- 31 ม.ค. 2561
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
เมื่อกล่าวถึงพระเถระและพระมหาเถระในภาคใต้ ของประเทศไทย ในจำนวนหลายรูปนั้น มีพระมหาเถระรูปหนึ่งคือ พระครูใบฎีกาคล้อย ฐานธมฺโม หรือหลวงพ่อคล้อย ซึ่งมีศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ให้ความเคารพเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก อันสืบเนื่องด้วยศีลาจริยวัตร การปฏิบัติอันงดงามตามสมณะวิสัยของหลวงพ่อ ประกอบด้วยหลวงพ่อมีเมตตาจิตแก่บุคคลทั่วไป ทุกเพศทุกวัย ไม่เลือกชั้น วรรณะ หรือ ยากดีมีจน หลวงพ่อให้โอกาสและความเสมอภาคเสมอเหมือนกันหมด จึงยังความปลาบปลื้มเป็นความปิติยินดี สร้างความอิ่นใจ ความเบิกบานใจ ทั้งความสุขใจให้บังเกิดกับบุคคลทั้งหลายและคณะศรัทธาญาติโยมต่างๆ ที่ได้ไปกราบนมัสการขอความเมตตาจากหลวงพ่อ นับได้ว่าหลวงพ่อคล้อย ฐานธมฺโม เป็นพระผู้ปฏิบัติดี พระผู้ปฏิบัติชอบ พระผู้ปฏิบัติตรง ควรแก่การกราบไหว้เคารพบูชาได้อย่างสนิทใจ
หลวงพ่อคล้อย ฐานธัมโม วัดถ้ำเขาเงิน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับกล่าวขานจากบรรดาลูกศิษย์ลูกหาว่ารอบรู้ในสรรพวิชาต่าง ๆ โดยเฉพาะหลักการเจริญวิปัสสนากรรมฐานและพุทธเวท เนื่องจากท่านเป็นศิษย์ในสายเขาอ้อ จ.พัทลุง และหลังจากที่ท่านละสังขารแล้ว เกิดปาฏิหาริย์สังขารไม่เน่าเปื่อย ท่านเป็นพระเกจิ อาจารย์ที่ได้รับกล่าวขานจากบรรดาลูกศิษย์ลูกหาว่ารอบรู้ในสรรพวิชาต่าง ๆ โดยเฉพาะหลักการเจริญวิปัสสนากรรมฐานและพุทธเวท เนื่องจากท่านเป็นศิษย์ในสายเขาอ้อ จ.พัทลุง ในปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านหลายรุ่น ได้รับความนิยมจากนักสะสมเป็นอย่างมาก เช่น เครื่องรูปเหมือนหลวงพ่อแดง พุทโธ เหรียญกรมหลวงชุมพร ฯ ปี ๒๕๑๑ เหรีนญรุ่นแรกหลวงพ่อคล้อย พระกำแพง นิ้วพิมพ์ใหญ่เนื่อว่าน ปี ๒๕๑๑ พระปิดตามหาลาภองค์จ้อยเนื้อผงเกสร ปี ๒๕๓๓ เป็นต้น
ท่านเป็นชาวหลังสวนโดยกำเนิด มีนามเดิมว่า นายคล้อย ทองเสมียน เป็นบุตรของนายพุ่ม และนางแจ้ม ทองเสมียน เกิดเมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๔๖๓ ที่บ้านปากลา ตำบลขันเงิน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร มีพี่น้องทั้งหมด ๕ คน อุปสมบทที่วัดเขาเงินเมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๐๔ ขณะอายุได้ ๔๑ ปี มีหลวงพ่อจันทร์ โกสโล วัดขันเงิน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์ซุ่ม ติกจปัญโญ เป็นพระกรรมวาจารย์ ได้รับฉายา ว่า "ฐานธัมโม" ท่านได้มุ่งมั่นในด้านปฎิบัติวิปัสสนา และสนใจศึกษาพระเวทวิทยาคม หากรู้ว่ามีพระอาจารย์ที่เก่ง ๆ อยู่ที่ใดก็จะไปฝากตัวเป็นศิษย์ ทั้งได้ศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ที่สายเขาอ้อ หลายท่าน อาทิพระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง หลวงพ่อแดง วัดแหลมสอ และพระครูอาทรธรรมวัตร วัดปากสระ ฯลฯ ท่านยังได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากตำรับตำราของหลวงพ่อแดง พุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาเงิน ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยเดียวกับกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
หลวงพ่อคล้อยปฏิบัติศาสนกิจด้วยดีตลอดมา ท่านเป็นพระขยันหมั่นเพียรในการศึกษาเล่าเรียน มีขันติธรรมอย่างสูง เมื่อศึกษาปริยัติธรรมสำเร็จนักธรรมชั้นเอกแล้ว แม้ว่าหลวงพ่อไม่ได้ศึกษาต่ออีกก็ตาม แต่ด้วยความขยันหมั่นเพียร หลวงพ่อพยายามศึกษาด้วยตนเองในภูมิธรรมที่สูงขึ้นและเน้นด้านภาวนาปฏิบัติกรรมฐาน อันเป็นแนวทางพัฒนาจิตขึ้นวิปัสนา นอกจากนั้นหลวงพ่อคล้อยได้ศึกษาด้านพุทธาคม และด้านยาสมุนไพร จากพระครูอาทรธมฺวตฺเพิ่มเติมอีก จนมีความรู้ความสามารถทุกๆ ด้าน เมื่อมีความชำนาญพอสมควรทั้งในด้านสมาธิภาวนา หลวงพ่อคล้อยได้ขออนุญาตท่านพระอาจารย์พระเดชพระคุณพระธรรมจารีมุนีวงศาจารย์ เพื่อออกธุดงควัตรต่อไป ก็ได้รับอนุญาตและน้อมรับพระโอวาทแนวทางปฏิบัติจากท่านพระอาจารย์ด้วยความเมตตา
หลวงพ่อคล้อย หลังกราบลาท่านพระอาจารย์แล้ว ได้ออกไปศึกษาบำเพ็ญกัมมัฏฐานภาวนาในสำนักวัดท้าวโคตร จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเวลา ๑ พรรษา หลังจากนั้นได้ไปศึกษาปฏิบัติภาวนาในสำนักวัดถ้ำไสใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีพระอาจารย์เลื่อนเป็นเจ้าสำนักเป็นเวลา ๒ พรรษา เมื่อเห็นว่าพอสมควรแล้ว จึงกราบลาพระอาจารย์ออกธุดงค์ต่อไป โดยไปพำนักภาวนาอยู่ที่ถ้ำพระ อำเภอนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยร่วมกับพระภิกษุพล ซึ่งเป็นสหธรรมิก เมื่อเห็นว่าเป็นการสมควรแก่เวลาแล้ว หลังจากนั้นหลวงพ่อคล้อยได้ออกธุดงค์ต่อไปอีกโดยพำนักอยู่ที่ตอนล่างของแม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นระยะเวลาหนึ่ง แล้วท่านได้เดินทางธุดงค์ไปจนถึงจังหวัดกระบี่ ได้พบพระอาจารย์สุมล ศึกษาแนวทางปฏิบัติซึ่งกันและกันเป็นเวลา ๒ เดือน เมื่ออกจากสำนักพระอาจารย์สุมลแล้วท่านได้ไปศึกษาปฏิบัติกับพระอาจารย์เด้ง ซึ่งเป็นเจ้าสำนักวัดถ้ำหอม จังหวัดนครศรีธรรราช เป็นเวลา ๑ พรรษา เมื่อออกจากที่นี้แล้วท่านได้จาริกแสวงบุญต่อไปอีกจนถึงจังหวัดพังงา ผ่านจังหวัดพังงาไปถึงอำเภอตะกั่วป่า ที่ใดมีปัปปานะก็ปักกรดบำเพ็ญเพียรภาวนาเป๋นแห่งๆไป เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาอันเหมาะสมตามที่ได้อธิษฐานไว้แล้ว ท่านก็จาริกต่อไปจนถึงจังหวัดภูเก็ต ได้เข้าศึกษาปฏิบัติที่สำนักวัดสุขารามกับพระอาจารย์นิลเป็นระยะเวลาประมาณ ๓ เดือน ระยะนี้ท่านมีความเขาใจในภูมิธรรมที่สูงขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ดี จึงได้กราบลาพระอาจารย์เจ้าสำนัก เพื่อกลับวัดขันเงิน อำเภอหลังสวน กลับมาปฏิบัติกิจวัตรและปฏิบัติพระอาจารย์ต่อมา
หลวงพ่อคล้อยท่านมีชื่อเสียงทางด้านการเป่าทองเข้าตัว โดยท่านเป่าทองคำเปลวหนา ๙ แผ่น โดยไม่ต้องแกะแผ่นทองหายไปกับตา เป็นสิ่งที่หลายคนได้ประจักษ์ในพุทธคุณด้านเมตตามหานิยมมาแล้ว จนกระทั่งเมื่อวัน ศุกร์ ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๓๙ ท่านก็ละสังขารไปอย่างสงบ ปัจจุบันศพของท่านไม่เน่าเปื่อยตั้งบูชาไว้ที่วัดถ้ำเขาเงิน คงเหลือไว้เพียงคุณงามความดี และวัตถุมงคลอันทรงคุณค่า ซึ่งมากด้วยพุทธคุณสูงส่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ วัดถ้ำเขาเงิน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร