กูรักมึงเหมือนพี่น้อง และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป!! เผยความผูกพันของ "สมเด็จพระนารายณ์" และ "เจ้าพระยาโกษาเหล็ก" ที่ซึ้งกินใจคนทั้งประเทศ !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

กูรักมึงเหมือนพี่น้อง และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป!! เผยความผูกพันของ "สมเด็จพระนารายณ์" และ "เจ้าพระยาโกษาเหล็ก" ที่ซึ้งกินใจคนทั้งประเทศ !!

 

              จากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส เมื่อคืนนี้ (21 มีนาคม 2561) ซึ่งเป็นตอนที่พูดถึงเรื่องประวัติศาสตร์ได้อย่างน่าสนใจและเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ เป็นประเด็นของการรับสินบนของเจ้าพระยาโกษาเหล็ก ในการสร้างป้อมปราการ เป็นฉากที่เรียกน้ำตาของบรรดาออเจ้าทั้งหลายทั่วทั้งพระนครจริงๆ เพราะด้วยความผูกพันระหว่าง สมเด็จพระนารายณ์มหาราชและเจ้าพระยาโกษาเหล็ก ที่เป็นทั้งพี่เป็นทั้งเพื่อนสนิท เนื่องสมเด็จพระนารายณ์และเจ้าพระยาโกษาเหล็ก อยู่ในวัยเดียวกัน และมารดาขอเจ้าพระยาโกษาเหล็ก หรือ เจ้าแม่วัดดุสิตยังเป็นแม่นมของสมเด็จพระนารายณ์ นอกจากนี้ท่านเจ้าพระยาโกษาเหล็กยังเป็นนักรบคู่พระทัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชอีกด้วย

 

กูรักมึงเหมือนพี่น้อง และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป!! เผยความผูกพันของ "สมเด็จพระนารายณ์" และ "เจ้าพระยาโกษาเหล็ก" ที่ซึ้งกินใจคนทั้งประเทศ !!

กูรักมึงเหมือนพี่น้อง และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป!! เผยความผูกพันของ "สมเด็จพระนารายณ์" และ "เจ้าพระยาโกษาเหล็ก" ที่ซึ้งกินใจคนทั้งประเทศ !!

 

ทั้งนี้ผู้ใช้เฟสบุ๊ค Pat Hemasuk นักวิชาการอิสระได้โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า

            วันนี้เนื้อเรื่องของละครเรื่องบุพเพสันนิวาสเข้มข้นดีมาก ต้องยกเครดิตให้ทั้งผู้ประพันธ์ คุณจันทร์ยวีร์ สมปรีดา และผู้เขียนบท คุณศัลยา สุขะนิวัตติ์ ที่สามารถสมดุลเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ได้แบบถูกใจคนรักประวัติศาสตร์ และผมคนหนึ่งที่ถูกใจในการเขียนบทให้สมดุลอำนาจและการตัดสินใจในเหตุการณ์นั้นของกษัตริย์สามพระองค์ คือพระนารายณ์ พระเพทราชา และพระเจ้าเสือ รวมถึงนักแสดงที่แสดงแบบตีบทแตกและเข้าใจว่าตัวเองกำลังแสดงบทอะไรอยู่ ทั้งน้ำเสียงและสายตาที่จ้องมองมีพลังมาก แสดงให้เห็นถึงอำนาจภายในตัวของคนที่เป็นกษัตริย์และกำลังจะเป็นกษัตริย์ในอนาคตแบบตีบทแตกกระจายเลยทีเดียว พระนารายณ์รับบทโดย ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง พระเพทราชา รับบทโดย ศรุต วิจิตรานนท์ ออกหลวงสรศักดิ์หรือพระเจ้าเสือ รับบทโดย จิรายุ ตันตระกูล พระยาโกษาเหล็ก รับบทโดย สุรศักดิ์ ชัยอรรถ


              ในพงศาวดารที่เขียนในยุคหลังเกือบทุกฉบับนั้นจะบันทึกให้กษัตริย์ในราชวงค์บ้านพูลหลวงนั้นมีแง่ลบมากกว่าแง่บวก ทั้งพระเพทราชาและพระเจ้าเสือ รวมถึงประวัติศาสตร์ไม่ได้บันทึกถึงมุมมองความเด็ดขาดในการตัดสินใจของพระนารายณ์กษัตริย์องค์สุดท้ายในราชวงค์ปราสาททอง แต่ละครเรื่องนี้แสดงออกมาอย่างโดดเด่นถึงการสมดุลอำนาจและการตัดสินใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตนั้นมีที่มาที่ไป และสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตนั้นผ่านการตัดสินใจที่ดีแล้วของทุกคนที่ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ในเวลาขึ้นมา

 

กูรักมึงเหมือนพี่น้อง และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป!! เผยความผูกพันของ "สมเด็จพระนารายณ์" และ "เจ้าพระยาโกษาเหล็ก" ที่ซึ้งกินใจคนทั้งประเทศ !!


                บทของพระนารายณ์ในวันนี้นั้นผมยกให้ซีนที่เขียนบทให้ทรงกลั้นกรรแสงเมื่อทรงรู้ว่าพระยาโกษาเหล็กนั้นสิ้นชีพแล้วจากการลงพระอาญา แต่ในบทละครก่อนหน้านั้นทรงให้โอกาสสารภาพผิดแก่พระยาโกษาเหล็กแล้วหลายครั้งแต่ก็ยังยืนกรานถึงความบริสุทธิ์ของตัวเอง ทรงเสียพระทัยถึงขนาดตรัสกับพระยาโกษาเหล็กถึงความเป็นเพื่อนเป็นสหายร่วมรบเป็นพี่เป็นน้องร่วมถันดื่มนมเต้าเดียวกันก่อนจะสั่งให้กลับกรุงศรีอยุธยาทันที และลงโทษด้วยการเฆี่ยนในเวลาต่อมา นักแสดงนั้นแสดงออกทางสายตาที่สื่ออารมณ์ได้เยี่ยมยอดมาก ผมยกให้การผูกเรื่องและเขียนบทแบบคะแนนเต็บสิบเลยทีเดียวที่รักษาพระเกียรติยศของพระนารายณ์ไม่ให้เสียลงไปแม้แต่น้อยในการตัดสินใจลงโทษพระยาโกษาเหล็กในครั้งนี้ ซึ่งบันทึกในประวัติศาสตร์และพงศาวดารเล่มต่างๆ มองการตัดสินใจเรื่องนี้ของพระนารายณ์ในแง่ลบอยู่ไม่น้อย แต่การผูกเรื่องและเขียนบทละครลบเอามุมมองด้านลบอันนี้ทิ้งไปแบบสมเหตุผลมาก

 

กูรักมึงเหมือนพี่น้อง และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป!! เผยความผูกพันของ "สมเด็จพระนารายณ์" และ "เจ้าพระยาโกษาเหล็ก" ที่ซึ้งกินใจคนทั้งประเทศ !!

 

                และบทละครในตอนนี้เป็นการแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าการคอรัปชั่นนั้นแม้จะทำตามน้ำแม้แต่เพียงน้อยนิด ย่อมนำมาซึ่งความวิบัติแก่ตัวเองและครอบครัวเสมอ ซึ่งพระยาโกษาเหล็กเองอาจจะมองข้ามไป แต่แม่จันวาดลูกสาวก็มองเห็นแล้วว่ามันไม่ถูกต้องแต่ก็ทักท้วงอะไรกับแม่ของตัวเองในเรื่องการกระทำของพ่อไม่เป็นผล เพราะหลังบ้านก็เห็นดีเห็นงามไปด้วยในการคอรัปชั่นตามน้ำของสามี แต่เรื่องของการโต้แย้งเรื่องการสร้างป้อมนั้นมุมมองของนักรบเจนสงครามอย่างพระยาโกษาเหล็กนั้นมองได้ถูกต้องแล้ว ฉากที่พระยาโกษาเหล็กคลานเข้าไปกราบเท้าพระนารายณ์นั้น เป็นฉากที่ไฮไลท์ฉากหนึ่งทีเดียว เหมือนการสารภาพผิดโดยไม่ต้องพูดออกมา ผมบอกเลยว่าทั้งผู้เขียนบทและนักแสดงประสานเป็นหนึ่งเดียวในช่วงเวลาห้าวินาทีที่กินใจนี้

 

กูรักมึงเหมือนพี่น้อง และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป!! เผยความผูกพันของ "สมเด็จพระนารายณ์" และ "เจ้าพระยาโกษาเหล็ก" ที่ซึ้งกินใจคนทั้งประเทศ !!


              การเขียนบทละครในมุมมองของพระเพทราชาเมื่อครั้งยังรับราชการในแผ่นดินของพระนารายณ์นั้นเฉียบขาดมาก แสดงถึงความแข็งแกร่งในการรับราชการที่ต้องสมดุลอำนาจระหว่างฝ่ายไทยและกระแสอันรุนแรงของฝรั่งหลายชาติที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ของการค้าในอยุธยา และฉากไฮไลท์ของวันนี้คือตอนที่พระเพทราชาน้อยใจในการตัดสินใจของพระนารายณ์ จนต้องเข้าไปทูลถามตรงๆ เรื่องว่าใครเอาเรื่องมาฟ้อง ฝรั่งใช่ไหม ซึ่งเมื่อพระนารายณ์ตรับตอบว่าใช่และอธิบายเหตุผลต่อว่าทำไมถึงต้องทำแบบนั้น แต่พระเพทราชาไม่อดทนรอฟังอีกแล้ว ลุกขึ้นเดินหนีออกไปทันทีไม่รอฟังให้จบ แสดงให้เห็นว่าพระเพทราชานั้นฟิวส์ขาดกับเรื่องการยอมรับในข้อมูลของฝรั่งของพระนารายณ์มากกว่าความคิดเห็นของขุนนางไทย ซึ่งการแสดงฉากนี้เฉียบขาดมาก นั่นคือจุดสิ้นสุดความอดทนของพระเพทราชา และสร้างความชอบธรรมในอนาคตอยู่ไม่น้อยในการเข้ายึดอำนาจจากพระนารายณ์ในช่วงไม่กี่วันก่อนที่จะสวรรคต

 

กูรักมึงเหมือนพี่น้อง และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป!! เผยความผูกพันของ "สมเด็จพระนารายณ์" และ "เจ้าพระยาโกษาเหล็ก" ที่ซึ้งกินใจคนทั้งประเทศ !!


               บทของออกหลวงสรศักดิ์หรือพระเจ้าเสือในวันนี้นั้น ได้เขียนให้เป็นขุนนางที่มีเหตุผล รักในการต่อสู้ มีการสอดเกร็ดแสดงท่าต่างๆ ของแม่ไม้มวยไทยที่สวยงาม และตรงกับบันทึกในประวัติศาสตร์ที่เป็นจริงเช่นนั้นที่ได้มีการถ่ายทอดเป็นตำรามวยในสมัยของพระองค์ และการเขียนบทละครให้กับนักแสดงบทนี้นั้น น่าจะเขียนยากพอสมควรว่าจะทำอย่างไรให้ภาพพจน์ที่ไม่ค่อยดีนักของพระเจ้าเสือให้ออกมาแล้วดูแล้วกลมกล่อม และทรงรักชาติบ้านเมืองไม่น้อยกว่ากษัตริย์พระองค์อื่น ซึ่งการเขียนบทก็เขียนออกมาได้ดี การที่ออกหลวงสรศักดิ์ออกไปร่วมกับขุนนางอื่นๆ ในกรณีที่พระยาโกษาเหล็กโดนลงโทษทั้งก่อนเหตุการณ์และหลังเหตุการณ์นั้น แสดงให้เห็นมุมมองที่เฉียบขาดของการต้องเป็นผู้นำในอนาคตของออกหลวงสรศักดิ์หรือพระเจ้าเสือที่ผ่านการเลี้ยงดูสั่งสอนของพระเพทราชาได้อย่างดีเยี่ยม ผมต้องยกย่องในคาแร็กเตอร์ของนักแสดงและการใช้สายตามองกร้าวอย่างไม่พอใจที่แสดงออกมาได้อย่างเยี่ยมยอด สมกับที่เป็นสายตาของอนาคตกษัตริย์ที่ประวัติศาสตร์เขียนว่าทรงดุร้ายอย่างพระเจ้าเสือ


             สำหรับบทของฟอลคอนนั้น ผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก แสดงบทคนเลวเป็นตัวโกงได้เสมอต้นเสมอปลาย แต่วันนี้มีการเขียนบทให้ฟอลคอนแสดงอารมณ์ความเป็นมนุษย์ธรรมดาออกมาในตอนที่รู้ว่าพระยาโกษาเหล็กโดนลงโทษจนเสียชีวิตนั้น น้ำตาที่ไหลออกมาทำให้บทที่ต้องแสดงตัวเลวมาทุกตอนนั้นดูอ่อนโยนลงไปมาก มีมุมที่ดีของชีวิตแสดงออกมา อย่างน้อยผู้เขียนบทก็ยังให้มีการสอดแทรกถึงการสำนึกในบุญคุณของผู้ที่ชุบเลี้ยงตัวเองมา และสำนึกผิดบาปในการกระทำของตัวเองต่อผู้มีพระคุณ


               คืนนี้ผมตบมือให้ในความเข้มข้นของเนื้อเรื่องของผู้ประพันธ์ ผู้เขียนบท ผู้กำกับ และความสามารถของนักแสดงทุกคนที่แสดงออกมาได้แบบมืออาชีพมากแต่ผมขอติเรื่องการอินเสิร์ทเพลงประกอบในบางตอนนั้นทำได้ดีพอสมควร แต่บางตอนเข้าขั้นห่วยมากเช่นกัน เหมือนเอาเพลงหนังบู๊ชกกันยิงกัน ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ในยุค 80's มาอินเสิร์ททำให้ละครเสียอรรถรสไปไม่น้อย รวมถึงเสียงจิงเกิ้ลแปลกๆ ไร้รสนิยมของมุขตลก ที่ทำให้ละครดูด้อยไปไม่ใช่น้อย ผมนึกถึงคำพูดของผู้กำกับเสียงท่านหนึ่งเคยพูดเอาไว้ว่า บางครั้งความเงียบก็บอกเล่าเรื่องราวได้ไดีกว่าเสียงที่เป็นส่วนเกินของภาพยนต์นั้นๆ และเพลงประกอบที่ดีคือคนดูต้องไม่รู้สึกว่ามีเพลงประกอบเล่นเป็นแบ็กกราวด์แย่งความสนใจซีนนั้นอยู่

กูรักมึงเหมือนพี่น้อง และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป!! เผยความผูกพันของ "สมเด็จพระนารายณ์" และ "เจ้าพระยาโกษาเหล็ก" ที่ซึ้งกินใจคนทั้งประเทศ !!

 

              นอกจากนี้ หลังจากท่านเจ้าพระยาโกษาเหล็ก ได้ต้องพระราชอาญาเฆี่ยนด้วยหวายอย่างหนัก จนท่านล้มป่วยและถึงแก่อนิจกรรมในเวลาไม่นาน โดยเดอ แบสระบุว่าเมื่อก่อนท่านจะเสีย ได้ประชุมวงศาคณาญาติ แล้วให้โอวาทว่าให้ทุกคนจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวเสมือนเป็นบิดาแห่งตน หากจะทรงลงทัณฑ์ก็ขอให้รับโทษทัณฑ์อย่างที่บิดาลงทัณฑ์แก่บุตร ส่วนตัวท่านเองสำนึกผิดในการกระทำของท่านที่ลุ่มหลงทรัพย์สมบัติ จึงขอถวายทรัพย์สินของตนแด่พระเจ้าอยู่หัวทั้งสิ้น จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แบ่งปันให้สถานใดสุดแท้แต่พระราชอัธยาศัย นอกจากนี้ยังฝากฝังครอบครัวท่านไว้กับฟอลคอนด้วย


              ส่วนซิมง เดอ ลาลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศส บันทึกไว้ต่างกันว่า ได้ทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องชู้สาว จนถูกลงพระราชอาญาโบยอย่างหนักต่อหน้าพระที่นั่ง ผู้รับหน้าที่โบยคือออกหลวงสุรศักดิ์ (พระเจ้าเสือ) บุตรชายออกพระเพทราชา ซึ่งมารดาของโกษาเหล็กที่เป็นพระนมนั้นได้ก้มลงกราบแทบเบื้องพระยุคลบาทของรับพระราชทานโทษแทนบุตร โกษาเหล็กถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าเฝ้า แต่ไม่ได้ถอดจากบรรดาศักดิ์ และยังทรงใช้สอยในราชการตามเดิมมาได้อีก ๖ เดือนก็ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อก่อนท่านจะสิ้นสมเด็จพระนารายณ์เป็นผู้ปรุงโอสถด้วยพระหัตถ์พระราชทานแก่โกษาเหล็กเอง เนื่องจากไม่มีคนอื่นกล้าปรุงยาให้เพราะเกรงว่าจะโดนกล่าวหาว่าวางยาพิษท่าน 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟสบุ๊ค Pat Hemasuk

ขอบคุณภาพจาก : ละคร บุพเพสันนิวาส