ครั้งเมื่อ "หลวงพ่อปาน" ใช้พลังจิต...หนี "หลวงพ่อสุ่น" ไปเที่ยวบางกอก !!! แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาผู้เป็นอาจารย์ได้ !!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่ง พระนครศรีอยุธยา ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดบางนมโครูปที่ ๓ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางนมโคระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๗๘ จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๘๑ ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ทรงอภิญญารูปหนึ่ง แม้ว่าจะมรณภาพไปนานแล้วก็ตาม ชื่อเสียงของท่าน ยิ่งเป็นที่รู้จัก ในบรรดานักสะสมพระเครื่องทั้งหลาย และการสร้างพระของท่านก็ไม่เหมือนกับวัดอื่น คือท่านมักจะสร้างเป็นรูปพระพุทธเจ้าอยู่เหนือสัตว์พาหนะอันมี ครุฑ หนุมาน เม่น ไก่ นก และปลา เป็นต้น นอกจากนี้ หลวงพ่อปาน ท่านยังเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมออีกด้วย

ครั้งเมื่อ "หลวงพ่อปาน" ใช้พลังจิต...หนี "หลวงพ่อสุ่น" ไปเที่ยวบางกอก !!! แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาผู้เป็นอาจารย์ได้ !!!

ครั้งหนึ่งหลวงพ่อสุ่นได้ถ่ายทอดวิชา วาโยกสิณ ให้กับหลวงพ่อปาน วันหนึ่งหลวงพ่อปาน นั่งเล่นอยู่หน้าสะพาน สะพานท่าน้ำ หน้าวัดบางปลาหมอ ใจก็นึกอยากจะมาเที่ยวบางกอก ( กรุงเทพฯ ) พอนึกดังนั้นในใจก็นึกลองวิชา วาโยกสิณที่หลวงพ่อสุ่นสอนให้ ไอ้ร่างกายมันก็มาเบา กำหนจิตมาถึงมาลงที่สนามหลวงได้ ตั้งใจว่าจะลงที่สนามหลวงก็มาถึงบางกอกได้ เดินเที่ยวเสียพักหนึ่ง ก็ทำวาโยกสิณกลับวัด เวลาจะกลับก็ไปที่ลับ ๆ นึกถึงวาโยกสิณขึ้นมามันก็กลับมาถึงที่สะพานตามเดิม แต่ว่าการหนีเที่ยวอย่างนั้น มีรึจะหนีพ้นสายตาของหลวงพ่อสุ่น ผู้เป็นอาจารย์ก็หาไม่ หลวงพ่อสุ่น ท่านจำวัดอยู่ในกุฏิ

ท่านก็รู้ว่าลูกศิษย์แอบหนีไปเที่ยว พอหลวงพ่อปานกลับมาอาบน้ำเสร็จ ขึ้นไปหาท่าน ท่านถามว่า

ครั้งเมื่อ "หลวงพ่อปาน" ใช้พลังจิต...หนี "หลวงพ่อสุ่น" ไปเที่ยวบางกอก !!! แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาผู้เป็นอาจารย์ได้ !!!

"ปาน วันนี้ไปเที่ยวบางกอกมาเรอะ ไปซื้ออะไรมาบ้างล่ะลูก"

หลวงพ่อปานบอก "ไม่ได้ซื้ออะไรหรอก ขอรับ"

หลวงพ่อสุ่นท่านก็เลยสั่งว่า

"การแสดงอิทธิฤทธิ์ทำได้นะลูกนะ แต่อย่าให้ชาวบ้านเขาเห็นนะ การแสดงฤทธิ์จงอย่าให้ชาวบ้านเขาเห็น ถ้าชาวบ้านเขาเห็นเป็นโทษตามที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้"

นอกจากวาโยกสิณแล้ว การเรียนปถวีกสิณ เรียนดิน หลวงพ่อสุ่นก็สั่งให้ฝึกทำของอ่อนให้เป็นของแข็ง ดินนี้มีสภาพทำของอ่อนให้เป็นของแข็ง อย่างนี้ นอกจากจะทำน้ำในตุ่มให้แข็งหรือว่าน้ำในขันให้แข็ง อธิษฐานให้คนไข้แข็งแรงก็ได้ นอกจากนั้นเรายังทำน้ำในแม่น้ำ ในมหาสมุทรให้แข็งก็ได้ แต่น้ำในแม่น้ำ ในมหาสมุทร ถ้าจะให้แข็งจงอย่าให้แข็งทั่วบริเวณ การสัญจรเขาจะลำบาก เป็นโทษ ถ้าเราไปไหนไม่มีเรือข้ามฟาก เราอธิษฐานว่า เท้าของเราที่เหยียบลงไปถูกน้ำตรงไหน ขอน้ำตรงนั้นจงแข็ง เท่านี้เราก็จะเดินข้ามแม่น้ำได้ตามสบาย พูดแล้วท่านก็พาหลวงพ่อปานเดินไปท่าน้ำ แล้วให้ตั้งใจอธิษฐานให้ดี

พอตั้งใจอธิษฐานให้ดี ก็ให้หลวงพ่อปานเดินไปอธิษฐานว่า เท้านี้เหยียบลงไปตรงไหน ขอให้น้ำตรงนั้นแข็งเหมือนดิน อันนี้ต้องเพ่งปถวีกสิณไว้ก่อน หลวงพ่อปานก็เดินเล่นข้ามฟาก เดินเล่นในแม่น้ำอย่างสบาย ๆ เวลานั้นปลอดคน แล้วต่อมาหลวงพ่อสุ่นก็บอกว่า เอายังงี้ก็แล้วกัน อากาศนี่เราก็ทำให้แข็งได้ แล้วก็เดินไปบนอากาศได้ ถ้าเราไม่ใช้วาโยกสิณเราไม่รีบเหาะก็ไปไม่ได้เร็ว ไปตามกำลังอาการเดินของเรา หากเราใช้วาโยกสิณ เรียกว่า เหาะก็ไปเร็ว ทีนี้เราจะเดินไปบนอากาศ

ครั้งเมื่อ "หลวงพ่อปาน" ใช้พลังจิต...หนี "หลวงพ่อสุ่น" ไปเที่ยวบางกอก !!! แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาผู้เป็นอาจารย์ได้ !!!

ปาน เธอจงอธิษฐานขอให้อากาศทุกจุดที่เท้าเราจะเหยียบลงไปจงแข็งเหมือนดิน แล้วหลวงพ่อปานก็อธิษฐานจิตตามนั้น ยกนิมิตกสิณขึ้นแล้วอธิษฐานจิตว่า ขอให้อากาศทุกจุดที่ข้าพเจ้าย่างเหยียบไปจงแข็งเหมือนดิน อธิษฐานแล้วก็คลายสมาธิจิตจากญาณออกมาถึงอุปจารสมาธิ เมื่อถึงอุปจารสมาธิแล้วก็เหยียบขึ้นบนอากาศเดินสบาย เดินได้แบบสบายๆ หลวงพ่อสุ่นกับหลวงพ่อปาน มักแทนคำพูดตัวเอง ว่า "ลูก" กับ "พ่อ" เสมอ เพราะหลวงพ่อสุ่นรับหลวงพ่อปานเป็นลูกบุญธรรม

เพราะหลวงพ่อปาน นั้นท่านเป็นคนมีบุญบารมีมาก จึงจำเป็นต้องไปฝากกับพระสงฆ์ ที่ทั้งมากด้วยวิชาความรู้ และมากด้วยบุญบารมี ในการดูแลและอบรมสั่งสอน ซึ่งในอยุธยาละแวกนี้คงไม่มีใครเกิน หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ จึงเป็นทั้งพ่อบุญธรรม ของหลวงพ่อปานเป็นทั้งอาจารย์ท่านแรก ของหลวงพ่อปาน เป็นอุปัชฌาย์ ของหลวงพ่อปาน เป็นอาจารย์ ที่ถ่ายทอดวิชาเอกให้หลวงพ่อปาน จนท่านใช้วิชานี้ดังไปทั่วอยุธยา (วิชาหมอยา รักษาโรค) และเป็นอาจารย์ ที่หลวงพ่อปานรักมาก

ครั้งเมื่อ "หลวงพ่อปาน" ใช้พลังจิต...หนี "หลวงพ่อสุ่น" ไปเที่ยวบางกอก !!! แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาผู้เป็นอาจารย์ได้ !!!

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ พระเกจิอยุธยา