- 08 ก.พ. 2561
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
เป็นที่พบเห็นกันเสมอว่าผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไม่ว่าพระหรือฆราวาส ของที่เกี่ยวเนื่องกับสังขารท่านเช่น ผม เล็บ หรือกระดูกจะสามารถแปรเป็นพระธาตุได้ ในหลายกรณีพบว่าในส่วนของเกศานั้นมักแปรสภาพได้ตั้งแต่สมัยที่บุคคลท่านนั้นยังมีชีวิตอยู่
การแปรสภาพของเส้นผมตลอดจนส่วนอื่นๆนั้นเป็นระดับของบุคคลที่บรรลุธรรมชั้นพระอนาคามีและพระอรหันต์ ทั้งนี้ต้องเป็นพระอริยะเจ้าที่ชำนาญในฌานหรือเป็นที่รักของเหล่าเทวดาและบางท่านอาจตั้งจิตอธิษฐานเอาไว้ให้ธาตุของตนเป็นพระธาตุเพื่อเป็นที่สักการะของมนุษย์และเทวดาเป็นไปเพื่อให้เกิดกุศลทำให้ผู้กราบไหว้ได้บุญเป็นทุนไปสู่สุคติภพ การแปรสภาพของเส้นเกศามีหลายลักษณะได้แก่ แปรโดยเข้ามารวมกันจนเป็นก้อนกลม แปรโดยเส้นเกศาขย่งตัวมาเกาะกันแล้วเกิดเป็นเม็ดพระธาตุขึ้นมา และเกิดพระธาตุเสด็จลงมาในเส้นเกศาที่เก็บไว้
ดังเช่น พระอาจารย์อาคม จิตตสังวโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดทุ่งพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งท่านเป็นพระนักวิปัสสนากรรมฐานสายหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี เกศาหรือผมได้กลายเป็นพระธาตุ โดยปกติเมื่อพระอาจารย์อาคมจะปลงผมนั้น ท่านจะเก็บผมไว้ทุกครั้ง สืบเนื่องจากเมื่อครั้งก่อนที่จะบวช ท่านสนใจในเรื่องของวิปัสสนากรรมฐาน และได้เดินทางไปศึกษาและปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี เมื่อบวชก็ได้เกิดฌานพิเศษบอกว่า ทุกครั้งที่ปลงผมให้เก็บผมไว้ทุกครั้ง มิเช่นนั้นจะเกิดโทษ จึงได้เก็บไว้ทุกครั้ง และในครั้งนี้ เมื่อท่านปลงผมแล้วได้นำไปทำความสะอาด และได้นำไปตากแดดไว้ และเมื่อกลับมาดู ก็เกิดเหตุอัศจรรย์ ผมของพระอาจารย์อาคมได้เกิดการรวมตัวกันเป็นก้อนกลมๆ หลายร้อยก้อน ซึ่งเหตุอัศจรรย์นี้จะเกิดกับพระสงฆ์ที่มีฌานพิเศษจากการวิปัสสนากรรมฐาน
นอกจากนี้เมื่อไม่นาน ท่านมีแนวคิดที่จะบูรณะ พระอุโบสถของวัดทุ่งพระที่มีอายุกว่า 40 ปีแล้ว และสภาพเสื่อมโทรม ชำรุด เสียหายมากตามกาลเวลา ซึ่งเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติกิจของสงฆ์ ท่านจึงมีแนวคิดที่จะบูรณะพระอุโบสถ โดยจะนำเกศาธาตุมอบให้กับญาติโยม เพื่อจะได้ร่วมกันทำบุญในการบูรณะพระอุโบสถของวัดทุ่งพระแห่งนี้ต่อไป
สำหรับสาเหตุที่พระธาตุเกิดจากการแปรของสังขารถือว่าเป็นธาตุที่บริสุทธิ์ และถือว่าเป็นธาตุที่ได้ซึมซาบพลังบริสุทธิธรรมอันเกิดจากอำนาจทางด้านสมถะคืออำนาจจากฌาน ๑ ถึงฌาน ๔ บางกรณีพระอริยะเจ้าบางท่านยังสามารถเจริญไปถึงอรูปฌาน และสิ่งสำคัญคือ อำนาจฝ่ายปัญญาวิมุตติอำนาจจากพลังแห่งวิปัสสนาที่เพ่งเพียรแผดเผาค้นคว้าหาทางแก้ไขอวิชชาจนสามารถถอดถอนกิเลสน้อยใหญ่ได้ทั้งปวง อำนาจจากสองฝ่ายนี้เมื่อซึมซาบลงไปในส่วนกายสังขารนอกจากทำให้สังขารเปลี่ยนแปลงยังทำให้ธาตุในส่วนนั้นๆ กลายเป็นวัตถุที่มีพลังเหนือโลก สามารถส่งรัศมีคุ้มครองหรือเสริมสร้างสิริมงคลแก่ผู้เลื่อมใสศรัทธาตลอดจนบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
ซึ่งอริยะธาตุหรือพระธาตุเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีพลังเย็นเกื้อกูลในการปฏิบัติธรรม ผู้ที่ได้เห็นได้กราบไหว้ย่อมเกิดแรงบันดาลใจในการหยุดทำความชั่ว อยากสร้างการกุศล ตลอดจนถึงมีกำลังใจในการปฏิบัติให้ถึงวิมุตติธรรมชั้นสูง ทั้งยังมีแรงดึงดูดที่จะนำพาให้พระธาตุองค์อื่นๆจากสถานที่ต่างๆ มาเสด็จอยู่รวมกันอีกด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเเติม : ปาฏิหาริย์ในพระพุทธศาสนา เส้นเกศาแปรเป็นพระธาตุ!! จิตอันทรงพลัง ฟอกกิเลสได้ก็ฟอกสังขารได้เช่นกัน บูชาพระธาตุพระอริยะมงคลยิ่งแก่ตน
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : มติชน (https://www.matichon.co.th/news/833254 ), ทิพยจักร