ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ https://www.facebook.com/partiharn99/

ในพระประวัติของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์หลายแห่ง ไม่ค่อยพบเรื่องราวความผูกพันทางไสยเวทระหว่างเสด็จเตี่ยกับหลวงพ่ออี๋ พุทธสโร วัดสัตหีบมากนัก ทั้งๆ ที่หลวงพ่อใกล้ชิดกับพระองค์มากกว่าพระเกจิอาจารย์รูปอื่น นายกัน ก็ได้รับการยกย่องว่า เป็นจอมอาคม หลวงพ่ออี๋ ก็เป็นเกจิจอมอาคม ทั้งพระองค์ก็สนพระทัยอาคม มีการฝึกและแลกเปลี่ยน ถ่ายทอดอาคมต่อกัน ตามแบบคนเล่นของในยุคนั้น

ศึกอาคม...กลางทะเล !!! "ตากัน" ร้อนวิชา...ใช้อาคมสะกดเรือให้แล่นไม่ได้ !!! แต่ดันเล่นผิดที่...สะกดเรือรบกองทัพ "กรมหลวงชุมพรฯ"

ในขณะนั้นพื้นที่สัตหีบยังคงสภาพป่าเป็นส่วนใหญ่ มีสัตว์ป่าชุกชุม ทั้งชนิดไม่ดุร้าย เช่น ไก่ป่า เก้ง กวาง และสัตว์ ดุร้าย เช่น เสือ และหมี ชาวบ้านจึงอาศัยอยู่ไม่ห่างไกลหมู่บ้านสัตหีบมากนักคงมีเพียงครอบครัวเดียวที่อยู่ไกลข้ามเขาแหลมเทียน อยู่ลึก ถึงอ่าวทุ่งไก่เตี้ย ได้แก่ ครอบครัวของ นายกัน สุขรุ่ง (ลุงกัน ตากัน หรือปู่กัน) ที่สัตหีบ จอมอาคมอย่าง "นายกัน สัตหีบ" มีส่วนสำคัญในการสำรวจพื้นที่สร้างฐานทัพเรือ และ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ซึ่งมีฐานะเป็นศิษย์ผู้น้องของนายกันอีกแรงหนึ่ง กล่าวได้ว่า พระเกจิอาจารย์ที่ใกล้ชิดเสด็จเตี่ยมากองค์หนึ่งก็คือ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ เพราะท่านเสด็จมาประทับ เสวย บรรทม ที่วัดสัตหีบหลายเวลา เพื่อตรวจดูสถานที่ตั้งกองทัพเรือ

หากกล่าวถึงนายกัน สลัดทะเลโหด สักหน่อย นายกันผู้นี้โด่งดังจนถึงกับตั้งเป็นชื่ออ่าวบริเวณสัตหีบว่า "อ่าวตากัน" อายุแก่กว่าหลวงพ่ออี๋ เคยบวชเรียน แต่ร้อนวิชา ลาสิกขาก่อน ปลูกกระต๊อบอยู่บนหน้าผาแห่งหนึ่ง (อ่าวตากัน) และร้อนวิชา จนสร้างความเดือดร้อนแก่นักเดินเรือทั่วไป

นายกัน หรือ ตากัน จะใช้วิชาอาคม "สะกดเรือ" ใหญ่ทุกลำที่แล่นเข้ามาในรัศมีด้วยพลังจิต ไม่ให้เรือแล่นต่อไป เครื่องหยุดเดิน แล้วตากันจะใช้ลูกศิษย์ นำเรือเทียบขอค่าผ่านทาง ผู้ใดไม่ให้ ก็จะแสดงปาฏิหาริย์ไม่ให้เรือแล่นต่อไป ถ้าผู้ใดให้ ก็จะทำให้เครื่องติด เดินทางไปได้อย่างอัศจรรย์ ชาวเรือหวาดกลัวกันมาก และแล้วตากันก็สำแดงเดชผิดที่ เพราะไปสะกดเอาเรือกองทัพเรือเข้า เรื่องจึงถึงเสด็จเตี่ย เกิดเป็น "ศึกอาคม ระหว่าง เสด็จเตี่ย กับ ตากัน"

เรื่องราวความกำแหง โหด ป่าเถื่อน ของตากัน เข้าถึงพระกรรณเสด็จเตี่ย ทรงกริ้วอย่างมาก ถึงกับเสด็จมาด้วยพระองค์เอง การปะทะกันด้วยอาคมจึงเกิดขึ้น วันนั้น ตากันนั่งอยู่ในกระท่อม พลันปรากฏมีฝูงผึ้งใหญ่ บินเข้าจะต่อยตีตากัน แต่ตากันก็เอาผ้าขาวม้าโบกพัด จนผึ้งตกลงมา กลายเป็นใบไม้ ตากันก็รู้ทันทีว่า เจอคนดีเข้าแล้ว ตากันปล่อยเสืออาคมเข้าใส่ เสด็จเตี่ยปล่อยควายธนูออกมา ต่างสู้กันฝุ่นตลบไม่แพ้ชนะ ผลสุดท้าย ตากันโยนผ้าขาวม้าสงบศึก เป็นพันธมิตร และกลายเป็นพระสหายต่างวัยกัน

ศึกอาคม...กลางทะเล !!! "ตากัน" ร้อนวิชา...ใช้อาคมสะกดเรือให้แล่นไม่ได้ !!! แต่ดันเล่นผิดที่...สะกดเรือรบกองทัพ "กรมหลวงชุมพรฯ"

ครั้งหนึ่งตากันเคยคุยโอ้อวดว่า ตนเคยลงไปเดินในทะเลเป็นครึ่งข่อนวัน เสด็จเตี่ยโปรดคนจริง จึงมีรับสั่งให้มัดตากันไว้ในกระสอบแล้วถ่วงในทะเลเป็นเวลา ๑ วัน เมื่อครบก็ดึงตากันขึ้นมาปรากฏว่าตากันนั่งอยู่ในท่าสมาธิ หัวเราะร่า แถมยังไม่เปียกเลยสักนิด เสด็จในกรมจึงตั้งชื่อให้อ่าวแห่งนั้นว่า "อ่าวตากัน" หรือ "อ่าวดงตาล" ในปัจจุบัน

ภายหลังเมื่อเสด็จต้องการสำรวจพื้นที่ สร้างกองทัพ ตากันได้มีส่วนร่วมรับใช้พระองค์ และย้ายมาอยู่บริเวณหลังตลาดสัตหีบ นี่คือที่มาของความผูกพันระหว่างเสด็จเตี่ย หลวงพ่ออี๋ และตากัน จอมอาคม

ศึกอาคม...กลางทะเล !!! "ตากัน" ร้อนวิชา...ใช้อาคมสะกดเรือให้แล่นไม่ได้ !!! แต่ดันเล่นผิดที่...สะกดเรือรบกองทัพ "กรมหลวงชุมพรฯ"

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ ศิษย์มีครู , http://palungjit.org