ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ https://www.facebook.com/partiharn99/

หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง พระคุณท่านเป็นผู้เปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาธรรมอันสูงส่ง ทรงไว้ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ใครมาเที่ยวเมืองภูเก็ตแล้วไม่ได้ไปสักการบูชาหลวงพ่อแช่ม ก็เหมือนกับไม่ได้ไปเยือนภูเก็ต เขาว่ากันอย่างนั้น  หลวงพ่อแช่ม (พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี) อดีตเจ้าอาวาสวัดฉลอง ภูเก็ต ถึงแม้พระคุณท่านจะได้มรณภาพไปนานแล้วก็ตาม ชื่อเสียงและเกียรติคุณของพระคุณท่านยังตรึงตราตรึงใจอยู่ในความทรงจำของชาวภูเก็ตและชาวไทยทั่วทุกภาค แม้แต่ประชาชนเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงยังให้ความเคารพเลื่อมใส ศรัทธายิ่ง ดุจดังเทพเจ้าผู้เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมอันสูงส่ง ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์นานัปการเมื่อครั้งพระคุณท่านมีชีวิตอยู่มีผู้ศรัทธาและเลื่อมใสท่านมาก ถึงขนาดรุมกันปิดทองที่ตัวท่านจนแลดูเหลืองอร่ามไปทั้งร่าง เฉกเช่นเดียวกับปิดทองพระพุทธรูปบูชา นับเป็นความแปลกประหลาดมหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง

"หลวงพ่อแช่ม" วัดฉลอง ภูเก็ต ท่านเกิดที่ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา เมื่อปีกุน พุทธศักราช ๒๓๗๐ ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) นามโยมบิดา-มารดาไม่ปรากฏในประวัติแม้แต่ "หลวงพ่อช่วง" วัดท่าฉลอง ศิษย์เอกของท่านก็ไม่สามารถให้รายละเอียดได้

หลวงพ่อยังอึ้ง !!! เปิดอุบาย "หลวงพ่อแช่ม" วัดฉลอง เมื่อมีหญิงสาว..บนบานว่า "ถ้าหายป่วยเมื่อใดจะไปปิดทองของลับหลวงพ่อแช่ม" !!!

หลวงพ่อแช่ม แห่งวัดฉลอง ท่านเป็นเกจิอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ของชาวภูเก็ต มีชีวิตอยู่ในช่วงรัชกาลที่ ๕ เหตุที่เป็นที่มีชื่อเสียง มาจากการเป็นศูนย์รวมใจของชาวภูเก็ตในการต่อสู้กับอั้งยี่ เนื่องจากในเวลานั้น ในภูเก็ตมีชาวจีนอพยพมาอาศัย และเป็นกรรมกรเหมืองดีบุกอยู่มาก และมีการรวมกลุ่มกันเป็นสมาคมต่างๆ เพื่อสงเคราะห์ชาวจีนด้วยกัน คุ้มครองผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง เรียกว่าอั้งยี่ มีรูปแบบตามอย่างอั้งยี่ในเมืองจีน แต่ไม่เกี่ยวข้องกัน นานวันเมื่อชาวจีนอพยพมามากขึ้น อั้งยี่แต่ละกลุ่มก็ขยายตัวออกไปด้วย เป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่พบมากในดินแดนคาบสมุทรมลายู ตั้งแต่ระนอง ภูเก็ต ไปจนถึงแดนบริติชมาลายา (แต่ในภาคกลางนั้น คำว่าอั้งยี่มักใช้ในทางลบเป็นหลัก คือหมายถึงกองโจรชาวจีนที่มักจะลอบค้าฝิ่น อันเป็นการผิดกฎหมาย มีการซ่องสุมกำลังเพื่อคุ้มครองการค้าฝิ่น รัฐบาลกรุงเทพฯ ต้องเสียกำลังไปปราบอยู่บ่อยครั้ง)

หลวงพ่อยังอึ้ง !!! เปิดอุบาย "หลวงพ่อแช่ม" วัดฉลอง เมื่อมีหญิงสาว..บนบานว่า "ถ้าหายป่วยเมื่อใดจะไปปิดทองของลับหลวงพ่อแช่ม" !!!

อั้งยี่แต่ละกลุ่มก็มักวิวาทต่อกัน ภายหลังภายในอั้งยี่ยังมีการแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า ความวุ่นวายเหล่านี้ทำให้รัฐบาลต้องให้อั้งยี่ต่างๆ มาจดทะเบียน โดยเริ่มจากอังกฤษก่อน ภายหลังไทยจึงรับมาใช้กับสมาคมจีนในปักษ์ใต้บ้าง ในหนังสือนิทานโบราณคดี ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เล่าเหตุที่หลวงพ่อแช่มโด่งดังขึ้นมาว่า

"เมื่อปี ๒๔๑๙ เกิดการกำเริบครั้งใหญ่ในภูเก็ตขึ้น เนื่องจากเกิดปัญหาราคาดีบุกตกต่ำ ทำให้กรรมกรจีนเกิดความขัดสนตามไปด้วย และไม่มีเงินพอจะจ่ายภาษีแก่ราชการตามปกติ กรรมกรจีนจึงรู้สึกชังทางราชการ ว่าเก็บภาษีให้เดือดร้อน ทั้งที่ตนก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว

ชนวนสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อพวกจีนวิวาทกับกะลาสีเรือรบ เมื่อโปลิศจับชาวจีนที่ทำร้ายกะลาสีได้ พวกจีนกลุ่มหนึ่งก็รวมตัวกันเป็นอั้งยี่เฉพาะกิจ (แบบเถื่อนๆ เฉพาะกิจ) จับอาวุธเข้าทำลายสถานีตำรวจ ไล่ปล้นบ้าน เผาวัดไทยให้ทั่วเกาะ และเตรียมเข้าโจมตีที่ทำการรัฐบาลสยามในตัวเมือง ฝ่ายรัฐบาลเองมีกำลังน้อยกว่า มิอาจยกออกไปปราบได้ ก็คอยป้องกันแต่เพียงตัวเมือง บนเกาะภูเก็ตยามนั้น คนไทยน้อยกว่าคนจีน คนไทยจึงพากันหนีขึ้นเขาหมด เหลือเพียงพ่อท่านแช่มแห่งบ้านฉลอง พ่อท่านแช่มนั้นก็ปลุกเสกผ้าประเจียดแจกจ่ายชาวบ้านฉลองที่ยังเหลือ ชาวบ้านเหล่านั้นก็ตั้งตนเป็นกองทัพตั้งที่วัดฉลอง และสามารถรบชนะพวกจีนได้ ภายหลังทางรัฐบาลได้ให้หัวหน้าอั้งยี่ที่ขึ้นทะเบียนกับรัฐ เรียกตัวพวกลูกน้องที่ร่วมกำเริบเป็นอั้งยี่เฉพาะกิจเหล่านั้นกลับเข้าอั้งยี่ปกติ ส่วนพวกที่ไม่กลับมาก็ถูกรัฐบาลปราบปรามจนสงบไปได้"

เรื่องนี้ทำให้หลวงพ่อแช่มมีชื่อเสียงขึ้นมา โดยเฉพาะในเรื่องพุทธาคม กลายเป็นเกจิอาจารย์ที่ชาวภูเก็ตนับถือ โด่งดังไปถึงปีนังอีกด้วย

หลวงพ่อยังอึ้ง !!! เปิดอุบาย "หลวงพ่อแช่ม" วัดฉลอง เมื่อมีหญิงสาว..บนบานว่า "ถ้าหายป่วยเมื่อใดจะไปปิดทองของลับหลวงพ่อแช่ม" !!!

ครั้งหนึ่ง มีผู้มาขอปิดทองที่หน้าแข้งหลวงพ่อแช่ม เพราะดันไปบนบานไว้กลางทะเลคลั่งว่าถ้ารอดชีวิตจะมาปิดทองหลวงพ่อ ตอนแรกหลวงพ่อก็ไม่ยอม เพราะไม่ใครเคยทำ แต่ก็เกรงว่าโยมนั้นจะเกิดอันตราย จึงยอม ตั้งแต่นั้นมาผู้คนก็พากันมาปิดทองหน้าแข้งหลวงพ่อแช่มกันโดยตลอด และเรื่องแปลกๆ ก็เกิดขึ้น...

เป็นที่ร่ำลือในหมู่ชาวภูเก็ตว่า มีเด็กสาวคนหนึ่งเจ็บป่วยอยู่ เกิดบนขึ้นมาว่า... ถ้าหายป่วยเมื่อใดจะไปปิดทองของลับหลวงพ่อแช่ม แล้วโรคของสาวนั้นก็หายสาวนั้นลืมเรื่องนั้นไปเสีย จนไม่นานนัก สาวผู้นั้นก็ดันป่วยขึ้นมาอีก ครั้งนี้ป่วยมาก หมอรักษาไม่หาย พ่อของนางจึงถามว่าไปบนอะไรมาหรือเปล่า ตอนแรกนางไม่บอก (ใครจะกล้าบอกล่ะจริงไหม) แต่เมื่ออาการเพียบแปล้ จึงยอมสารภาพว่าบนเรื่องปิดทองของลับหลวงพ่อ

เมื่อหลวงพ่อแช่มทราบเรื่องจากพ่อแม่ของนาง ตอนแรกหลวงพ่อแช่มคงจะอึ้งอยู่ไม่น้อย เพราะบนบานอย่างลามกแบบนั้น ใครจะเปิดสบงให้ปิดทองได้ แต่สุดท้ายด้วยเกรงอันตรายจะเกิดขึ้นแก่นาง หลวงพ่อจึงเกิดอุบายสมองใสขึ้นมา นำไม้เท้าสอดลงไปในสบง แล้วให้นางปิดทองที่ปลายไม้เท้านั้น โรคของนางก็หายไป

เรื่องนี้ กรมพระยาดำรงฯ ท่านก็ทรงทราบจากกรมการเมือง เมื่อทรงพบหลวงพ่อแช่ม จึงทรงถามว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่... พ่อท่านไม่ตอบ...ได้แต่ยิ้ม

กรมพระยาดำรงฯ จึงสรุปว่า

"เห็นจะเป็นเรื่องจริงดังเขาเล่า"

หลวงพ่อยังอึ้ง !!! เปิดอุบาย "หลวงพ่อแช่ม" วัดฉลอง เมื่อมีหญิงสาว..บนบานว่า "ถ้าหายป่วยเมื่อใดจะไปปิดทองของลับหลวงพ่อแช่ม" !!!

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ จับเข่าเล่าประวัติศาสตร์