สิ้นแล้ว..สองร่มโพธิ์แก้ว!! ไฟเผาสรีระสังขาร หลวงปู่บุญเพ็ง มิทันมอด "หลวงปู่ท่อน" ก็ละสังขารอีกรูป ภาพหายากไว้ระลึกถึง พระอริยแห่งวงกรรมฐาน

 

          เย็นเมื่อวานนี้ ๗ เมษายน ๒๕๖๑ ขณะที่ศิษยานุศิษย์กำลังร่วมถวายเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต ไฟยังมิทันเผาไหม้สรีระร่างแล้วเสร็จ หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ก็มาละสังขารไปอีกหนึ่งองค์ นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงกรรมฐาน หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ได้ละขันธ์เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพาน ในวันเสาร์ที่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๑ เวลา ๑๖.๔๖ น.ด้วยอาการสงบ ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพฯ สิริอายุ ๘๙ ปี 

 

 

          หลวงปู่ท่อน และหลวงปู่บุญเพ็งท่านเป็นศิษย์ของ ท่านพระอาจารย์มั่น เป็นพระอริยเจ้าแห่งวงพระกรรมฐาน หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ท่านเป็นพระผู้เลิศในกตัญญู "ญาณธโร นักปราชญ์ผู้ทรงซึ่งความรู้ " แห่งวัดป่าศรีอภัยวัน บ้านนาอ้อ ตำบลนาอ้อ อำเภอเมือง จังหวัดเลย 

           หลวงปู่ท่อน ท่านเล่าว่า "เรารู้จักกันกับครูบาบุญเพ็งวัดถ้ำกลองเพล (หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถ้ำกลองเพล บ้านน้อย ตำบลโนนทัน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู) ตอนพระอาจารย์คำดี (หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ ตำบลนาอ้อ อำเภอเมือง จังหวัดเลย) ท่านพาเราไปช่วยเตรียมงานประชุมเพลิง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ วัดสุทธาวาส สกลนคร "

          หลวงปู่ท่อน ยังเล่าว่า เราไปช่วยเตรียมงานประชุมเพลิงหลวงปู่มั่นที่วัดป่าสุทธาวาส อากาศตอนนั้นมันหนาวมาก ครูบาบุญเพ็งท่านถือเทียนไขมาขอไม้ขีดจุดไฟกับเรา ท่านบอกจะเอาไปจุดไฟต้มน้ำสรง ท่านว่าอากาศมันหนาวฮ้ายครูบา เราก็เอาไม้ขีดไฟให้ท่าน เราบอกครูบาบุญเพ็งบ่ต้องเอาไม้ขีดมาคืนผมดอกให้ครูบาเอาไปใช้เลย ผมมีสำรองไว้อยู่อันหนึ่ง 

 

 

 

         วันหลังเราไม่มีเทียนไขติดโคมไฟเดินจงกรม ครูบาบุญเพ็งท่านเอาเทียนไขของท่านมาให้เราเล่มหนึ่ง ท่านบอก ครูบาเอาไปใช้โลดผมยังมีเหลืออีกเล่มหนึ่ง ให้ครูบาใช้เทียนของผมเดินจงกรมคักๆโลด เอาแม่มันซอดแจ้งโลด (เดินจงกรมเอาจนมันสว่างไปเลย) ถ้าบ่พอผมสิไปขออาจารย์มหา ( หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ) มาให้อีก "

หลวงพ่อท่อน " เราก็บ้าตามคำยอของครูบาบุญเพ็ง ( หลวงพ่อบุญเพ็ง เขมภิรโต ) เราเดินจงกรมเอาแม่มันคักๆ เราเดินจงกรมจนเทียนขนาดแท่งหนึ่งบาทดับไปตอนไหนก็ไม่รู้ จิตตนเองดับโลกไปก่อนเทียนลาแสง จิตในอุราเราสว่างไสวแสงเทียนไขก็ไม่สู้ เราเดินจงกรมในคืนนั้นอยู่วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร ( ปลายปี ๒๔๙๒ ) จนตีสี่กว่าเข้าตีห้า จิตจึงถอนใจออกมาดูโลก มองดูฟ้า เห็นแสงตะวันทอแสงพออูมพูม ( แสงเงินแสงทองเริ่มสาดส่องฟ้า ) เรากลับที่พักล้างหน้า ล้างตา ป้วนปากแปรงฟันตนเอง รีบไปเอาบริขารอาจารย์คำดี ( หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ อำเภอเมือง จังหวัดเลย ) ลงมาศาลาวัดสุทธาวาส "..
 

 ( หลวงปู่ท่อน ญาณธโร หลวงปู่บุญเพ็ง เขมภิรโต กำลังออกรับบิณฑบาต วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๓๔ ในงานฉลองศาลา " เมตตาฐานสโม " วัดป่าฐานสโม บ้านซำทอง ตำบลนามาลา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย)

 

           เราก็บ้าตามคำยอของครูบาบุญเพ็ง ( หลวงพ่อบุญเพ็ง เขมภิรโต ) เราเดินจงกรมเอาแม่มันคักๆ เราเดินจงกรมจนเทียนขนาดแท่งหนึ่งบาทดับไปตอนไหนก็ไม่รู้ จิตตนเองดับโลกไปก่อนเทียนลาแสง จิตในอุราเราสว่างไสวแสงเทียนไขก็ไม่สู้ เราเดินจงกรมในคืนนั้นอยู่วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร ( ปลายปี ๒๔๙๒ ) จนตีสี่กว่าเข้าตีห้า จิตจึงถอนใจออกมาดูโลก มองดูฟ้า เห็นแสงตะวันทอแสงพออูมพูม ( แสงเงินแสงทองเริ่มสาดส่องฟ้า ) เรากลับที่พักล้างหน้า ล้างตา ป้วนปากแปรงฟันตนเอง รีบไปเอาบริขารอาจารย์คำดี ( หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ อำเภอเมือง จังหวัดเลย ) ลงมาศาลาวัดสุทธาวาส 

หลวงปู่ท่อน บอกว่า เรารู้จักกันกับพ่ออุปัชฌาย์ใหญ่จูม ( พระธรรมเจดีย์ หลวงปู่จูม พันธุโล วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี ) ครูบาบุญเพ็ง ( หลวงพ่อบุญเพ็ง เขมาภิรโต ) พระอาจารย์ดุลย์ ( หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ) พระอาจารย์ฝั้น ( หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ) พระอาจารย์ตื้อ ( หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ) พระอาจารย์หล้า ( หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ) พระอาจารย์เจี๊ยะ ( หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท ) พระอาจารย์มหาบัว ( หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ) และครูบาอาจารย์หมู่เพื่อนสหธรรมิกอีกหลายองค์ที่งานประชุมเพลิง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดสุทธาวาส สกลนคร 

 

นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา

"ขอนอบน้อมแด่ท่านผู้หลุดพ้นแล้ว (จากกิเลส) ทั้งหลาย ขอนอบน้อมแด่วิมุตติธรรม (ธรรมอันหลุดพ้นคือพระนิพพาน)"

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ ศรัทธาพ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่มั่น  ภูริทัตโต

                           เพจ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม