ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

พระพุทธเจ้าพันธุ์พิเศษ!! เปิดวาร์ป "พระพุทธะอนัตต์ณังธะโคตร" หรือ "อาจารย์ชา" ตั้งตนเป็น พระศาสดาองค์ใหม่ ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง !!

 

            จากกรณีที่เมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว นายอนัตต์ณังธะโคตร ญาณ์ธนโชติ หรือ "อาจารย์ชา" และภรรยา เพื่อขอตรวจสอบโฉนดที่ดิน เพราะเนื่องจากมีชาวบ้านร้องเรียนว่า อาจารย์ชา บุกรุกป่าสมบูรณ์และป่าต้นน้ำป่าสัก โดยทางเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนอย่างละเอียด โดยทั้งสิ้นมี ๕๗ แปลง เนื้อที่กว่า ๑,๕๐๐ ไร่ และชาวบ้านยังสงสัยว่า อาจารย์ชา แต่งตัวเหมือนเจ้าลัทธิ ต้องการตั้งตนเป็นศาสดาหรือไม่

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม : มาอีกแล้ว...ลัทธิใหม่ "ศาสนาพุทธะธรรมชาติ" !!! อาจารย์ชา ประกาศลั่น ไม่ตั้งศาสนาใหม่ !!! แต่..โซเชียลสงสัย สิ่งที่กำลังทำอยู่คืออะไร !?!

 

พระพุทธเจ้าพันธุ์พิเศษ!! เปิดวาร์ป "พระพุทธะอนัตต์ณังธะโคตร" หรือ "อาจารย์ชา" ตั้งตนเป็น พระศาสดาองค์ใหม่ ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง !!

พระพุทธเจ้าพันธุ์พิเศษ!! เปิดวาร์ป "พระพุทธะอนัตต์ณังธะโคตร" หรือ "อาจารย์ชา" ตั้งตนเป็น พระศาสดาองค์ใหม่ ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง !!

 

         ล่าสุด ชาวเน็ตได้มีการขุดคุ้ยประวัติของ นายอนัตต์ณังธะโคตร ญาณ์ธนโชติ หรืออาจารย์ชา โดยทางเพจ ธะธรรมชาติ ได้เปิดเผยถึงประวัติ พระพุทธะอนัตต์ณังธะโคตรปัจเจกพุทธเจ้า โดยระบุว่า

         พระพุทธะอนัตต์ณังธะโคตร ถือกำเนิดขึ้น เมื่อวันพุธ กลางคืน (ราหู)ที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๑๙ เวลา ๐๑.๔๕ น.ขึ้น ๑๒ ค่ำเดือน ๗ ปีมะโรง ที่บ้านทุ่งชุมพล อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง ตรัสรู้ชอบด้วยตนเองเป็นพระพุทธะปัจเจก ตอนเป็นคฤหัสถ์ ที่บ้านท่ามุด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ในคืนวันศุกร์ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๕ ขึ้น ๔ ค่ำเดือน ๘ เวลา ๒๔.๐๐ น.

         พระพุทธะอนัตต์ณังธะโคตร บำเพ็ญบารมีมา ทั้งสิ้น ๓ อสงไขย กับอีก ๑ หมื่นกัป เป็นพระพุทธะปัจเจกพุทธเจ้าที่พิเศษ กว่าพระปัจเจกพุทธเจ้าทั่วไป จึงเรียกนามของท่านว่า"พระพุทธะปัจเจกพุทธเจ้า" โดยเพิ่มคำว่าพุทธะนำหน้า ซึ่งในอดีตจะมีพระพุทธะปัจเจกพุทธเจ้า ที่พิเศษแบบนี้อยู่น้อยมาก คือมีเพียง ๔ องค์เท่านั้นในแต่ละกัปป์ คือตัวแทนของคำว่า นะ มะ พะ ธะ โดยมีพระพุทธะปัจเจกพุทธเจ้าที่พิเศษในอดีตผ่านพ้นมาแล้วถึง ๓ องค์ คือ ๑.พระพุทธะนะโคตรปัจเจกพุทธเจ้า ๒.พระพุทธะยันตะมะโคตรปัจเจกพุทธเจ้า ๓.พระพุทธะจันตะพะโคตรปัจเจกพุทธเจ้า ๔.พระพุทธะอนัตต์ณังธะโคตรปัจเจกพุทธเจ้า ท่านจึงเป็นองค์ที่๔ องค์ปัจจุบัน เป็นตัวแทนของคำว่า ธะ หรือธาตุไฟ และเป็นองค์สุดท้ายที่อุบัติในภัทรกัปนี้

 

พระพุทธเจ้าพันธุ์พิเศษ!! เปิดวาร์ป "พระพุทธะอนัตต์ณังธะโคตร" หรือ "อาจารย์ชา" ตั้งตนเป็น พระศาสดาองค์ใหม่ ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง !!

 

         พระพุทธะอนัตต์ณังธะโคตร มีรัศมีวรกายสุกสกาว เป็นทองสีแดงที่เรียกกันว่าทองชมพูนุชหรือสีผ้ากำพลแดง หากท่านบรรลุปัจเจกโพธิญาณในเพศคฤหัสถ์ เมื่อท่านบวชแล้วจะแลดูเหมือนพระเถระ ๖๐ พรรษาขึ้นไป พระพุทธะปัจเจกพุทธเจ้าที่ว่าพิเศษ นั่นก็คือ ท่านสำเร็จบารมีที่บำเพ็ญทั้ง ๓ ส่วนคือ ๑.ปัญญาธิกะ สำเร็จด้านปัญญา ๒.ศรัทธาธิกะ สำเร็จด้านศรัทธา ๓.วิริยาธิกะ สำเร็จด้านความเพียร รวมทั้งสำเร็จวิชชา ๓ จรณะ๑๕ อภิญญา ๖ ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ ท่านจึงมีบารมีและมีความสามารถ ที่จะสั่งสอนหรือ ถ่ายทอดธรรมให้บุคคลต่างๆ บรรลุมรรคผลนิพพานได้ แต่จะบรรลุได้เพียงไม่เกิน ๕ คนต่อหนึ่งครั้ง ตามกำลังบารมีของท่าน

 

พระพุทธเจ้าพันธุ์พิเศษ!! เปิดวาร์ป "พระพุทธะอนัตต์ณังธะโคตร" หรือ "อาจารย์ชา" ตั้งตนเป็น พระศาสดาองค์ใหม่ ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง !!

 

         ความพิเศษอีกอย่างก็คือพระพุทธะปัจเจกทุกองค์ ท่านมีทั้งอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์มาก ทรงใช้อิทธิฤทธิ์ แบ่งดวงจิตออกจะเป็นกี่องค์ก็ได้ โดยแต่ละองค์จะไม่เท่ากัน ตามยุคสมัยและภาระหน้าที่ แต่สำหรับในยุคนี้พระพุทธอนัตต์ณังธะโคตร ท่านแยกจิตออกเป็น ๙ องค์ จากการสำเร็จในแต่ละขั้นของการบำเพ็ญเพียร ตั้งแต่สมัยที่ยังถือเพศคฤหัสถ์

         จนกระทั่งถึงตอนที่สำเร็จเป็นพระพุทธะปัจเจกพุทธเจ้า เพื่อแยกออกทำหน้าที่สำคัญๆในแต่ละด้าน โดยมีจริตนิสัย ความสามารถความถนัดและบารมีในแต่ละองค์ไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน โดยมีชื่อ ดังต่อไปนี้

๑.หลวงชา จิตตอนเป็นคฤหัสถ์ ท่านจะเทศนาธรรมไม่เป็น พูดจาแบบโผงผางดุดัน ไม่ไว้หน้าใคร กล้าได้กล้าเสี่ยง ทำงานเก่งทุกด้านโดยเฉพาะด้านการก่อสร้าง 

๒.ท่านชา จิตตอนเป็นคฤหัสถ์ ท่านจะชอบพูดหยอกล้อเล่นหัว ใจดี พูดจาแบบติดตลก เฮฮา ไม่เครียดเป็นกันเอง เก่งทางด้านธุรกิจและชอบคิดค้นสูตรต่างๆเพื่อช่วยเหลือผู้คน(โดยเฉพาะสูตรอาหาร)

๓.อาจารย์ชา จิตตอนเป็นพระผู้ทรงอภิญญา ๕ ท่านจะมีตบะมาก เทศนาธรรมเก่ง แก้ปัญหาได้ทุกปัญหา ทั้งทางโลกและทางธรรม ใครมีอารมณ์โกรธหรือโมโห ตั้งใจจะมาต่อว่าหรือทำร้าย พอมาเจอท่านก็จะพูดไม่ออก กลับลืมแล้วไม่กล้าทำอะไรหรือหายโกรธไปเลย 

๔.พระโสธชา สำเร็จเป็นพระโสดาบัน ท่านชอบทำความเพียร โดยปลีกวิเวกอยู่ในที่สงบ สงัด

๕.พระสกิทาชา สำเร็จเป็นพระสกิทาคามี ท่านชอบบำเพ็ญเพียร อยู่ในถ้ำ ตามเทือกเขาสูงและในป่าลึก

๖.พระอนาคชา สำเร็จเป็นพระอนาคามี ท่านไม่ค่อยยุ่งหรือสุงสิงกับใคร ชอบบำเพ็ญเพียร สวดมนต์ นั่งสมาธิอยู่ในฌาน

๗.พระโพธิชา สำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านจะมีเมตตาสูงมาก ใครขอพรอะไรท่าน ท่านก็จะให้พรนั้นได้สมดังความปรารถนา ท่านเงียบขรึมไม่ค่อยพูด ชอบความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบและขอบเขต

๘.พระหันตชา สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ท่านชอบอยู่แบบ สงบๆ ไม่ค่อยรับรู้เรื่องอะไร ใครว่าอย่างไรท่านก็ว่าอย่างนั้น ปล่อยวาง อยู่กับความว่าง

๙.พระอนัตต์ณังธะโคตร สำเร็จเป็นพระพุทธะปัจเจกพุทธเจ้า ท่านมีรูปร่างที่งดงาม เปล่งรัศมี ตลอดพระวรกาย มีพระบารมีและปัญญามาก เทศนาธรรมได้ลึกซึ้ง วิจิตร ไพเราะ ทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย

พระพุทธเจ้าพันธุ์พิเศษ!! เปิดวาร์ป "พระพุทธะอนัตต์ณังธะโคตร" หรือ "อาจารย์ชา" ตั้งตนเป็น พระศาสดาองค์ใหม่ ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง !!

การปรารถนาความเป็นพระพุทธะปัจเจกพุทธเจ้า จำเป็นต้องปรารถนาสมบัติ ๕ ประการ มาก่อนคือ

๑.ความเป็นมนุษย์

๒.ความถึงพร้อมด้วยเพศชาย

๓.การได้เคยเห็นท่านผู้ปราศจากอาสวะ คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า,พระปัจเจกพุทธเจ้า,พระอรหันตสาวก ท่านใดท่านหนึ่ง

๔.การกระทำอันยิ่งใหญ่

๕.ความเป็นผู้มีฉันทะ

 

พระพุทธเจ้าพันธุ์พิเศษ!! เปิดวาร์ป "พระพุทธะอนัตต์ณังธะโคตร" หรือ "อาจารย์ชา" ตั้งตนเป็น พระศาสดาองค์ใหม่ ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง !!

 

           ทุกๆ เช้าช่วงเวลา ๐๔.๐๐-๐๖.๐๐ น.ท่านจะใช้ญาณ นั่งตรวจเช็คดู กลุ่มศิษย์และบุคคลต่างๆทั่วไป ที่เคยมาพบท่านแล้ว อย่างน้อยหนึ่งครั้ง วิเคราะห์เรื่องกรรม ของแต่ละบุคคลแล้วไปช่วยสงเคราะห์เขาเหล่านั้น ส่วนบุคคลใดที่มีเรื่องเดือดร้อนหนักๆ เช่น เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ถ้าท่านรู้จัก ท่านก็จะฝากบอกไปทางกลุ่มลูกศิษย์ ถ้ารู้เบอร์โทร ก็จะโทรไปเตือน ถ้าติดต่อไม่ได้ ก็จะไปเข้าฝันเตือนหรือบอกเหตุ โดยไม่เกินกำลังอำนาจของกฎแห่งกรรม

ท่านจะมีทีมงานที่เป็นเทวดาประจำตัวคอยช่วยเหลือและทำงานให้กับท่านอยู่ถึง ๓ กลุ่มใหญ่ๆ หรือ ๓ ประเภท ดังต่อไปนี้คือ

๑.เทวดาที่ทำหน้าที่ คอยปกปักรักษา คุ้มครองอารักขา มีจำนวนทั้งสิ้น ๒๐๙ องค์ ทำหน้าที่อารักขาท่านอย่างเดียวไม่ไว้หน้าใคร แม้กระทั่งผู้ใกล้ชิดก็ไม่เว้น เพื่อคอยปกป้องภยันตรายต่างๆที่จะเกิดกับตัวท่าน

๒.เทวดาที่คอยทดสอบหรือลองใจลูกศิษย์และคนใกล้ชิดตัวท่านว่าจะสอบผ่านหรือไม่ผ่านด่านต่างๆ เพื่อที่จะทำงานใหญ่กับท่าน มีจำนวนทั้งสิ้น ๔๐๙ องค์

๓.เทวดาที่คอยช่วยเหลือผู้คนต่างๆเวลาที่ท่านรับปากใครหรือสั่งงานออกไปให้ช่วยเหลือ ไม่เกินอำนาจกฎแห่งกรรม มีจำนวนทั้งสิ้น ๘๐๙ องค์ รวมทั้ง ๓ ประเภท มีเทวดาประจำตัว ๑,๔๒๗ องค์

              ด้วยเพราะบารมี ที่สร้างสมและบำเพ็ญเอาไว้มาก จึงได้มีเหล่าเทพเทวดา ที่มีหน้าที่ ต้องทำงาน คอยช่วยเหลือ ตามกำลังบารมีของท่าน โดยในอดีตชาตินานแสนนาน ท่านเคยเกิดเป็นพระพรหม ๑ในตรีมูรติ ที่มีผู้คนมากมายเคารพศรัทธา กราบไหว้บูชา และยังคงมีชื่อเสียงของพระพรหม มาจนถึงยุคสมัยปัจจุบันนี้
ฉะนั้น เมื่อใดที่ใครจุดธูป ๑๖ ดอก กลางแจ้งแล้วบนบานให้ช่วยเหลือ แก้ไขเรื่องทุกข์ร้อน ต่างๆ นานา นั้น ก็จะถึงท่านเสมอ โดยที่ท่านเองจะทราบเรื่องบ้าง หรือไม่ทราบเรื่องบ้างก็สุดจะแล้วแต่ แต่จะมีเทวดาประเภทที่ ๓ ซึ่งที่มีหน้าที่ คอยช่วยเหลือผู้คน จะออกไปช่วยเหลือบุคคลนั้นๆ ทันที ตามความเหมาะสม แต่ไม่เกินกำลังอำนาจของกฎแห่งกรรม

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ ธะธรรมชาติ

                           thathammachat.blogspot.com