ติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ที่ www.tnews.co.th

หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม

หลวงพ่อแช่มและหลวงปู่เทเริ่มออกเดินทางจากวัดกลางบางแก้วไปยังสถานีรถไฟนครชัยศรี ซึ่งก็ไม่ทันขึ้นรถไฟจริงๆ ตามที่หลวงปู่บุญบอก

ทั้งหลวงพ่อแช่มและหลวงปู่เทจึงต้องเดินเท้าไปวัดตาก้อง เมื่อหลวงปู่เทถือของเดินตามหลวงพ่อแช่มไปได้สักพักแค่พอเหนื่อย ตะวันก็เริ่มจะลับของฟ้าลงไปเรื่อยๆ หลวงพ่อแช่มเลยบ่นออกมาว่า

"มัวแต่เดินแบบนี้คงจะมืดเสียก่อน"

หลวงพ่อแช่มเลยบอกให้หลวงปู่เทหลับตาเดิน ในใจหลวงปู่เทตอนนั้นก็งงว่า...

หลวงพ่อแช่มให้หลับตาเดิน เดี๋ยวก็สะดุดอะไรหกล้มน่ะสิ อีกอย่าง ลืมตาเดินยังจะไม่ทันตะวันจะลับฟ้าเลย หลวงพ่อแช่มยังจะให้หลับตาเดินอีก คงมืด จนไม่เห็นทางเสียก่อนถึงวัดตาก้องแน่

ระหว่างที่หลวงปู่เทกำลังคิดอยู่ในใจนั้น ดูเหมือนว่าหลวงพ่อแช่มท่านจะล่วงรู้ เพราะท่านหันมาบอกกับหลวงปู่เทว่า

"ไม่ต้องกลัวหกล้มหรอก เดี๋ยวฉันจะจูงเธอไป"

มัวแต่เดินแบบนี้คงจะมืดเสียก่อน "หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง"ให้หลวงปู่เทหลับตา อึดใจเดียวถึงวัดอย่างเหลือเชื่อ ตกดึก งูเห่า เสือโคร่ง เต็มกุฏิ.

พูดแล้วท่านก็บอกให้หลับตาอีก หลวงปู่เทจึงรีบหลับตาทันที ทันใดนั้นหลวงพ่อแช่มก็เอามือมาจับแขนหลวงปู่เท จูงเดินไป เพียงไม่นาน ท่านก็สั่งให้หยุด แล้วบอกให้ลืมตา พอหลวงปู่เทจึงลืมตาขึ้น ก็ปรากฏว่ามาถึงวัดตาก้องพอดีในขณะที่ตะวันกำลังลับขอบฟ้า

พอมาถึงกุฏิของหลวงพ่อแช่มซึ่งปลูกอยู่ข้างโบสถ์ แล้วก็ยิ่งงงเข้าไปอีก เพราะดูๆ สภาพแล้วไม่ใช่กุฏิอย่างกุฏิอื่นๆ แต่มันเป็นกระต๊อบชัดๆ ภายในกระต๊อบหลวงพ่อแช่มมีแคร่ไม้กระดานแผ่นใหญ่ กับข้าวของต่างๆ รกรุงรังเต็มไปหมด ด้านข้างแคร่มีทั้งเตาไฟ และหม้อหุงข้าว ข้างใต้แคร่เต็มไปด้วยของโดยมีทั้งขดเชือก และกองของที่เอาจีวรคลุมเอาไว้ ในใจตอนนั้นท่านเริ่มกังวลว่า คืนนี้ท่านจะไปนอนตรงไหน?

 

ทันใดนั้นหลวงพ่อแช่มก็เอ่ยปากบอกกับท่านว่า

"คืนนี้ให้นอนที่นี่"

บอกแล้ว หลวงพ่อแช่มก็หยิบเสื่อให้หลวงปู่เทปูนอนผืนหนึ่ง แล้วท่านก็บอกให้หลวงปู่เทไปอาบน้ำ เมื่อหลวงปู่เทอาบน้ำเสร็จกลับมาถึง หลวงพ่อแช่มก็เอาเสื่อมาปูไว้ให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ก่อนที่หลวงปู่เทจะล้มตัวลงนอน ท่านก็เห็นหลวงพ่อแช่มสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ หลวงปู่เทท่านก็ทำตาม

พอเสร็จแล้ว ก่อนนอนหลวงพ่อแช่มท่านก็สั่งไว้ว่า

"หากคืนนี้เห็นอะไรแปลกๆ ก็อย่าร้องเอะอะโวยวาย ให้ตั้งสติพิจารณา มันเป็นภาพลวงตา"

มัวแต่เดินแบบนี้คงจะมืดเสียก่อน "หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง"ให้หลวงปู่เทหลับตา อึดใจเดียวถึงวัดอย่างเหลือเชื่อ ตกดึก งูเห่า เสือโคร่ง เต็มกุฏิ.

สั่งแล้วท่านก็จำวัด หลวงปู่เทก็ล้มตัวลงนอนจนหลับไปนานเท่าไรไม่รู้ แต่พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ในท่านอนตะแคง มองออกไปนอกกระต๊อบก็เห็นหลวงพ่อแช่มเดินตะคุ่มๆ อยู่บนทางเดินแคบๆ ข้างกำแพงโบสถ์ ไม่รู้ว่าท่านลุกออกไปตอนไหน

ทันใดนั้นหลวงปู่เทก็ได้ยินเสียงกุกๆ กักๆ อยู่ด้านหลัง จึงพลิกตัวกลับมา แล้วก็ต้องตกตะลึงอยู่ท่ามกลางความมืด เพราะหลวงปู่เทท่านเห็น

เด็กแดงๆ นั่งอยู่บนแคร่ของหลวงพ่อ ส่วนใต้แคร่นั้นมีทั้ง แมงป่องยักษ์ งูเห่าหม้อตัวเขื่องกำลังชูคอแผ่แม่เบี้ย และเสือโคร่งนอนอยู่

หลวงปู่เทจึงเอามือขยี้ตา ซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ยังเห็นเหมือนเดิมอยู่ ท่านจึงเข้าสมาธิแล้วเพ่งดูจากตาใน สักพักจึงเห็นว่า...

เด็กแดงๆ นั่น ที่แท้ก็เป็นตุ๊กตากุมารทองที่วางอยู่บนแคร่ ส่วนใต้แคร่ที่เห็นเป็นแมงป่อง ก็คือเศษของต่างๆ และที่เห็นส่ายเป็นงู ก็คือกองเชือก ส่วนที่เห็นเป็นเสือ ก็คือกองของที่มีจีวรคลุม นั่นเอง

มัวแต่เดินแบบนี้คงจะมืดเสียก่อน "หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง"ให้หลวงปู่เทหลับตา อึดใจเดียวถึงวัดอย่างเหลือเชื่อ ตกดึก งูเห่า เสือโคร่ง เต็มกุฏิ.

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูล

Cr.SaRaN WiKi

คาถาครูพักลักจำ

เพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา