ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ https://www.facebook.com/partiharn99/

เพียง ๑-๓ พรรษาแรก ที่หลวงปู่มั่นออกบวช ณ วัดเลียบ แม้จะเพิ่งบวชได้ไม่เท่าไหร่ แต่ท่านก็ถือเป็นพระหนุ่มที่มุ่งหน้าบำเพ็ญธรรมเจริญสมถวิปัสสนาอย่างเต็มที่โดยใช้คำบริกรรม “พุทโธ” เป็นองค์ภาวนา

ในคืนหนึ่ง หลวงปู่มั่นได้ฝัน แต่ฝันนี้พิเศษเพราะเป็น “สุบินนิมิต” ซึ่งเป็นปริศนาธรรม  ท่านอธิบายภาวะในขณะฝันที่ยังมีสติตามรู้ความฝันว่า

“การหลับของเราในขณะนั้นก็เหมือนจะตื่น เพราะต้องกำหนดจิตให้มีสติไว้เสมอๆ ... เราฝันไปว่า  เราเดินออกจากบ้านไปตามหนทาง แล้วก็เข้าสู่ป่าที่รกชัฏ มีทั้งหนามและไม้รกรุงรัง  เราเดินผ่านป่านั้นเรื่อยไปก็ได้พบกับต้นชาดต้นหนึ่งที่ล้มตาย มีกิ่งก้านผุไปหมด  เราก็ขึ้นบนขอนไม้ชาดที่ล้มนั้น ปรากฏว่าเป็นขอนไม้ที่ใหญ่โตมากทีเดียว  ขึ้นไปบนขอนไม้ชาดแล้วจึงสังเกตดูก็รู้ว่าเป็นต้นชาดที่ตายสนิท ไม่มีทางจะงอกงามขึ้นมาได้อีก  มองไปข้างหน้าเป็นทุ่งเวิ้งว้าง ปลอดโปร่งกว่าทางที่ผ่านมา  ขณะนั้นปรากฏว่า มีม้าขาวตัวหนึ่งวิ่งมาจากไหนไม่ทราบ แล้วก็เข้ามาเทียบข้างขอนไม้ที่เรากำลังยืนอยู่นั้น  เราก็ขึ้นบนหลังม้าขาวนั้นทันที ม้าก็พาวิ่งห้อเต็มเหยียดไปกลางทุ่ง  พอสุดทุ่งก็พอดีพบตู้พระไตรปิฎกตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้า ม้าก็ได้หยุดลงตรงนั้นพอดี  แต่มิได้เปิดตู้พระไตรปิฎกก็พอดีรู้สึกตัวตื่นขึ้นเสียก่อน”

เผยนิมิต...สุดอัศจรรย์ "หลวงปู่มั่น" แม้บวชไปเพียงไม่กี่พรรษา แต่ลางบอกเหตุว่า "บรรลุธรรรม" แน่..ในชาตินี้ !!!

สุบินนิมิตนี้เป็นปริศนาธรรมบอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยแทนความหมายดังนี้

บ้าน
เรือนอาศัยของคน  บ้านในที่นี้จึงหมายถึงเพศฆราวาสหรือปุถุชนทั่วไปที่ยังคงก้มหน้าก้มตาใช้ชีวิตแบบไม่รู้ทิศทางในสังสารวัฏ

ออกจากบ้าน
การสละจากเพศฆราวาสแล้วออกบวชเพื่อแสวงหาเส้นทางดับทุกข์

เดินอยู่ในป่ารกชัฏ
ออกเดินทางแล้ว แต่ไปไม่ถูกทาง จึงเต็มไปด้วยความยากลำบาก

ขอนไม้ล้มตาย
ประโยคนี้มี ๒ ความหมายรวมกัน คือ  “ขอนไม้” หมายถึงสังขารของมนุษย์ในชาตินี้  ส่วน “ล้มตาย” หมายถึงไม่มีเชื้อให้สืบสายเกิดวงศ์วานในชาติหน้า ภพมนุษย์นี้เป็นภพสุดท้าย เพราะขาดเชื้อกรรมเป็นแดนเกิด  นั่นก็คือ หลวงปู่มั่นสามารถเดินบนเส้นทางการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องจนพ้นทุกข์ได้

ทุ่งว่างเป็นทางปลอดโปร่ง
ทุกอย่างจะดำเนินการปฏิบัติได้โดยไม่ลำบากนัก

ม้า
วิริยะที่ลงในมรรค หรือวิริยะที่เป็นธรรมะ เกิดขึ้นเองจากใจรัก โดยมิได้บีบบังคับ

ม้าสีขาว
การเดินทางไปสู่ความบริสุทธิ์อย่างรวดเร็ว

ตู้พระไตรปิฎก
การสำเร็จธรรมะขั้นสูง แตกฉานในธรรม เข้าถึงปฏิสัมภิทาญาณ

เปิดตู้พระไตรปิฎกไม่ได้
สำเร็จปฏิสัมภิทานุศาสน์ สามารถอบรมพุทธบริษัท ๔ ให้รู้ธรรม

เผยนิมิต...สุดอัศจรรย์ "หลวงปู่มั่น" แม้บวชไปเพียงไม่กี่พรรษา แต่ลางบอกเหตุว่า "บรรลุธรรรม" แน่..ในชาตินี้ !!!

หลวงปู่มั่นพิจารณาสุบินนิมิตอันเป็นปริศนาธรรมบอกเหตุด้วยความใคร่ครวญละเอียดรอบคอบ ทำให้แน่ใจว่าจะบรรลุธรรมในชาติภพนี้แน่นอน  เพียงแต่ไม่ถึง “ปฏิสัมภิทาญาณ” ซึ่งมีองค์ประกอบ ๔ ประการ ดังนี้

๑. อัตถปฏิสัมภิทาญาณ  คือ  ปรีชาแตกฉานในอรรถ หรือเนื้อความ หรือคำอธิบาย หรือผลประโยชน์

๒. ธัมมปฏิสัมภิทาญาณ  คือ  ปรีชาแตกฉานในธรรม หรือหัวข้อธรรม หรือหลักธรรม หรือเหตุปัจจัย

๓. นิรุตติปฏิสัมภิทาญาณ  คือ  ปรีชาแตกฉานในภาษาที่พูดกันในหมู่ชน รู้คำสูงต่ำหนักเบา รู้ความหมายของคำ ฉลาดในการเลือกใช้คำพูดให้ได้ความกะทัดรัด ไพเราะสละสลวย

๔. ปฏิภาณปฏิสัมภิทาญาณ  คือ  ปรีชาแตกฉานในการกล่าวธรรมด้วยปฏิภาณ หรือมีไหวพริบทันคนในการโต้ตอบ ปริวรรตเทศนาไปตามจริตอัธยาศัยของผู้ฟัง

แม้หลวงปู่มั่นจะรู้ตัวเองว่าเป็นหนึ่งในอรหันต์ผู้เต็มเปี่ยมด้วยบารมีปรีชาญาณในการอบรมสั่งสอนให้ผู้อื่นบรรลุธรรม แต่ท่านก็ถ่อมตัวและบอกอยู่เสมอว่า เพียงสอนผู้อื่นได้บ้างเท่านั้น

หลังเหตุการณ์สุบินนิมิตทำให้หลวงปู่มั่นหันมาสังเกตทบทวนภาวะของสมาธิจิตที่ผ่านมา พบว่าเน้นความสงบเป็นใหญ่  มันรู้สึกสบายก็จริง แต่ไม่เกิดปัญญา ไม่มีอะไรมากกว่านี้ และยังหวั่นไหวไปตามกิเลสอยู่  ท่านจึงเปลี่ยนมาจับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในกายโดยใช้ฐานกายเป็นอารมณ์ พิจารณา “กายคตาสติ” อย่างหนัก โดยใช้จิตกำหนดทุกอณูของร่างกายในทุกอิริยาบถทั้งเดิน ยืน นั่ง และนอน เพื่อให้เกิดความเบื่อหน่าย  บางครั้งขณะเดินจงกรมก็ปรากฏว่ากำลังเดินเหยียบบนซากศพคนตายที่นอนเรียงราย  ท่านกล่าวแบบถ่อมตัวว่า

“ฝึกแบบนี้นานหลายเดือน ค่อยเกิดปัญญาขึ้นบ้าง”

ท่านเจ้าคุณอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสโส) ได้ตั้งข้อสังเกตว่า  แม้หลวงปู่มั่นจะถ่อมตัว แต่บารมีที่สั่งสมในระหว่างบำเพ็ญโพธิญาณก็มีมาก  แม้จะไม่เต็มเปี่ยม แต่หลวงปู่มั่นก็เข้าถึง “ไตรวิธญาณ” คือ สามารถกำหนดรู้จิต นิสัย วาสนา ของผู้อื่นและเทวดา  เมื่อรวมเข้ากับ “ปฏิสัมภิทานุศาสน์” จึงสามารถอบรมให้ศิษย์จำนวนมากบรรลุอรหันต์เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่เต็มไปด้วยคุณวิเศษทางธรรมและเป็นเนื้อนาบุญของโลก

เผยนิมิต...สุดอัศจรรย์ "หลวงปู่มั่น" แม้บวชไปเพียงไม่กี่พรรษา แต่ลางบอกเหตุว่า "บรรลุธรรรม" แน่..ในชาตินี้ !!!

คัดลอก จากหนังสือ  วินาทีบรรลุธรรม อรหันต์มีจริง เล่ม1 โดยเธียรนันท์