เมตตาแห่งพระป่า!! "หลวงปู่ขาว" เทศน์สยบช้างใหญ่ เผย...ช้างไทยไม่ได้แค่ช่วยทหารออกรบ แต่ยังช่วยสอบอารมณ์กรรมฐานพระป่าอีกด้วย กราบสาธุ!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

เมตตาแห่งพระป่า!! "หลวงปู่ขาว" เทศน์สยบช้างใหญ่ เผย...ช้างไทยไม่ได้แค่ช่วยทหารออกรบ แต่ยังช่วยสอบอารมณ์กรรมฐานพระป่าอีกด้วย กราบสาธุ!!

 

           เนื่องในวันที่ ๑๓ มีนาคม เป็นวันช้างไทย ทางเพจ ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐาน ได้นำเสนอเรื่องราวของช้างป่ากับหลวงปู่ขาว อนาลโย ช้างไทยไม่ได้แค่ช่วยทหารไทยออกรบอย่างเดียวเท่านั้น ยังมาช่วยสอบอารมณ์กรรมฐานให้พระป่าอีกด้วย ...เมตตาพลานุภาพของพระป่า..!! "หลวงปู่ขาว" เทศน์สยบช้างใหญ่!! ไพเราะจับใจ...ช้างฟังยังเคลิ้ม

เมตตาแห่งพระป่า!! "หลวงปู่ขาว" เทศน์สยบช้างใหญ่ เผย...ช้างไทยไม่ได้แค่ช่วยทหารออกรบ แต่ยังช่วยสอบอารมณ์กรรมฐานพระป่าอีกด้วย กราบสาธุ!!

 

          คืนวันหนึ่งในพรรษา "หลวงปู่ขาว อนาลโย" กำลังนั่งภาวนาอยู่ในกุฏิเล็กๆ ขณะนั้นมี "ช้างใหญ่" ตัวหนึ่งเดินต้วมเตี้ยมเข้ามาในบริเวณด้านหลังกุฏิและตรงเข้ามาหาท่าน เผอิญว่าด้านหลังกุฏินั้นมีก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งบังอยู่ ช้างจึงไม่สามารถเข้ามาถึงตัวท่านได้

          เมื่อช้างใหญ่ตัวนั้นเข้ามาถึงหินก้อนนั้นแล้วก็เอางวงสอดเข้ามาในกุฏิจนถึงกลดและมุ้งบนศีรษะของหลวงปู่ขาวที่กำลังนั่งภาวนาอยู่ เสียงสูดลมหายใจดมกลิ่นดังฟูดฟาดๆ จนกลดและมุ้งไหวไกวไปมา เย็นไปถึงศีรษะของท่าน หลวงปู่ขาวไม่มีที่พึ่งที่อาศัยจึงนั่งบริกรรม "พุทโธ" อย่างฝากจิตฝากใจฝากเป็นฝากตายไว้กับ "พุทโธ" จริงๆ เป็นเวลาสองชั่วโมงเศษๆ ที่ช้างใหญ่ตัวนั้นยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมหนีไปไหน ราวกับจะคอยตะครุบหลวงปู่ขาวให้แหลก นานๆ ถึงจะได้ยินเสียงลมหายใจและสูดกลิ่นท่านอยู่นอกมุ้งสักครั้งหนึ่ง แล้วก็เงียบไป และแล้วช้างใหญ่ตัวนั้นก็เดินไปทางด้านตะวันตกของกุฏิ แล้วเอางวงล้วงเข้าไปในตะกร้ามะขามเปรี้ยวข้างต้นไม้ออกมากิน เสียงเคี้ยวดังกร้วมๆ อย่างเอร็ดอร่อย

 

เมตตาแห่งพระป่า!! "หลวงปู่ขาว" เทศน์สยบช้างใหญ่ เผย...ช้างไทยไม่ได้แค่ช่วยทหารออกรบ แต่ยังช่วยสอบอารมณ์กรรมฐานพระป่าอีกด้วย กราบสาธุ!!

 

         หลวงปู่ขาวนึกในใจว่า มะขามสำหรับขัดฝาบาตรของท่านคงจะเกลี้ยงไม่มีเหลือแน่นอน และถ้ามันกินมะขามเปรี้ยวในตะกร้าหมดแล้วก็ต้องเดินเข้ามาในกุฏิ คราวนี้จะต้องเข้าถึงตัวและบดขยี้ท่านให้แหลกไปอย่างแน่นอน ในที่สุด หลวงปู่ขาวจึงคิดว่า ท่านควรจะออกไปพูดกับมันให้รู้เรื่อง เพราะสัตว์พรรค์นี้มันรู้ภาษาคนได้ดี เนื่องจากมันเคยอยู่กับคนมานาน หากท่านพูดกับมันด้วยดีให้รู้เรื่องแล้ว มันคงจะฟังเสียงท่านและไม่ดื้อบุกเข้ามา แต่ถ้ามันทะลึ่งพรวดพราดเข้ามาจะฆ่าเราก็ยอมตายเสียเท่านั้น หนีไม่พ้นแน่นอน เพราะเป็นเวลาค่ำคืน มองไม่เห็นหนทางอะไรเลย เมื่อตัดสินใจแล้ว หลวงปู่ขาวก็ออกจากกุฏิมายืนแอบอยู่ที่โคนต้นไม้หน้ากุฏิแล้วพูดกับมันว่า

"พี่ชาย... น้องขอพูดด้วยสักคำสองคำ ... ขอพี่ชายจงฟังคำของน้อง"

         พอได้ยินเสียงหลวงปู่ขาวพูดขึ้นเท่านั้น มันก็หยุดนิ่งเงียบราวกับไม่มีชีวิตจิตใจ จากนั้นท่านจึงเริ่มกล่าวกับมันว่า "พี่ชายเป็นสัตว์ของมนุษย์ที่นำมาเลี้ยงไว้เป็นเวลานานจนเป็นสัตว์บ้าน ความรู้สึกทุกอย่างตลอดจนภาษามนุษย์ที่เขาพูดกันและพร่ำสอนพี่ชายตลอดมานั้น พี่ชายรู้ได้ดีทุกอย่างยิ่งกว่ามนุษย์บางคนเสียอีก ดังนั้น พี่ชายควรจะรู้ขนบธรรมเนียมและข้อบังคับของมนุษย์ ไม่ควรทำอะไรตามใจชอบ เพราะการกระทำบางอย่างแม้จะถูกใจเรา แต่เป็นการขัดใจมนุษย์ ก็ย่อมไม่ใช่ของดี เมื่อขัดใจมนุษย์แล้ว เขาอาจจะทำอันตรายเราได้... ดีไม่ดีอาจถึงตายก็ได้... เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ฉลาดแหลมคมกว่าบรรดาสัตว์ที่อยู่ร่วมโลกกัน สัตว์ทั้งหลายจึงกลัวมนุษย์มากกว่าสัตว์ด้วยกัน       

เมตตาแห่งพระป่า!! "หลวงปู่ขาว" เทศน์สยบช้างใหญ่ เผย...ช้างไทยไม่ได้แค่ช่วยทหารออกรบ แต่ยังช่วยสอบอารมณ์กรรมฐานพระป่าอีกด้วย กราบสาธุ!!

 

          ตัวพี่ชายเองก็อยู่ในบังคับของมนุษย์จึงควรเคารพมนุษย์ผู้ฉลาดกว่าเรา ถ้าดื้อดึงต่อเขา อย่างน้อยเขาก็ตีหรือเอาขอสับลงที่ศีรษะให้ได้รับความเจ็บปวด มากกว่านั้นเขาก็ฆ่าให้ตาย พี่ชายจงจำไว้... อย่าได้ลืมคำที่น้องสั่งสอนด้วยความเมตตาอย่างยิ่งนี้ ต่อนี้ไปพี่ชายจะรับศีลห้า น้องเป็นพระจะให้ศีลห้าแก่พี่ชาย จงรักษาให้ดี เวลาตายไปจะได้ไปสู่ความสุข อย่างต่ำก็มาเกิดเป็นมนุษย์ผู้มีบุญมีคุณธรรมในใจ ยิ่งกว่านั้นก็ไปเกิดบนสวรรค์หรือพรหมโลกสูงขึ้นไปตามลำดับ ดีกว่ามาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เช่น เป็นช้าง เป็นม้า ให้เขาขับขี่เฆี่ยนตีและขนไม้ขนฟืน ซึ่งเป็นความลำบากทรมาน จนตลอดวันตายก็ไม่ได้ปล่อยวางภาระหนัก ดังที่เป็นอยู่เวลานี้"

          จากนั้น หลวงปู่ขาวก็ให้ศีลห้าแก่ช้างใหญ่ตัวนั้น เสร็จแล้วท่านก็กล่าวต่ออีกว่า ... "เอาละ... น้องสั่งสอนเพียงเท่านี้ ... หวังว่าพี่ชายจะยินดีทำตาม ต่อนี้ไปขอให้พี่ชายจงไปเที่ยวหาอยู่หากินตามสบาย...เป็นสุขกายสุขใจเถิด น้องก็จะได้เริ่มบำเพ็ญภาวนาต่อไปและอุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาให้พี่ชายเป็นสุขๆ ทุกวันเวลา ไม่ลดละ

เอ้า... พี่ชายไปได้แล้ว!"

          เป็นที่น่าประหลาดใจว่า ขณะที่หลวงปู่ขาวกำลังให้โอวาทสั่งสอนอยู่นั้น ช้างใหญ่ตัวนั้นยืนนิ่งราวกับก้อนหิน ไม่กระดุกกระดิกอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งแม้แต่น้อยเลย (เหมือนคนตั้งใจฟังเทศน์ด้วยความเคารพในธรรม) แต่เมื่อฟังท่านเทศน์และให้ศีลให้พรเสร็จแล้ว มันจึงเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายเสียงดังปึงปังๆ ราวกับฟ้าดินจะถล่มไปด้วย และพอท่านพูดว่า "พี่ชายไปได้แล้ว" เท่านั้น มันก็หมุนตัวกลับไปเลยในทันที

          จะเห็นได้ว่า หลวงปู่ขาวนั้นท่านมีอุบายแยบคาย สามารถเลือกเฟ้นถ้อยคำแปลกๆ มาสอนสัตว์เดรัจฉานได้อย่างจับใจไพเราะ ช่างพูดช่างยอเสียจนช้างใหญ่ตัวนั้นเคลิบเคลิ้มไปด้วยคำอ่อนหวานที่มีรสซึ้งฝังอยู่ภายใน ... และไม่เพียงแต่สัตว์เท่านั้นที่จะสนใจฟัง แม้แต่มนุษย์เราเอง...ถ้าได้ฟังก็คงจะเคลิบเคลิ้มหลงใหลไปด้วยเช่นกัน

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐาน