- 07 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เย็นวันศุกร์ ที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๑ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ สนามเสือป่า พระราชวังดุสิต
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปเป็นประธานฝ่ายฆราวาส
การนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปทรงเป็นประธานสงฆ์ โดยมีพระสงฆ์มาร่วมสวดและเจริญพระพุทธมนต์รวม ๒๓๙ รูป ในพิธีมหามงคล
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระชัย (หลังช้าง) พระพุทธรูปสำคัญของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ออกประดิษฐานเป็นพระประธานในพิธีและเพื่อให้ประชาชนได้สักการะ
โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า
“เราทั้งหลายได้รับพระราชทานโอกาส จากสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้มาประชุมพร้อมเพรียงกัน เพื่อกระทำกิจมหามงคลเนื่องในวันจักรี ในวันนี้
ขอให้ทุกท่านจงตั้งจิต ประมวลพลังความดีงาม น้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทั้ง ๙ รัชกาล และถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เป็นราชธานีให้เราทั้งหลายได้พำนักพึ่งพิงอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข นับถึงวันนี้ได้ ๒๓๖ ปีแล้ว พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ นับแต่รัชกาลที่ ๑ ถึงรัชกาลปัจจุบัน ทรงทำนุบำรุงประเทศชาติด้วย ‘พระราชปณิธาน’ มุ่งหมายให้ราษฎรของพระองค์มี ‘ความสุข’ โดยทั่วหน้า
เราทั้งหลายผู้ล้วนอาศัยใต้ร่มพระบารมี ควรคิดใคร่ครวญให้ถ้วนถี่ถึงพระราชปณิธานนั้นๆ แล้วเร่งน้อมนำมาเป็นปณิธานของตนๆ เพื่อบันดาลดลความรุ่งเรืองไพบูลย์มาสู่สังคมไทยสืบไป
การปลูกปณิธานในใจ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ประสบความสำเร็จได้ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสั่งสอนไว้ว่า ต้องมีคุณธรรมที่เรียกว่า ‘ฉันทะ’ คือความพอใจที่จะกระทำเป็นเบื้องต้น ฉันทะนี้จักเป็นพลังนำไปสู่วิริยะ ก่อความสำเร็จได้ในเบื้องปลาย
อย่างไรก็ตาม ความพอใจที่จะเสียสละความสุขของตนเพื่อความสุขส่วนรวม หรือความพอใจที่จะลดทิฐิมานะส่วนตน รู้จักให้อภัยกันและกัน เพื่อความสามัคคีปรองดอง จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากคุณธรรมที่เรียกว่า ‘ปัญญา’ คือความรู้จักเหตุ รู้จักผล และเห็นคุณประโยชน์ของความดีที่จักได้กระทำมากกว่าความเห็นแก่ตัว
จึงขอให้ทุกท่านใช้โอกาสวันจักรี เป็นวันเริ่มต้นศึกษาถึงพระราชคุณูปการของพระบรมราชจักรีวงศ์ เพื่อให้เห็นประโยชน์ที่แท้จริงของการเจริญรอยตามพระราชปณิธาน อันจักนำมาซึ่ง ‘ฉันทะ’ ความพอใจ ที่จะวิริยะพากเพียรอุทิศตนเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน อันหมายถึงการบำรุงรักษาสถาบันชาติ ซึ่งเสมอด้วยความสุขส่วนบุคคลของแต่ละคนๆ ที่อาศัยในราชอาณาจักรนี้นั่นเอง
และการปลูกฉันทะความพอใจ จนเป็นปณิธานที่จะอุทิศตนเป็น ‘ชาติพลี’ ได้ด้วยใจจริง ฉะนี้แล คือ ‘ราชพลี’ สนองพระมหากรุณาธิคุณอันล้ำเลิศที่สุด”
ข้อมูลจาก สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช