- 07 ก.พ. 2561
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
ในช่วงที่หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม พำนักอยู่ทางภาคเหนือได้มีผู้มาฟังธรรมด้วยจำนวนมาก รวมทั้งที่มาฝากตัวเป็นศิษย์ขอแนวปฏิบัติกรรมฐานก็มีเยอะ ในปีที่หลวงปู่จำพรรษาที่วัดป่าดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ในวันหนึ่งได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งเดินทางมาจากภาคใต้ ตั้งใจมาขอเป็นศิษย์เรียนกรรมฐานกับหลวงปู่ พระภิกษุรูปนั้นก็คือ "พระอาจารย์ประยุทธ ธมฺมยุตฺโต" แห่งสำนักวัดป่าผาลาด จังหวัดกาญจนบุรี ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว เป็นพระป่าที่มีชื่อเสียงมากองค์หนึ่ง ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีงามน่าเลื่อมใสมาก หลังจากการเผาศพของท่านแล้ว อัฐิท่านได้กลายเป็นพระธาตุ ท่านได้รับฉายาว่าพระอรหันต์ผู้มีอดีตเป็นขุนโจรอิสไมล์แอ
ญาติโยมที่ได้มีโอกาสกราบคารวะหรือปฏิบัติธรรมหลายท่านยืนยันตรงกันว่า "เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ท่านบอกให้รู้ว่า วัดป่าผาลาดจะเป็นสถานที่มรณะของท่าน และท่านจะมรณภาพในปี พ.ศ. ๒๕๒๒" แสดงว่าท่านรู้วันตายล่วงหน้าถึง ๓ ปี เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์จริงๆ
ก่อนที่ท่านจะมรณภาพท่านก็ปฏิบัติเหมือนเดิม คือเมื่อเข้าทำกรรมฐานก็จะสั่งญาติโยมที่เคยใส่บาตรว่า ไม่ต้องเตรียมอาหารบิณฑบาตสำหรับท่าน เพราะจะเข้ากรรมฐาน ออกจากกรรมฐานเมื่อไหร่จะบอก ซึ่งชาวบ้านถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ท่านปฏิบัติเช่นนี้ประจำ
ช่วงแรกท่านเข้ากรรมฐานอยู่ ๗ วัน จึงถอนออกจากสมาธิ เมื่อฉันอาหารบิณฑบาตอยู่ ๒-๓ วัน แล้วท่านก็เข้าทำกรรมฐานอีก จนเวลาผ่านไป ๗ วัน ลูกชายของโยมอุปัฏฐากที่คอยดูแลท่านมาที่กุฏิ ปรากฏว่าที่พื้นซีเมนต์ใต้ถุนกุฏิมีน้ำไหลนองมีกลิ่นเหม็น ดูแล้วว่าเป็นน้ำเหลืองที่ไหลออกมาตรงกับที่ท่านนั่งกรรมฐานพอดี จึงขึ้นไปเปิดประตูกุฏิดูให้แน่ใจ ก็พบว่าท่านนั่งสมาธิอยู่ แต่สบงจีวรเปียกชุ่ม ร่างกายขึ้นอืดบวม จึงรู้ว่าท่านมรณภาพในสมาธิเสียแล้ว
ไม่มีใครรู้ว่าภายใน ๗ วัน ที่ท่านนั่งกรรมฐาน ท่านได้หมดลมปราณวันไหน เวลาเท่าไหร่ ชาวบ้านจึงได้มาช่วยกันจัดการซากอสุภะของท่าน และได้โทรเลขไปแจ้งน้องสาวของท่าน ญาติพี่น้องเห็นว่าการฌาปนกิจท่านที่วัดป่าผาลาดลำบากยุ่งยาก เพราะอยู่บนภูเขาขึ้นลงไม่สะดวก จึงรับศพท่านเข้ากรุงเทพฯ ไว้ที่วัดมะกอก ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลพระมงกุฎ บำเพ็ญกุศลอยู่ ๓ วัน จึงได้ประชุมเพลิง
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.dharma-gateway.com