แม้แต่พญานาคยังศรัทธา!! เมื่อ "หลวงปู่สิม" อธิษฐานจิต..อยากเห็นรูปร่างของพญานาค ผ่านไปสามวัน.. เจองูใหญ่นอนขดนิ่งอยู่ข้างเตียง !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

แม้แต่พญานาคยังศรัทธา!! เมื่อ "หลวงปู่สิม" อธิษฐานจิต..อยากเห็นรูปร่างของพญานาค ผ่านไปสามวัน.. เจองูใหญ่นอนขดนิ่งอยู่ข้างเตียง !!

 

               หลวงปู่สิม พุทธจาโร แห่งวัดถ้ำผาปล้อง ต.บ้านถ้ำ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาธรรมอย่างสูงท่านไม่เคยถือตัว หรือรังเกียจรังงอนผู้ที่มาพบหาว่าจะยากดีมีจนอย่างไรเลย นัยว่าท่านปฏิบัติตน "ดุจแผ่นดิน" คือ ไม่รู้สึกหนาว ร้อน อ่อน แข็ง เป็นต้น และเป็นดุจ "สายธาร" ที่เย็นฉ่ำคอยให้ความชุ่มชื่น (ธรรม) แก่ผู้กระหาย ท่านจึงเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย และเมื่อท่านเป็นอริยสงฆ์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาธรรม และอุดมไปด้วยศีลาจารวัตร "กลิ่นอาย" แห่งความดี หรือศีลธรรมย่อมฟุ้งขจรไปทั่วทิศานุทิศ ฉะนั้น ผู้คนทั้งหลายไม่เว้นแม้แต่ท่านผู้มีภาวะเป็นทิพย์เช่นเทวดา นางฟ้า กระทั่งพญานาค ก็อยากสัมผัสกลิ่นอายแห่งความดีนั้น ๆ

แม้แต่พญานาคยังศรัทธา!! เมื่อ "หลวงปู่สิม" อธิษฐานจิต..อยากเห็นรูปร่างของพญานาค ผ่านไปสามวัน.. เจองูใหญ่นอนขดนิ่งอยู่ข้างเตียง !!

 

              ครั้งหนึ่ง สมัยที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่ วัดถ้ำผาปล้องนี้เอง มี พญานาค องค์หนึ่งแฝงร่างชายคนหนึ่งมากราบท่านที่วัด พร้อมกับบอกหลวงปู่ว่า ตัวเองนั้นเป็นพญานาคอยู่ที่เขื่อนแม่งัด อุทยานแห่งชาติศรีลานนา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เหตุที่แฝงชายคนนี้มาเพราะในอดีตชาติเคยเป็นสหายกันมาก่อน และเมื่อรู้ว่าเขาจะมาที่วัดแห่งนี้จึงได้แฝงร่างเขามา หลวงปู่จึงคิดว่า ถ้าหากเป็นพญานาคจริง รูปร่างหน้าตาจะเป็นอย่างไรหนอ อยากเห็นจัง

            เมื่อนั่งสนทนากันได้ชั่วระยะแล้วชายผู้นั้นก็กราบลาหลวงปู่กลับ แต่ก่อนที่เขาจะกลับได้พูดทิ้งท้ายกับหลวงปู่ไว้ว่า

"แล้วกระผมจะมาให้เห็นขอรับ"

            หลังผ่านไปได้ ๓ วัน เช้ามืดวันหนึ่ง เมื่อหลวงปู่ตื่นจากจำวัด พลัน! สายตาก็ไปสัมผัสกับสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือ งูใหญ่ตัวหนึ่งลำตัวประมาณเท่าแขน ยาวประมาณ ๒ เมตร แต่มีลักษณะแปลกมาก คือ เป็นลายๆ สีเขียวสลับดำเทาและน้ำตาลเป็นประกาย นอนขดนิ่งอยู่ข้างเตียง และเมื่อพระเณรที่เป็นอุปัฏฐากเข้ามา หลวงปู่ก็ได้บอกว่า อย่าทำอะไรเขานะ เขาเป็นพญานาคมีพิษมาก จากนั้นท่านก็เดินเลี่ยงออกมาอีกทางหนึ่ง ชั่วอึดใจต่อมา พระเณรก็เอากระสอบมาคลุมงูใหญ่ตัวนั้น แล้วนำไปปล่อยที่ชายป่าเชิงเขา

 

 

แม้แต่พญานาคยังศรัทธา!! เมื่อ "หลวงปู่สิม" อธิษฐานจิต..อยากเห็นรูปร่างของพญานาค ผ่านไปสามวัน.. เจองูใหญ่นอนขดนิ่งอยู่ข้างเตียง !!

 

           วันรุ่งขึ้นงูใหญ่ตัวนั้นก็กลับมาอีก แต่คราวนี้มานอนขดนิ่งรอบๆ เทียนพรรษาขนาดใหญ่ นอนนิ่งอยู่อย่างนั้นตลอดวัน เหตุการณ์ในวันนั้นเห็นกันหมดทุกคน ทั้งพระ เณร ชี รวมทั้งฆราวาสญาติโยม ซึ่งหลวงปู่ก็ได้กำชับว่า อย่าไปทำอะไรเขานะ เขามาให้เห็นแล้วเดี๋ยวเขาจะไปเองและหลังจากที่หลวงปู่กลับมาจากธุระ งูใหญ่ตัวนั้นก็อันตรธานหายไปแล้ว

  แม้แต่พญานาคยังศรัทธา!! เมื่อ "หลวงปู่สิม" อธิษฐานจิต..อยากเห็นรูปร่างของพญานาค ผ่านไปสามวัน.. เจองูใหญ่นอนขดนิ่งอยู่ข้างเตียง !!

 

            สำหรับหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร หรือพระญาณสิทธาจารย์ ท่านเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญฝ่ายธรรมยุติกนิกาย อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ท่านยังเป็นหนึ่งในศิษย์ของพระครูวินัยธร (มั่น ภูริทตฺโต) อีกด้วย และนอกจากนี้สิ่งที่บันดาลใจให้หลวงปู่อยากออกบวชคือ ความสะดุ้งกลัวต่อความตาย ท่านเล่าว่า "ตั้งแต่ยังเด็กแล้วเมื่อได้เห็น หรือได้ข่าวคนตาย มันให้สะดุ้งใจ ทุกครั้ง กลัวว่าเราจะตายเสียก่อนได้ออกบวช" มรณานุสติได้เกิดขึ้นในใจของท่านอยู่ตลอดเวลา เฝ้าย้ำเตือนให้ท่านไม่ประมาทในชีวิต ไม่ประมาทในวัย ไม่ประมาทในความตาย เป็นเพราะหลวงปู่กำหนด "มรณํ เม ภวิสฺสติ" ของท่าน มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนั่นเอง ตั้งแต่ยังไม่ได้ออกบวชจวบจนสิ้นอายุขัย ของท่าน หลวงปู่ก็ยังใช้อุบายธรรมข้อเดียวกันนี้อบรมลูกศิษย์ลูกหาอยู่เป็นประจำ เรียกว่า หลวงปู่เทศน์ครั้งใด มักจะมี "มรณํ เม ภวิสฺสติ" เป็นสัญญาณเตือนภัยจากพญามัจจุราชให้ลูกศิษย์ลูกหาตื่นตัวอยู่เสมอทุกครั้ง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ บาดาล

                           http://www.santidham.com

                           https://th.wikipedia.org/wiki/พระญาณสิทธาจารย์_(สิม_พุทฺธาจาโร)