เปิดตำนาน "แร้งวัดสระเกศ" กับความเชื่อโบราณ "พิธีอาพาธพินาศ" เหลือเชื่อ..ฝนตกห่าใหญ่หลังทำพิธี โรคระบาดเริ่มสงบลงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

เปิดตำนาน "แร้งวัดสระเกศ" กับความเชื่อโบราณ "พิธีอาพาธพินาศ" เหลือเชื่อ..ฝนตกห่าใหญ่หลังทำพิธี โรคระบาดเริ่มสงบลงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

 

          ในประเทศไทยของเรามีพระราชพิธีหรือประเพรีโบราณมากมายที่หาดูได้ยากในสมัยมี รวมถึงพิธีโบราณที่ไม่มีแล้วในปัจจุบัน วัดสระเกศเป็นศาสนสถานแห่งหนึ่งที่สำคัญ มีตำนานเล่าขานมากมาย ตำนานที่โด่งดังของวัดนี้ คงไม่พ้น ตำนานแร้งวัดสระเกศ ในสมัยรัชกาลที่ ๒ เกิดโรคระบาดทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงโปรดเกล้าให้จัดพิธีอาพาธพินาศ เพื่อขับไล่โรคนี้ให้ออกไปจากพระนคร ซึ่งก็เป็นความเชื่อและกุศโลบายเพื่อพระราชทานกำลังใจให้แก่พสกนิกรของพระองค์

เปิดตำนาน "แร้งวัดสระเกศ" กับความเชื่อโบราณ "พิธีอาพาธพินาศ" เหลือเชื่อ..ฝนตกห่าใหญ่หลังทำพิธี โรคระบาดเริ่มสงบลงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

เปิดตำนาน "แร้งวัดสระเกศ" กับความเชื่อโบราณ "พิธีอาพาธพินาศ" เหลือเชื่อ..ฝนตกห่าใหญ่หลังทำพิธี โรคระบาดเริ่มสงบลงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

 

            ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พ.ศ. ๒๓๖๓ เกิดโรคห่าระบาดอย่างหนัก ในกรุงเทพมหานคร ขณะนั้น ยังไม่มีวิธีรักษา และรู้จักการป้องกัน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงทรงใช้วิธีให้กำลังใจ โปรดฯ ให้ตั้งพิธีขับไล่โรคนี้ขึ้น เรียกว่า "พิธีอาพาธพินาศ" โดยจัดขึ้นที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มีการยิงปืนใหญ่รอบพระนครตลอดคืน อัญเชิญพระแก้วมรกต และพระบรมสารีริกธาตุออกแห่ มีพระราชาคณะโปรยพระพุทธมนต์ตลอดทาง ทรงทำบุญเลี้ยงพระ โปรดให้ปล่อยปลาปล่อยสัตว์ และประกาศไม่ให้ประชาชนฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อยู่กันแต่ในบ้าน กระนั้นก็ยังมีคนตายเพราะอหิวาตกโรคประมาณ ๓ หมื่นคน ศพกองอยู่ตามวัดเป็นภูเขาเลากา เพราะฝังและเผาไม่ทัน บ้างก็แอบเอาศพทิ้งลงในแม่น้ำลำคลองในเวลากลางคืน จึงมีศพลอยเกลื่อนกลาดไปหมด ประชาชนต่างอพยพหนีออกไปจากเมืองด้วยความกลัว พระสงฆ์ทิ้งวัด งานของราชการ และธุรกิจทั้งหลายต้องหยุดชะงัก เพราะผู้คนถ้าไม่หนีไปก็มีภาระในการดูแลคนป่วย และจัดการกับศพของญาติมิตร ในเวลานั้น วัดสระเกศ เป็นศูนย์รวมของแร้งจำนวนนับพัน

             

 

เปิดตำนาน "แร้งวัดสระเกศ" กับความเชื่อโบราณ "พิธีอาพาธพินาศ" เหลือเชื่อ..ฝนตกห่าใหญ่หลังทำพิธี โรคระบาดเริ่มสงบลงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

 

            นอกจากการพระราชพิธีอาพาธพินาศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๒ ก็ทรงรักษาอุโบสถศีล พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยฝ่ายหน้าฝ่ายใน ก็พระราชทานอนุญาตให้รักษาศีลทำบุญให้ทานตามใจสมัคร ไม่ต้องเข้าเฝ้าฯทำกิจราชการที่ไม่จำเป็น ไพร่ซึ่งอยู่เวรรักษาพระราชวังชั้นในและชั้นนอก ก็พระราชทานอนุญาตให้กลับไปบ้านเรือนตามสมัครใจ โดยทรงพระกรุณาว่า ประเพณีสัตว์ทั้งหลาย ภัยมาถึงก็ย่อมรักชีวิต บิดามารดาภรรยาและบุตรญาติพี่น้องก็เป็นที่รักเหมือนกันทั่วไป จะได้ไปรักษาพยาบาลกัน ผู้ใดมีกตัญญูอยู่รักษาพระองค์มิได้กลับไปไหนนั้น ก็พระราชทานเงินตราเป็นบำเหน็จตามความชอบ

 

เปิดตำนาน "แร้งวัดสระเกศ" กับความเชื่อโบราณ "พิธีอาพาธพินาศ" เหลือเชื่อ..ฝนตกห่าใหญ่หลังทำพิธี โรคระบาดเริ่มสงบลงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

 

             ทรงจัดให้มีการทำบุญเลี้ยงพระภายในพระบรมมหาราชวัง โปรดให้จัดซื้อปลาและสัตว์สี่เท้าสองเท้าที่จะมีผู้ฆ่าซื้อขายกันในตลาดมาถวายเพื่อทรงปล่อย สิ้นพระราชทรัพย์เป็นจำนวนมาก นักโทษที่ถูกจองจำอยู่ ก็ให้ปล่อยออกจนหมดสิ้นเว้นแต่พวกพม่าข้าศึก มีรับสั่งให้ราษฎรงดการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ให้อยู่แต่เฉพาะในบ้านเรือนของตน เว้นเสียแต่จะมีกิจธุระจำเป็นจริง ๆ หลังจากสิ้นการพระราชพิธีอาพาธพินาศแล้ว ฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่ อหิวาตกโรคระบาดอยู่ประมาณ ๑๕ วัน จึงเริ่มสงบลง สำหรับศพที่ไม่มีญาตินั้น รัชกาลที่ ๒ ก็พระราชทานเงินค่าจ้างและฟืนให้เก็บเผาเสียจนหมดสิ้น กรุงรัตนโกสินทร์จึงผ่านพ้นภัยใหญ่ในครั้งนั้นมาได้

 

เปิดตำนาน "แร้งวัดสระเกศ" กับความเชื่อโบราณ "พิธีอาพาธพินาศ" เหลือเชื่อ..ฝนตกห่าใหญ่หลังทำพิธี โรคระบาดเริ่มสงบลงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

เปิดตำนาน "แร้งวัดสระเกศ" กับความเชื่อโบราณ "พิธีอาพาธพินาศ" เหลือเชื่อ..ฝนตกห่าใหญ่หลังทำพิธี โรคระบาดเริ่มสงบลงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

 

           อหิวาตกโรคเวียนมาในทุกฤดูแล้งและหายไปในฤดูฝนเช่นนี้ทุกปี จะในปี พ.ศ. ๒๓๙๒ อหิวาต์ก็ระบาดหนักอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ เกิดขึ้นที่ปีนังก่อน แล้วแพร่ระบาดมาจนถึงกรุงเทพฯ เรียกกันว่า "ห่าลงปีระกา" ในระยะเวลาช่วง ๑ เดือน ที่เริ่มระบาดมีผู้เสียชีวิตถึง ๑๕,๐๐๐ - ๒๐,๐๐๐ คน และตลอดฤดู ตายถึง ๔๐,๐๐๐ คน เจ้าฟ้ามงกุฏฯ คือ รัชกาลที่ ๔ ซึ่งขณะนั้นดำรงเพศบรรพชิต เป็นพระราชาคณะ ได้ทรงบัญชาให้วัดสามวัด คือ วัดสระเกศ วัดบางลำพู (วัดสังเวชวิศยาราม) และวัดตีนเลน (วัดเชิงเลน หรือวัดบพิตรพิมุข) เป็นสถานที่สำหรับเผาศพ มีศพที่นำมาเผาสูงสุด ถึงวันละ ๖๙๖ ศพ แต่กระนั้น ศพที่เผาไม่ทัน ก็ถูกกองสุมกันอยู่ตามวัด โดยเฉพาะวัดสระเกศ มีศพส่งไปไว้มากที่สุด ทำให้ฝูงแร้งแห่งไปลงทึ้งกินซากศพ ตามลานวัด บนต้นไม้ บนกำแพง และหลังคากุฏิเต็มไปด้วยแร้ง แม้เจ้าหน้าที่จะถือไม้คอยไล่ก็ไม่อาจกั้นฝูงแร้ง ที่จ้องเข้ามารุมทึ้งซากศพอย่างหิวกระจายได้ และจิกกินซากศพ จนเห็นกระดูกขาวโพลน พฤติกรรมของ "แร้งวัดสระเกศ" ที่น่าสยดสยองจึงเป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่ว

 

เปิดตำนาน "แร้งวัดสระเกศ" กับความเชื่อโบราณ "พิธีอาพาธพินาศ" เหลือเชื่อ..ฝนตกห่าใหญ่หลังทำพิธี โรคระบาดเริ่มสงบลงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

                           เพจ Sense&Scene