- 03 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
ประวัติความเป็นมา
มูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ถึงแม้ว่ามูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกฯ มีอายุครบ 45 ปีแล้วในปี 2556 แต่คนทั่วไป ก็ยังไม่ค่อยรู้จักมูลนิธิฯ เท่าไรนัก บางคนเคยได้ยินชื่อ แต่คิดว่าเป็นหน่วยงานหนึ่งขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก หลายคนคงอยากรู้และมีคำถามต่าง ๆ เกี่ยวกับมูลนิธิฯ เราก็ขอถือโอกาสนี้เล่าให้ท่านทั้งหลายฟัง
มูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกฯ เริ่มก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในรูปของสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2511 มีชื่อย่อว่า ส.ค.ท. ผู้ริเริ่มก่อตั้งได้แก่ท่านผู้หญิงจงกล กิตติขจร เมื่อครั้งติดตามจอมพลถนอม กิตติขจร ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดไปเยี่ยมเยียนทหารที่ออกปฏิบัติหน้าที่ตามชายแดน ท่านผู้หญิงจงกลเห็นและเข้าใจความทุกข์ยากลำบากใจของทหารเหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นห่วงครอบครัวที่อยู่แนวหลัง ทั้งความเป็นอยู่และรายได้ของครอบครัว ยิ่งถ้าเป็นผู้นำครอบครัวต้องเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ พิการทุพพลภาพ ครอบครัวจะลำบากมากขึ้น นี่จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกขึ้นเพื่อช่วยเขาเหล่านั้น
ภายหลังเปลี่ยนชื่อมาเป็น มูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ชื่อย่อว่า มสคท. และได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2517 มสคท. จึงมีฐานะเป็นนิติบุคคลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีหม่อมเจ้าหญิงดวงทิพโชติ์ อาภากร ทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิฯ และมีกรรมการ ประกอบด้วยรองประธาน กรรมการจัดการ เลขานุการ เหรัญญิก และกรรมการฝ่ายต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 30 คน มีกรรมการจัดการเป็นผู้ประสานใน
การบริหารงานของทุกฝ่ายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์แห่งตราสารของมูลนิธิฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2520มูลนิธิฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงรับมูลนิธิฯ ไว้ในพระราชูปถัมภ์ตามที่คณะกรรมการขอพระราชทาน
ส่วนวิธีการที่จะหาทุนคณะกรรมการสโมสรฯ ได้เห็นว่าในต่างประเทศถือดอกป๊อปปี้เป็นดอกไม้ของทหารผ่านศึก เนื่องจากเป็นดอกไม้สีแดงที่ขึ้นในบริเวณหลุมฝังศพทหารในสมรภูมิฟลานเดอร์สในยุโรป สีแดงของดอกไม้จึงเปรียบเสมือนสีเลือดของทหารที่ได้หลั่งลงบนสมรภูมินั้น จึงได้คิดทำดอกป๊อปปี้ประดิษฐ์ออกจำหน่ายในวันที่ระลึกของทหารผ่านศึกในประเทศไทย ซึ่งตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ทุกปีและเป็นการหาทุนเพียงปีละครั้งเดียวเท่านั้น
ใครบ้างที่มาช่วยทำดอกป๊อปปี้
เริ่มแรกถึงปัจจุบันคนที่มาช่วยทำดอกป๊อปปี้ได้แก่ภรรยาข้าราชการทหาร ตำรวจ และพลเรือนที่เป็นอาสาสมัครสโมสรฯในอดีตและมูลนิธิฯในปัจจุบันมาช่วยกันทำดอกป๊อปปี้ทุกวันอังคาร บางคนก็รับงานไปทำที่บ้าน แล้วนำกลับมาส่งในสัปดาห์ต่อไป แต่ที่สำคัญที่สุดคือ มสคท.ได้ให้ครอบครัวทหารผ่านศึกรับดอกไม้ไปทำ โดยคิดค่าจ้างให้เป็นรายดอกซึ่งปีหนึ่ง ๆ จะมีครอบครัวทหารผ่านศึกมารับดอกไม้ไปทำเป็นจำนวนมาก ทำให้ครอบครัวมีรายได้พิเศษเพิ่มขึ้น ก็ถือว่าเป็นการสงเคราะห์ที่ให้แก่ครอบครัวทหารผ่านศึกโดยตรงทีเดียว
อาสาสมัครของมสคท. จะมาร่วมกันทำดอกป๊อปปี้สำหรับเตรียมไว้จำหน่ายในแต่ละปี เป็นการทำงานล่วงหน้าหลังจากหมดเทศกาลดอกป๊อปปี้บานในเดือนกุมภาพันธ์ พอประมาณเดือนมีนาคมก็เริ่มทำไปจนกระทั่งถึงวันออกจำหน่ายในปีถัดไป ดอกป๊อปปี้ที่ทำก็มีหลายแบบ เป็นดอกเดี่ยว ๆ บ้าง แบบเข้าช่อก็มีทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ทำใส่กระถางหรือแจกันเล็ก ๆ แบบน่ารัก ๆ ก็มี
สมเด็จย่า ทรงนำดอกป๊อปปี้ไปจำหน่ายด้วยพระองค์เอง
เป็นเรื่องน่าปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งสำหรับกรรมการและอาสาสมัครทุกคนของมสคท. ก็คือการที่
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี องค์อุปถัมภ์ของมูลนิธิฯ ได้มีน้ำพระทัยเมตตาทรงนำดอกป๊อปปี้ไปจำหน่ายด้วยพระองค์เองทุกปี ทุกครั้งที่เสด็จไปทรงเยี่ยมราษฎรตามต่างจังหวัดก็มิได้ทรงละเว้น ที่จะทรงนำดอกไม้ไปจำหน่ายด้วย แม้แต่ในปีสุดท้ายที่ทรงประชวรและประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ก็รับสั่งให้มูลนิธิฯ ส่งดอกป๊อปปี้ไปถวายเพื่อทรงจำหน่ายแก่แพทย์และพยาบาลรวมทั้งประชาชนที่ผ่านไปมาด้วย
ทุกครั้งจะมีเงินจากการทรงจำหน่ายมาพระราชทานแก่มูลนิธิฯ เป็นจำนวนมาก ซึ่งเราทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
"จงช่วยเหลือทหารผ่านศึกเพื่อให้เขาช่วยเหลือตัวเองให้ได้"
ช่วยกันอุดหนุนดอกป๊อปปี้ เพื่อทหารผ่านศึกกัน ปีละครั้งเท่านั้น เงินทุกบาททุกสต่างค์จะได้ไปสู่ทหารกล้าที่เคยปกป้องบ้านเมืองไทยของเรา
ข้อมูลจาก http://ffwv.or.th