถอยหลังจากวันเถลิงศกของปีนั้น ซึ่งใน ค.ศ.๑๕๙๓ นั้น ตรงกับวันที่ ๙ เมษายน แต่เข้าใจผิดว่า วันเถลิงศกตรงกับวันที่ ๑๕ เมษายน เหมือน พ.ศ. ๒๕๒๒ ที่คำนวณ ประกอบกับ ค่ำกำเนิดของวันเถลิงศกตามหลักสุริยยาตร์ ตรงกับขึ้น ๘ ค่ำ แต่ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และหลักปฏิทินไทย ควรเป็นขึ้น ๙ ค่ำ เมื่อตามนับถอยหลัง จึงทำให้วันทีได้ช้าไป ๗ วัน กลายเป็น ๒๕ มกราคม อาจกล่าวอีกอย่างว่า แทนที่จะนับถอยหลังจาก ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๕ ของวันที่ ๙ เมษายน ก็นับจาก ๘ ค่ำ เดือน ๕ ของวันที่๑๕ เมษายน จึงผิด ๒ ต่อ รวมกันได้ ๗ วัน

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ ชมรมคนรักพระมหากษัตริย์ของชาติไทย

                           https://th.wikipedia.org/wiki/วันกองทัพไทย