- 08 ก.พ. 2561
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
หลวงปู่นาค พระเกจิดัง วัดกรุณา (ดอนเสือ) ละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ สิริอายุ ๙๔ ปี ๕ เดือน พรรษา ๖๕ ท่านเป็นหนึ่งในพระสงฆ์ที่ร่วมสวดชยันโต เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จฯ เปิดเขื่อนเจ้าพระยา เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๐
เมื่อเวลา ๒๐.๒๙ น. เมื่อวานนี้ (๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑) พระครูพิศิษฎ์ชัยคุณ (คม.กิตติมศักดิ์) โกวิโท นาโคภิกขุ (หลวงปู่นาค) เจ้าอาวาสวัดกรุณา หรือ วัดดอนเสือ ละสังขารอย่างสงบ ด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลสรรพยา โดยมีพระพระสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท ญาติโยม พร้อมศิษยานุศิษย์ ทยอยเข้ากราบสักการะสังขาร ทั้งนี้ มีกำหนดประกอบพิธีถวายน้ำสรงอาบศพ (พระราชทาน) ในวันศุกร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ ณ วัดกรุณา
หลวงปู่นาค เป็นหนึ่งในพระสงฆ์ที่ร่วมสวดชยันโต ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จฯเปิดเขื่อนเจ้าพระยา เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๐ ซึ่งเมื่อวานนี้เป็นวันครบรอบ ๖๐ ปีเขื่อนเจ้าพระยาด้วย สำหรับวัตถุมงคลของหลวงปู่นาค ที่มีชื่อเสียงคือ พญาเต่าเรือน เชื่อว่าใครมีไว้จะทำให้มีโชคลาภ แคล้วคลาด ปลอดภัย
สำหรับหลวงปู่นาคเดิมชื่อ บุญนาค เทพเนียม เกิดเมื่อ ๑๐ กันยายน พ.ศ.๒๔๖๗ ที่จังหวัดชัยนาท มีโยมพ่อชื่อ หิงก์ (เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเฟื่อง วัดสรรพยาเกจิขลังรุ่นราวคราวเดียวกับหลวงปู่ศุขแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า) มีโยมแม่ชื่อซิว สกุลเทพเนียม มีพี่น้องร่วมอุทร ๕ คน หลวงปู่เป็นลูกคนที่๒ แต่เป็นบุตรชายคนโต ครอบครัวมีอาชีพเผาถ่าน ในวัยเด็กได้เรียนหนังสือจบชั้นประถมปีที่ ๓ ที่โรงเรียนวัดท่าไม้ อ.เมือง จ.ชัยนาท หลังจากนั้นไม่นานโยมพ่อและโยมแม่ได้นำท่านไปฝากเรียนกับหลวงพ่อเทียบ เจ้าอาวาสวัดตลุก โดยบวชเป็นสามเณรอยู่กับหลวงพ่อทรัพย์
เนื่องจากโยมยายนั้นมีความใกล้ชิดกับวัดนี้ โดยยายของท่านเป็นศิษย์หลวงพ่ออ่ำและหลวงพ่อบุญ อดีตเจ้าอาวาสและพระเกจิขลังของวัด โดยหลวงพ่อบุญนี่เองที่เป็นผู้สอนคาถาปัญญาดีแก่โยมยายของท่านและโยมยายได้ถ่ายทอดให้ท่านเป็นลำดับถัดมา และด้วยเหตุที่โยมยายไปถือศีลที่วัดนี้อยู่เป็นประจำ โยมแม่ของท่านเลยได้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อบุญด้วย ทำให้ได้พบและสนิทกับหลวงพ่อโม วัดจันทนารามซึ่งมาเรียนวิชาและรับจ้างหลวงปู่บุญแปลคัมภีร์ใบลานจากภาษาขอมแล้วมาจารเป็นภาษาไทยในราคาผูกละหนึ่งสลึง โดยโยมแม่ของหลวงปู่นาคเรียกหลวงพ่อโมว่าหลวงพี่
พอบวชเป็นสามเณรอยู่ได้ไม่นาน ก็มีเหตุที่ทำให้ชีวิตของท่านต้องหักเห เมื่อสามเณรหวิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันเกิดอิจฉาสามเณรนาคซึ่งเป็นที่โปรดปรานของหลวงพ่อเทียบ เจ้าอาวาส โดยหลวงพ่อเทียบได้เมตตาท่านเป็นพิเศษถึงกับให้คาถาอาคม ไหนจะหลวงพ่อทรัพย์อีกก็เป็นเช่นเดียวกัน ทำไมมีแต่คนเอ็นดูสามเณรนาค สามเณรหวิงจึงแกล้งนำเอาต้นสลอดมาบดเป็นผงแอบใส่ในอาหารให้สามเณรนาคฉันจนถ่ายท้องอย่างหนัก ต่อมามีเพื่อนสามเณรด้วยกันมาฟ้องสามเณรนาคว่าเป็นฝีมือของสามเณรหวิง ทำให้สามเณรนาคถึงกับเบรกแตกระงับอารมณ์ไม่อยู่ กระโดดเข้าชกสามเณรหวิงทันที ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่พระอาจารย์ผู้สอนนักธรรมของวัดตลุกมาเห็นพอดี ท่านจึงห้ามให้หยุด แต่ไม่มีฝ่ายใดยอมหยุด
ในที่สุดกระโถนจึงถูกขว้างไปกลางวงต่อสู้ ทำให้สามเณรนาคหนีไปหาเพื่อนสามเณรด้วยกันที่ชื่อสนิท อยู่ที่วัดสรรพยาฯซึ่งไม่ไกลกันนัก แล้วทั้งสองก็พากันหนีไปเที่ยววัดจันทนารามของหลวงพ่อโมซึ่งกำลังมีงานผูกพัทธสีมา ทำให้สามเณรนาคได้มีโอกาสพบหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ซึ่งมาเป็นประธานในงานนี้ด้วย แต่เหมือนชะตาฟ้ายังแกล้ง เพราะขณะเดียวกันท่านก็เจอหลวงพ่อเทียบ วัดตลุก พระอาจารย์ของท่านที่มาในงานนี้เช่นกัน โดยหลวงพ่อเทียบร้องทักขึ้นมาทันทีว่าเณรนาคหนีเรียนมาเที่ยวรึ ทำให้สามเณรนาคถึงกับต้องรีบเผ่นออกจากวัดจันทนารามทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกหลวงพ่อเทียบลงโทษ เมื่อหนีไปแล้วจึงสึกและกลับบ้าน
ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ หลวงปู่นาค โกวิโท วัดดอนเสือ
ขอบคุณภาพจาก : เฟสบุ๊ค หลวงปู่นาค วัดกรุณา